บล.เอเชียเวลท์:
บมจ. อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) แนวโน้มปี 64 เติบโตเด่น
- เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า หนุนรายได้จากการส่งออก
- เบื้องต้นเราคาดว่ารายได้ปี 64 เติบโต 35%YoY ถึง 40%YoY
- ตลาดข้าวโพดจากต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น
- บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตปี 64-65 เพิ่มขึ้น
- คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 64 อยู่ในกรอบ 6%
- ประเมินราคาเบื้องต้นอยู่ระหว่าง 7.15-8.00 บาท
ประเมินราคาเบื้องต้นอยู่ระหว่าง 7.15-8.00 บาท
จากการพูดคุยกับทางบริษัท พบว่าแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปี 64 มีแนวโน้มเติบโต YoY ซึ่งหนุนจากการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรในการผลิตในปี 63 ที่ผ่านมา และออเดอร์จากลูกค้ารายใหม่ รวมไปถึงแนวโน้มของค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ยังเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิต ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการดำเนินงานได้ในปี 65 ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 64-66) บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตขั้นต่ำ (CAGR) 20-30% ต่อปี และบริษัทยังมีความน่าสนใจแง่เงินปันผล ซึ่งคาดว่าจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 64 ราว 6% ทั้งนี้เราประเมินกำไรสุทธิในปี 64 เบื้องต้นไว้ท่ี 400 ล้านบาท และอิง PER 17.0-19.0 เท่า จะได้กรอบราคาเป้าหมายท่ี 7.15-8.00 บาท
ตลาดข้าวโพดในต่างประเทศ หนุนการขยายกำลังการผลิตในปี 64-65
ปัจจุบัน บริษัทมีไลน์การผลิตข้าวโพดแปรรูปจำนวน 5 ไลน์การผลิต คิดเป็นกำลังการ ผลิตรวมอยู่ที่ 150,000 ตัน โดยในปี 63 บริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 81.37% โดยบางไลน์ได้ใช้ผลิตเต็มกำลังการผลิตแล้ว เราจึงคาดว่าบริษัทมีแผนขยาย กำลังการผลิตในปี 64-65 เพิ่มข้ึนอีก 20% และ 15% ตามลำดับเพื่อรองรับตลาด ข้าวโพดแปรรูปในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอเมริกาและยุโรป
คาดแนวโน้มรายได้ปี 2564 เติบโต 35-40%YoY
เราคาดว่ารายได้ปี 2564 ของบริษัทจะเติบโตราว 35-40%YoY หนุนจาก 1) ดีมานด์ที่ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง แม้คำส่ังซื้อมีการเลื่อนออกไปบางส่วนจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่ผลกระทบจำกัด และ 2) เงินบาทอ่อนค่า โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้ในปี 2563 จากต่างประเทศคิดเป็น 91% และในประเทศคิดเป็น 9% 3) มีการพัฒนาสินค้าแบรนด์ ของบริษัทเพิ่มขึ้น และ 4) บริษัทพัฒนาและปรับรูปแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น YoY (อัตรากำไรขั้นต้นปี 2563 อยู่ท่ี 26.8%)
ลักษณะธุรกิจ
บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company) โดยดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรม เกษตรและอาหารผ่านบริษัทย่อยต่างๆ ซึ่งในปี 63 กว่าร้อยละ 90% เป็นการขายเพื่อการส่งออก (Oversea Market) แบ่งเป็น 3 ประเภทผลิตภัณฑ์หลัก ประกอบด้วย (1) ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องมีรายได้ 1,570 ล้านบาท คิดเป็น 79% (2) ผักและผลไม้สดมีรายได้ 68 ล้านบาท คิดเป็น 3.5% (3) ข้าวโพดหวานบรรจุถุงสุญญากาศมีรายได้ 173 ล้านบาท คิดเป็น 8.7% และ (4) รายได้จากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในประเทศไทย 8.8%
N/A
IAA Consensus : Bt5.10
Closing price: Bt5.65
Upside/downside: -9.73%