ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 3,644 ราย ในปท.2,803-ตรวจเชิงรุก810-ตปท.31,ตาย 44
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,644 ราย ประกอบด้วย
– ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,803 ราย
– จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 648 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 162 ราย
– ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 31 ราย โดยยังคงมีการเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ
– มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 44 ราย แยกเป็นเพศชาย 26 ราย เพศหญิง 18 ราย อายุระหว่าง 29-92 ปี ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังมาจาก กทม.
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 236,291 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 193,106 ราย เพิ่มขึ้น 1,751 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,819 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีการหารือข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องการล็อกดาวน์กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันการระบาดในวงกว้าง เนื่องจากมีความกังวลว่าบุคลากรทางการแพทย์ และเตียงจะไม่สามารถรองรับได้ในสถานการณ์ขณะนี้ ซึ่ง ศบค.ย้ำว่าพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอและความห่วงใยจากทุกฝ่าย
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้นำเสนอทางเลือกในการล็อกดาวน์ไว้เฉพาะจุด เช่น 1.เลือกปิดเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง หรือ 2.เลือกปิดเฉพาะบางจุดที่มีกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก หรือ 3.เลือกปิดเฉพาะในกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด พร้อมทั้งยกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการล็อกดาวน์อาจไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหา เพราะจะเป็นการจุดชนวนให้มีการแพร่ระบาดในวงกว้างมากขึ้น ดังกรณีของคลัสเตอร์มัรกัสยะลา ที่เมื่อมีการปิดแล้ว ประชาชนก็เดินทางเคลื่อนย้ายไปยังจังหวัดอื่นๆ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดกระจายไปหลายจังหวัด
ดังนั้นการปิดหรือล็อกดาวน์อาจไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เรื่องนี้จำเป็นต้องมีการหารือกันอย่างรอบคอบทั้งในมิติด้านสาธารณสุข และมิติด้านเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย มาหารือกันในเวลา 14.00 น. เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้
ปัจจุบันมีจำนวนผู้รับได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-24 มิ.ย. 64 มีผู้ได้รับวัคซีนสะสมรวม 8,657,423 โดส เป็นแข็มแรก 6,206,353 โดส และเข็มที่สอง 2,451,070 โดส
วันนี้ กรุงเทพฯมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง 107 ลัสเตอร์ใหม่ โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ในหลายเขต เช่น โรงงานผลิตเสื้อผ้า เขตบางบอน โรงงานจำหน่ายพลาสติกบรรจุภัณฑ์ภาชนะ เขตบางแค แคมป์ก่อสร้าง เขตคู้บอน แคมป์ก่อสร้างย่านพัฒนาการ เขตสวนหลวง บริษัทผลิตแก๊สปิโตรเลียม,โรงงานขนมขบเคี้ยว, โรงงานผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง เขตบางขุนเทียน
ส่วนต่างจังหวัดมีคลัสเตอร์ใหม่ เช่นโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปปราการ โดยเกี่ยวพันจากหลายคลัสเตอร์ก่อนหน้านี้ จากกลุ่มนักศึกษาช่างฝีมือมาฝึกงาน ศรีราชา จังหวัดระยอง เป็นแคมป์ก่อสร้าง ส่วนนนทบุรี ยังพบ เป็นโรงงานสาหร่ายแปรรูป ย่านปากเกร็ด แบะโรงงานพลาสติก ย่านบางกรวย จังหวัดนครปฐม เป็นโรงฆ่าสัตว์ ต.ท่าข้าม อ.สามพราน
ขณะที่แผนเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลและเตียง รองรับผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดง ได้แก่ โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ปรับเพิ่มตียง 86 เตียง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 140 เตียง และโรงพยาบาลธนบุรี (มณฑลทหารบกที่ 11) 255 เตียง คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์จะเปิดรองรับผู้ป่วยได้