บล.เอเซียพลัส:
กําไรเร่ิมกลับเข้าใกล้ก่อน COVID
คาดกําไร 2Q64 ที่ 1.6 พันล้านบาท ใกล้ฐานก่อน COVID ไตรมาสละ 2.0 พันล้านบาท เติบโต 249%yoy โดยหลักจากรายได้บริการที่เกี่ยวกับ COVID ทั้งการตรวจ, การรักษา และ Hospitel หนุนรายได้เติบโต 22%yoy ขณะท่ี งวด 3Q64 คาดเติบโต yoy ต่อเนื่อง ตามการระบาดที่ยังรุนแรง
ทั้งนี้ จากรายได้ COVID ดังกล่าวที่มากกว่าคาดเดิมเชื่อว่าจะช่วยบรรเทา Downside จากสมมติฐานผู้ป่วย Fly-in ที่คาดฟื้นตัวราว 30% ของปีปกติได้บางส่วน ภาพรวมจึงยังคงคาดกําไรปี 2564 เติบโต 43% ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังไม่ รวม Upside เพิ่มเติมจากการให้บริการวัคซีนทางเลือก ที่เชื่อว่าจะเป็น Recurring นับจากปี 2564 ปัจจุบันราคาหุ้น Laggard กลุ่มฯ ขณะที่ปี 2565 ยังคาดหวังความต่อเนื่องการเติบโตได้มากกว่า จึงยังแนะนํา ซื้อ
คาดกําไร 2Q64 โตสูง 249%yoy แต่ยังต่ำกว่าปีปกติ
ประเมินกําไร 2Q64 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เติบโต 249%yoy กลับเข้าใกล้เคียงกําไรราย ไตรมาสช่วงก่อน COVID เฉลี่ยไตรมาสละ 2.0 พันล้านบาท หนุนจากทั้งผลฐานต่ำที่มีการLockdown งวด 2Q63 ประกอบกับ รายได้รวมที่ฟื้นตัวดีขึ้น จากรายได้เสริมท่ีเกี่ยวกับ COVID เช่น การตรวจ COVID-19 ท่ีเฉลี่ยราว 3.5 พันราย/วัน (จากราว 1.5 พันราย/วัน ในงวด 1Q64) รวมถึง บริการรักษาผู้ป่วย COVID เตียงรวมราว 1.6-1.8 พันเตียง โดยเป็น การทยอยเพิ่มจากเม.ย.-มิ.ย.64 คิดเป็นราว 20% ของกําลังให้บริการทั้งหมดในเครือท่ีมี ราว 8.6 พันเตียง ซึ่งหากรวมผู้ป่วยโรคปกติ อัตราใช้บริการงวด 2Q64 จะสูงราว 60%- 70% ใกล้เคียงก่อน COVID และยังมี Hospitel อีกราว 500 ห้อง ภาพรวมหนุนรายได้รวม เติบโต 22%yoy ใน 2Q64 ขณะท่ี Net profit margin เพ่ิมเป็น 9.5% จาก 3.3% งวด 2Q64 หลักๆจากผลประหยัดต่อขนาด จากการเปิดให้บริการด้าน COVID มากขึ้น + การ บริหารค่าใช้จ่ายภายในท่ีดีข้ึนเทียบกับช่วง COVID ระบาดระยะแรก
งวด 2H64 ยังคาดหวังการเติบโตได้ต่อเนื่อง
ฝ่ายวิจัยคาดกําไรงวด 3Q64 คาดหวังการเติบโต yoy ต่อเนื่อง จากแนวโน้มการระบาดที่ยังรุนแรง ฝ่ายวิจัยประเมินจะยังเห็นรายได้จาก COVID-19 เพิ่มข้ึน โดยปัจจุบันข้อมูล ล่าสุด BDMS คาดตรวจเฉลี่ยราว 6 – 7 พันราย/วัน และเตียงรักษาผู้ป่วย COVID เพิ่มเป็น 2.4 พันเตียง/วัน ซึ่งปัจจุบันให้บริการระดับกว่า 95% ของกําลังให้บริการแล้ว ขณะที่ผู้ป่วยปกตเชื่อว่าน่าจะยังคาดหวังการฟื้นตัวได้ในพื้นท่ีต่างจังหวัดท่ีมีการระบาดจํากัดกว่า ภาพรวมคาดหนุนแนวโน้ม 2H64 ให้ยังคาดหวังการเติบโตต่อเนื่อง โดยจากทิศทางรายได้ COVID ที่สูงกว่าสมมติฐานเดิม คาดจะช่วยชดเชย Downside จากผู้ป่วย Fly-in ท่ีกําหนดฟื้นตัวระดับ 30% ของปีปกติ ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ยากในภาวะปัจจุบันจึงยังคงคาดกําไรปี 2564 เติบโต 43.3% และฟื้นตัวต่อ 12.3% ในปี 2565 จากการกลับมาของผู้ป่วย Fly-in ทั้งน้ี ฝ่ายวิจัยยังไม่รวม Upside จากบริการวัคซีนทางเลือก Moderna ท่ีบริษัทน่าจะเร่ิมได้รับจัดสรรราว 2.4 แสนโดส ตั้งต้ังแต่งวด 4Q64 ซึ่งคาดว่ารายได้จากวัคซีนทางเลือกน่าจะมีความต่อเนื่องในระยะยาวนับจากปี 2564 เหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบัน
ราคายังน่าสนใจลงทุน ระยะกลาง – ยาว
ราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวเพิ่มข้ึน 10.6%YTD เทียบกับกลุ่มรพ.ที่ปรับเพิ่ม 19.1% เชื่อว่ายัง Laggard กว่า เทียบกับกลุ่มรพ.ประกันสังคมที่มีการเก็งกําไรขึ้นมามาก แต่หากพิจารณาความต่อเนื่องการเติบโตในปี 2565 เชื่อว่า BDMS ยังคาดหวังความต่อเนื่องได้มากกว่า จึงเชื่อว่ายังเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อลงทุนระยะกลาง – ยาว
ประะเด็นควมเสี่ยง
1.สภาวะทางเศรษฐกิจในประเทศของผู้ป่วยต่างชาติที่มารักษาท่ีเปลี่ยนแปลงไป อาจส่งผลกระทบต่อการเข้ามารักษา
2.การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งหมอและ พยาบาล
3.ความเสี่ยงเกี่ยวกับกฏระเบียบที่เปลี่ยนแปลง เช่น การ ควบคุมยา เวชภัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาล
แนะนํา : ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บาท) 23.0
ราคาเป้าหมาย (บาท) 24.0
Upside (%) 4.4
Dividend Yield (%) 1.2