SET ยังขาดปัจจัยบวกหนุน แนะนาลงทุนหุ้นบาทอ่อน

Investment Ideas:

  • ภาพรวมการลงทุน – เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,545-1,570 จุด ตลาดหุ้นไทย ยังมี โอกาสปรับลดลง ปัจจัยเสี่ยงยังอยู่ท่ีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ และการแพร่ระบาด ของไวรัสสายพันธุ์เดลตาทั่วโลก ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน รวมไปถึงการคาดหมายความต้องการใช้น้ำมันดิบในช่วง 2H64 – 2565 ขณะที่ OPEC+ พึ่งได้ข้อสรุปเรื่องการปรับเพิ่มกำลังผลิต (กระทบหุ้นในกลุ่ม Oil Play ระยะสั้น) ภาพรวมการลงทุนในปัจจุบันเริ่มสะท้อนภาวะ Risk-off หลังราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนำหุ้นที่ยังได้ Sentiment เชิงบวก ในลักษณะ Selective หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า หุ้นในกลุ่ม Logistic และหุ้นในกลุ่ม WFH สัปดาห์น้ียังต้องติดตามการประชุม BoJ (21 ก.ค.) และการประชุม ECB (22 ก.ค.) เกี่ยวกับมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และการใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายที่ต่อเนื่อง
  • ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทาการเนื่องในวันเทศกาลฮารีรายอ ฮัจจิ (Hari Raya Haji)
  • หุ้นส่งออกเด่น ปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทอ่อน เราเลือก SONIC APURE TU HANA NER และ AH เป็นหุ้นเด่น – ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทล่าสุด 32.87 บาทต่อเหรียญ ทำให้ในช่วง 3Q64QTD อ่อนค่า 0.82 บาท (อ่อนค่าลง 2.6%) และในปี 2564YTD อ่อนค่าลงกว่า 8.1% ปัจจัยดังกล่าวยังคงเป็นบวก ต่อหุ้นในพอร์ต Core Investment ของเรา ใน Theme หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า (ASIAN TU HANA KCE SAT AH PACO MEGA NER EPG CBG และ SMPC) และ หุ้นที่ประโยชน์จากการ ส่งออกที่เพิ่มขึ้น (APURE SONIC JWD WICE และ NYT)
  • ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังการฟื้นตัวเศรษฐกิจเริ่มไม่แน่นอน – สถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมา แพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาทั่วโลก เพิ่มความกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบจากการฟื้นตัวของ ภาพรวมเศรษฐกิจท่ีเริ่มมีความไม่แน่นอน ยังเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นในกลุ่ม Oil Play (PTTEP TOP SPRC IRPC และ PTTGC) โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น โดยอังกฤษ อินโดนีเซีย และอินเดีย ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงกว่า 3 หมื่นรายต่อวัน (ข้อมูลจาก Worldometers) ขณะที่สหรัฐฯ มีจานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 15,000 รายต่อวัน ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สูงกว่าค่าเฉลี่ยในเดือน มิ.ย. ที่ระดับ 11,000 รายต่อวัน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในอังกฤษเพิ่มขึ้นหลังไม่ได้ใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ในการจัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลยูโร 2020 (11 ก.ค.) ขณะท่ีปัจจุบันอังกฤษประกาศยกเลิกล็อกดาวน์
  • Key Takeaways: APURE (n.a.., IAA Consensus 5.10 บาท) ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นปัจจัยหนุนเบื้องต้น คาดกำไรปี 64 เติบโตเด่น – เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า หนุนรายได้จากการส่งออก เบื้องต้นเราคาดว่ารายได้ปี 64 เติบโต 35%YoY ถึง 40%YoY ตลาดข้าวโพดจากต่างประเทศเติบโต ต่อเนื่อง จากความต้องการบริโภคท่ีเพิ่มขึ้น และบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตปี 64-65 เพิ่มขึ้น คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 64 อยู่ในกรอบ 6% ประเมินราคาเบื้องต้นอยู่ระหว่าง 7.15-8.00 บาท
  • Earnings Preview: SC (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 3.28 บาท) คาดผลประกอบการ 2Q64 เติบโตเด่น จากโครงการแนวราบ – คาดกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 514 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ยอด Presales 2Q64 อยู่ที่ 5,600 ล้านบาท โดย 85% ยังเป็นโครงการแนวราบ ผลกระทบจากการปิดแคมป์แรงงานก่อสร้าง 30 วัน กระทบการโอนและแผนการก่อสร้าง ในกรอบที่จำกัด คาด 2H64 ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง จาก Backlog ที่รอโอน เงินปันผลปี 64 เราคาดว่าจะไม่น้อยกว่า 0.17 บาท ต่อหุ้น (Div.Yld. 5.7%)
  • บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน – Earnings Preview: SC / Key Takeaways: APURE
  • ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจท่ีสำคัญวันนี้ – รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีและ 5 ปี โดยตลาดคาดว่าอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี จะอยู่ที่ 3.85% และ อัตรา ดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี จะอยู่ที่ 4.65% / รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง (Building Permits) เดือน มิ.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 1.70 ล้านยูนิต) และจำนวนบ้านใหม่ที่กำลังก่อสร้าง (Housing Starts) เดือน มิ.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 1.59 ล้านยูนิต)
  • มุมมองทางเทคนิค – เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,545-1,570 จุด หุ้นแนะนำทางเทคนิควันนี้ได้แก่ CSS SR TMI BANPU และ PIMO

Core Investment

  1. หุ้นโรงพยาบาล (ซื้อขายระยะสั้น 1 เดือน) เราเลือก TM SMD BCH BDMS และ CHG
  2. WFH เราเลือก (ซื้อขายระยะสั้น 1 เดือน) ADVANC TRUE TPAC SCGP JAS ITEL INSET NETBAY YGG และ AS
  3. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า (ซื้อขายระยะกลาง 1-3 เดือน) เราเลือก ASIAN TU HANA KCE SAT AH PACO MEGA NER EPG CBG และ SMPC
  4. หุ้นที่ประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น (ซื้อขายระยะกลาง 1-3 เดือน) เราเลือก APURE SONIC JWD WICE และ NYT
  5. หุ้นสะสมระยะยาว (DCA) (ซื้อขายระยะยาว มากกว่า 1 ปี) เราเลือก AOT BEM ADVANC WHA LH CPALL CPF BDMS HMPRO BBL และ KTB

ตลาดต่างประเทศ (อินโฟเควสท์): 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,962.04 จุด ลดลง 725.81 จุด (-2.09%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,258.49 จุด ลดลง 68.67 จุด (-1.59%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,274.98 จุด ลดลง 152.25 จุด (-1.06%) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับลดลง สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อภาวะ เศรษฐกิจทั่วโลก ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตา ทำให้เกิดแรงขายหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ (กลุ่มธุรกิจเรือสาราญและกลุ่มสายการบิน) รวมท้ังแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน ท่ีลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ลดลงกว่า 7%

ตลาดหุ้นยุโรป : ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 444.29 จุด ลดลง 10.45 จุด (-2.30%) ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลง เป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

สินค้าโภคภัณฑ์ (อินโฟเควสท์):

  • ราคาน้ำมันดิบ : สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 66.42 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 5.39 เหรียญ (-7.5%) และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 68.62 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 4.97 เหรียญ (-6.8%) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับลดลง หลังจากกลุ่ม OPEC+ มีมติปรับเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน นอกจากน้ีตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันท่ัวโลก
  • ราคาทองคำ : สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดท่ี 1,809.2 เหรียญต่อออนซ์ ลดลง 5.8 เหรียญ (-0.32%) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
  • ราคาถ่านหิน : ราคาถ่านหินตลาดล่วงหน้า (Newcastle) ส่งมอบเดือน ส.ค. 64 ล่าสุด ปิดที่ 153.7 เหรียญต่อตัน เพิ่มข้ึน 2.7 เหรียญ (+1.79%)
  • ค่าระวางเรือ : Baltic Dry Index (BDI) ล่าสุดปิดท่ี 3,059 จุด เพิ่มขึ้น 20 จุด (+0.66%)

ข่าวอื่น ๆ

• APURE เปิดตลาดใหญ่สหรัฐ-ยุโรปสำเร็จ ออเดอร์พุ่งจนต้องเลือก ผลพวงโควิด-ภัยแล้ง แห่ซื้อสินค้าอื้อ ยอมรับ ยอดที่ตั้ง 20-25% อาจทะลุได้เปรียบตลาดยุโรป หลังชนะคดีทุ่มตลาดเจ้าเดียวกดภาษีนาเข้ายุโรปเหลือแค่ 3% เทียบคู่แข่งไทยท่ี 13% เดินหน้าขยายต่อเนื่อง กำลังการผลิตสูงดันมาร์จิ้น ขณะท่ีต้นทุนเหล็กต่ำเหตุใช้เงินสดจ่าย ล่วงหน้า (ทันหุ้น)

• GPSC สตาร์ตโรงงานผลิตแบตเตอรีแล้วเริ่มต้น 30 MWh ปักหมุดขยายกำลังการผลิตสู่ 1GW พื้นที่ EEC ในอีก 2 ปี ตั้งเป้าขยายถึง 10 GWh ใน 10 ปี คาดใช้เงินลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ชี้ตลาดอนาคตใหญ่ เน้นในประเทศก่อน ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน กระแสเงินสดเพียงพอลงทุน (ทันหุ้น)

• UPA ซื้อกิจการ GTG ลุยขยายธุรกิจกัญชง-กัญชา ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแบบครบวงจร สายพันธุ์ Raksa ใช้ทางการแพทย์และเป็นส่วนผสมผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคโดยออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 8,449.7 ล้านหุ้นจัดสรร PP แก่กลุ่มผู้ถือหุ้น GTG (ทันหุ้น)

- Advertisement -