บล.เอเซียพลัส:

กําไร 2H64 จะเพิ่มข้ึนเป็นขั้นบันได

แม้คาดกําไร 2Q64 ลดลงจาก 1Q64 แต่เกิดจากฐานที่มีกําไรพิเศษ เฉพาะกําไรปกติงวด 2Q64 ประคองตัวได้ดีลดลงเล็กน้อย qoq จากฐานกําไร 1Q64 ที่ใกล้เคียงสถิติสูงสุดรายไตรมาส โดยมีธุรกิจการเงิน JMT และ SINGER เป็นเติบโตต่อเนื่อง ช่วยลดผลกระทบธุรกิจค้าปลีก คือ J Mobile และ J ที่คาดเห็น ผลกระทบการระบาด ซึ่งการปรับลดต้นทุนช่วยชดเชยผลกระทบบางส่วน

ประเมินกําไร 3Q64 และ 4Q64 เติบโตเป็นขั้นบันได หนุนจากธุรกิจ JMT ที่ได้แรงบวกการรับรู้กําไรจากหนี้ที่ติดตามได้เพิ่ม หลังมีก้อนหนี้ที่จัดเก็บเงินครบ เงินลงทุนเพิ่มต่อเนื่อง, SINGER ที่คาดรักษากําไรระดับสูง และธุรกิจ J Mobile เข้าสู่ฤดูกาล คาดหนุนกําไรทั้งปีโต 51% มูลค่าพื้นฐานที่ไม่รวม Upside ส่วน อาทิ ธุรกิจใหม่, การนํา บ.ลูกเข้าตลาดเพิ่ม มี Upside 15% คงคําแนะนํา ซื้อ

คาดกําไรปกติ 2Q64 ประคองตัวได้ดี ลดลงเล็กน้อย 4.2% จาก 1Q64 ที่ฐานสูง

คาดกําไรสุทธิงวด 2Q64 อยู่ท่ี 252 ล้านบาท แม้ลดลง 24.4%qoq แต่เกิดจากฐานกําไร ในงวด 1Q64 ที่มีกําไรพิเศษจากการวัดมูลค่าธุรกิจให้สินเชื่อ KBJ ใหม่ หลังเพิ่มทุนให้กลุ่ม KB เข้ามาถือหุ้น นับเฉพาะกําไรปกติ เติบโตสูง 66.8%yoy ขณะท่ีลดลงเล็กน้อย 4.2%qoq จากฐานสูงใน 1Q64 ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงสถิติสูงสุดรายไตรมาส หนุนจาก ธุรกิจเช่าซื้อและจํานําทะเบียนรถ SINGER (ถือหุ้น 32.5%) ที่สินเช่ือเช่าซื้อมีแรงหนุนจาก ฤดูกาลขายอุปกรณ์ทําความเย็น เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้แช่แข็ง ขณะท่ีธุรกิจจํานํา ทะเบียนรถ คาดขยายพอร์ตสินเช่ือต่อเนื่อง ขณะท่ีธุรกิจรับติดตามและบริหารหนี้ (JMT ถือหุ้น 52.8%) คาดขยายตัวเล็กน้อยตามการจัดเก็บหนี้ท่ีทําได้สูงข้ึน ขณะท่ีหักล้างบางส่วนจากธุรกิจจําหน่ายมือถือ J Mobile (ถือหุ้น 99%) ท่ีอ่อนตัวลง qoq จากช่วง จําหน่าย iPhone 12 รวมท้ังยังมีผลกระทบ COVID ซึ่งคาดมีส่วนกดดันธุรกิจพื้นท่ีเช่า J (ถือหุ้น 74.9%) ด้วย ขณะท่ีธุรกิจให้สินเชื่อ KBJ (ถือหุ้น 49.9%) ท่ีเพิ่งได้กลุ่ม KB จากเกาหลีใต้เข้าร่วมทุน ยังอยู่ในช่วงปรับปรุงระบบภายใน กอปรกับภาวะเศรษฐกิจไม่สดใส ทําให้ยังเน้นที่การรักษาคุณภาพหนี้เป็นหลัก

ทิศทางกําไรสุทธิจะเติบโตโดดเด่นในงวด 2H64

แม้คาดการณ์กําไรสุทธิงวด 1H64 คิดเป็น 48% ของประมาณการท้ังปี แต่เนื่องจากคาดว่า กําไรงวด 3Q64 และ 4Q64 จะเพิ่มข้ึนเป็นขั้นบันได โดยมีแรงหนุนจาก JMT ที่คาดว่าจะ รับรู้รายได้จากก้อนหน้ีท่ีบริหารมากขึ้น โดยภายใต้จํานวนหน้ีที่ตัดจําหน่ายเงินลงทุนครบได้ที่เพิ่มมากขึ้นงวด 2Q64 จะช่วยให้เงินท่ีจัดเก็บเพิ่มบนหน้ีดังกล่าวรับรู้เป็นกําไรมากขึ้น ขณะท่ีคาดช่วยชดเชยผลกระทบ J Mobile ต้องปิดสาขาราว 50% ของยอดขายในจังหวัดท่ี COVID ระบาดสูงช่วง 3Q64 ท้ังน้ี ธุรกิจดังกล่าวจะกลับมาฟื้นตัวเด่นในช่วงปลายปีท่ี J Mobile จะได้ประโยชน์ช่วงฤดูกาลจําหน่าย iPhone ใหม่ ท้ังหมดคาดช่วยลดผลกระทบ ส่วนแบ่งกําไรบริษัทร่วมจาก SINGER และ KBJ ที่อาจอ่อนตัวเล็กน้อยจาก SINGER ท่ีผ่านฤดูกาลเช่าซื้อ และการต้ังสํารองรองรับความเสี่ยงผลกระทบ Lockdown ท่ีหักล้างการขยายสินเชื่อจํานําทะเบียนรถ SINGER อยู่บ้าง ภาพรวมจึงยังคงกําไรปกติคาดเติบโต 43.1% ในปี 2564 (กําไรสุทธิเพิ่มสูงกว่าที่ 51.8% จากกําไรพิเศษใน 1Q64) ขณะท่ีกําไร ปกติจะเพิ่มอีก 17.6% ในปี 2565 จากแรงหนุนธุรกิจการเงินของกลุ่ม

มูลค่าพื้นฐานไม่รวมธุรกิจใหม่+การนําบ.ลูกเข้าตลาด ยังให้ Upside ลงทุนได้

ภายใต้จุดเด่นผลกระทบ COVID จํากัด สะท้อนจากแนวโน้มกําไรปกติท่ีประคองตัวได้ดีใน งวด 2Q64 ขณะที่จะเพิ่มข้ึนเป็นขั้นบันได้ใน 2H64 และต่อเนื่องในปี 2565 ราคาหุ้นผ่านการปรับฐานจน Fair value ปี 2564 อิงวิธี Sum of the Part (SOTP) ตามมูลค่าพื้นฐาน บริษัทลูกอยู่ท่ี 42 บาท ซึ่งยังไม่รวม Upside จํานวนมาก อาทิ ธุรกิจใหม่ๆ ท่ีกําลังจะ ขยายตัวไป เช่น โลจิสติกส์ นายหน้าประกันภัย รวมถึงแผนการนําบริษัทลูกเข้าตลาดท่ีจะ Unlock มูลค่าธุรกิจอื่นๆ ในระยะถัดไป ยังมี Upside สูงลงทุนได้ที่ 15% จึงเช่ือว่าเป็นโอกาสลงทุน และยังคงให้คําแนะนํา ซื้อ

ประเด็นความเสี่ยง

  1. เศรษฐกิจและกําลังซื้อ
  2. การควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ธุรกิจให้สินเช่ือธุรกิจการเงิน (J Fintech, SINGER)
  3. ผลขาดทุนจากแผนขยายตัวสู่ธุรกิจ Digital Lending (DLP) ระยะแรก

แนะนํา : ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท) 36.50

ราคาเป้าหมาย (บาท) 42.00

Upside (%) 15.1

Dividend Yield (%) 2.4

 

- Advertisement -