บล.เอเซียพลัส

หวังปันผลได้สม่ำเสมอ ขณะรอ Upside ใหม่ๆ
คาดกำไรปกติ 2Q64 อยู่ในเกณฑ์ดีเติบโต qoq ตาม ADVANC โดยต้นทุนคลื่นใหม่ ADVANC ชดเชยจากการควบคุมต้นทุนต่างๆ ให้เหมาะกับเศรษฐกิจ ขณะที่ COVID ระบาดที่มีผลต่อกำลังซื้อ ได้ 5G เป็นตัวหนุนช่วยชดเชยผลกระทบธุรกิจมือถือ ขณะที่การเติบโตธุรกิจรอง อาทิ อินเตอร์เนตบ้าน ขึ้นมาประคองรายได้ชดเชย THCOM ที่แย่ลง ประเมิน Yield 1H64 ที่ 1.8%

คาดกำไรฟื้นตัวใน 2H64 จาก ADVANC ด้วยความเป็นผู้นำ 5G และการดึงบริการพันธมิตรเข้ามาสร้างความแตกต่าง บวกกับ THCOM ที่คาด Turnaround จากต้นทุนลดลงนับจาก 4Q64 ถือเป็น Upside กำไรทั้งปีคาดทรงตัว และกลับมาเติบโตอีกครั้งนับจากปี 2565 ช่วยให้ปันผลสม่ำเสมอ โดยไม่รวม Upside ปันผลและ Synergy หลัง GULF เข้ามาซื้อลงทุนระยะยาว

คาดกำไรปกติ2Q64 ยังประคองได้ดี ตาม ADVANC
คาดกำไร 2Q64 อยู่ที่ 2.72 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1%qoq ตามส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม (หลักๆ จาก ADVANC (ถือหุ้น 40.45%)) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4%qoq มาจากฐาน 1Q64 ที่มีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และได้ผลบวกต้นทุนในส่วนต้นทุนดำเนินงาน (ต้นทุนบริการ (ไม่รวม IC)+ค่าใช้จ่ายขายบริหาร) ที่ลดลงจากการลดงบการตลาดช่วง COVID ระบาด และการบริหารต้นทุนภายในองค์กรที่ครอบคลุมถึงต้นทุนโครงข่ายด้วย ช่วยลดผลกระทบต้นทุนการลงทุนโครงข่าย 5G และคลื่น 700 MHz ชุดสุดท้ายที่รับรู้เพิ่มเติมเป็นงวดแรก

ขณะที่รายได้บริการ 1Q64 ที่ยังมีผลกระทบกำลังซื้อ ชดเชยจากลูกค้า 5G มาอยู่ที่ 9 แสนราย จากสิ้น 1Q64 ที่ 7.19 แสนราย ทั้งหมดช่วยชดเชย THCOM ที่คาดว่าจะพลิกเป็นขาดทุน จากกำไร FX คาดต่ำกว่าลงกว่างวด 1Q64 และธุรกิจหลักที่ปกติที่รายได้ยังลดลงจากผลกระทบความไม่เชื่อมั่นของลูกค้าในช่วงอายุบริการใกล้สิ้นสุดสัมปทานปลายปี

คาดกำไรกลับมาเติบโตนับจาก 2H64 หนุนทั้งปีไม่ต่ำกว่าที่ประเมินทรงตัว
คาดการณ์กำไร 1H64 เป็น 50% ของกำไรทั้งปี ขณะที่คาดงวด 2H64 ฟื้นตัวเล็กน้อยตาม ADVANC จากอานิสงส์ความเป็นผู้นำ 5G+กลยุทธ์สร้างความแตกต่างด้วยบริการจากพันธมิตรล่าสุด Disney+ ที่ใช้ดึงดูดลูกค้าใหม่เพิ่ม และภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆดีขึ้น รวมถึงในส่วนของ THCOM ที่คาดว่าจะผลประกอบการจะดีขึ้นเช่นกัน หลังสัมปทานสิ้นสุด 4Q64 จากต้นทุนลดลง เนื่องจากจะหยุดรับรู้ค่าตัดจำหน่ายสิทธิ์การใช้ดาวเทียมสัมปทานปีละ 800 ล้านบาท

ขณะที่ต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ของดาวเทียมดังกล่าวที่แพง 22.5% ปัจจุบันจ่ายปีละ 400-500 ล้านบาท จะลดลง แต่ Upside ขึ้นกับต้นทุนใหม่ที่จะเข้ามาทดแทน อาทิ ค่าเช่าใช้ดาวเทียมสัมปทานที่อยู่ระหว่างเจรจากับ NT และค่าประมูลสิทธิ์วงโคจรดาวเทียมทดแทนดาวเทียมสัมปทานเดิมในระยะยาว ภาพรวมคาดช่วยกำไรทั้งปีประคองตัวได้ตามประมาณการเป็นอย่างน้อย และกลับมาเติบโตนับจากปี 2565 และยังไม่รวมถึง Synergy ระยะยาว หาก GULF รับซื้อ INTUCH ได้จนมีอำนาจควบคุม

กำไรมั่นคงหนุน Yield ปีละ 4% สม่ำเสมอ และหวัง Upside ได้ หลัง GULF เข้ามา
จุดเด่นกำไรมั่นคงตามบริษัทลูก ADVANC จึงหนุนคาดหวัง Yield ระดับปีละ 4% สม่ำเสมอ ขณะที่มีโอกาสสูงขึ้น จากการเข้ามาของ GULF ผ่าน INTUCH ซึ่งใช้แหล่งเงินทุนจากการก่อหนี้ การเพิ่มอัตราจ่ายปันผล ADVANC จะช่วยลดการก่อหนี้ได้ ยังถือเป็น Upside อีกส่วนนอกจาก Upside เรื่อง Synergy คงแนะนำ ซื้อลงทุนระยะยาว ทั้งนี้ คาด INTUCH จะจ่ายเงินปันผลงวด 1H64 หลังออกงบ 1.17 บาท ให้ Yield 1.8%

แนะนำ : ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บาท) 74.00
ราคาเป้าหมาย (บาท) 64.75
Upside (%) 14.3
Dividend Yield (%) 3.9

- Advertisement -