คาด SET เคลื่อนไหวลักษณะ sideway up

Investment Idea

  • ภาพรวมการลงทุน – เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,535-1,565 จุด เราคาดว่า SET จะเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway ถึง sideway up โดย SET ได้รับ Sentiment ที่เป็นบวกจากนโยบายการเงินโลกท่ียังไม่เปลี่ยนแปลง โดยล่าสุด ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินการซื้อพันธบัตรตามคาด เรายังแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่มเดิมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่นหุ้นในกลุ่ม Oil Play ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว รวมไปถึง Theme การลงทุนเดิม ที่ยังมีปัจจัยบวกหนุนต่อเนื่อง ได้แก่ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า หุ้นในกลุ่ม Logistic และหุ้นในกลุ่ม WFH เราแนะนำ Selective เฉพาะหุ้นที่ยังมี Upside ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ที่ยังคงเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของ SET
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันแห่งกีฬา (Sport Day)
  • ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินการซื้อพันธบัตรตามคาด – ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 0% และมีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าว จนถึง มี.ค.65 ความเห็นของคณะกรรมการนโยบายการเงินยุโรปคาดหวังที่จะเห็นอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในระดับปัจจุบันหรือต่ำกว่า จนกว่าจะเห็นแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ทำให้เราคาดหมายว่า ECB จะยังไม่ถอนมาตรการช่วยเหลือ ขณะที่ปัจจุบันที่อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย 2% เป็น เพียงผลจากปัจจัยชั่วคราว โดยในเดือน มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของกลุ่มประเทศ EU เพิ่มขึ้นไปอยู่ท่ีระดับ 1.9% ขณะที่มุมมองของ ECB มองการเพิ่มข้ึนดังกล่าวเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว จากราคานำ้มันที่ปรับเพิ่ม ซึ่งเมื่อพิจารณาตัวเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมราคาอาหารและน้ำมัน) พบว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ท่ีระดับ 0.9%
  • ตลาดน้ำมันดิบยังมีภาวะอุปทานตึงตัว เรามองเป็นบวกต่อ Oil play – เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Oil play (PTT PTTEP OR BCP IRPC SPRC TOP และ ESSO) โดยยังคงเลือก PTTEP (ซื้อ.,ราคาเป้าหมาย 140 บาท) และ PTTGC (ซื้อ.,ราคาเป้าหมาย 82 บาท) เป็นหุ้นเด่น โดยราคาน้ำมันดิบยังคงปรับเพิ่ม ตอบรับความต้องการใช้น้ำมันดิบที่ปรับเพิ่ม โดย Oil Market Report เดือน ก.ค. จากทาง IEA ล่าสุด ระบุความต้องการใช้น้ำมันดิบยังคงปรับเพิ่ม 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (MBD) อยู่ท่ี 96.8MBD ในเดือน มิ.ย. จากผลของการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขณะที่ IEA ยังคงประมาณการการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันดิบในปี 2564 – 2565 เติบโต 5.4MBD และ 3.0MBD ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบในเดือน มิ.ย. ปรับเพิ่มเพียง 1.1MBD อยู่ท่ี 95.6MBD ทำให้ตลาดยังคงมีภาวะอุปทานตึงตัว แม้ในช่วงท่ีเหลือของปี 2564 จะมีกำลังผลิตเพิ่มจากกลุ่ม OPEC+ เดือนละ 0.4MBD เทียบกับประมาณการการเติบโตของ IEA เรายังมองเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบในช่วงท่ีเหลือของปี 2564
  • Initial Report: APURE (ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 8.5 บาท) กำไรสุทธิปี 64 เติบโตโดดเด่น – คาดกำไรสุทธิปี 2564-2565 เติบโตต่อเนื่องจาก แผนเติบโตจากตลาดต่างประเทศ สินค้าแบรนด์บริษัท และการเพิ่มกำลังผลิต แผนการเพิ่มกำลังผลิตจะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการปี 2565 โดยคาดกำไรสุทธิ 2Q64 เติบโตท้ัง QoQ และ YoY ขณะที่กำไรสุทธิ 1Q64 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 64 อยู่ในกรอบ 4%
  • Earnings Preview: SPALI (ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 24 บาท) คาดกำไร 2Q64 โตเด่น จากการโอนที่เพิ่มขึ้น – คาดกำไร 2Q64 ที่ 1,548 ล้านบาท เติบโตท้ัง YoY และ QoQ จากการโอนโครงการที่เพิ่มข้ึน ยอด Presales 2Q64 ชะลอตัว QoQ ผลกระทบจาก COVID-19 แต่ภาพทั้งปี 64 ยอด Presales ยังตามเป้า จาก Pent Up Demand และการเปิดโครงการใหม่ คาดแนวโน้ม 2H64 ผลประกอบการโตต่อเนื่อง จาก Backlog ท่ีจะรับรู้ กว่า 14,202 ล้านบาท ช่วย Secured เป้ารายได้แล้ว 91% การปิดแคมป์ก่อสร้าง กระทบการโอนและการเปิดโครงการอย่างจำกัด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 24 บาท
  • บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน – Initial Report: APURE / Earnings Preview: SPALI / Company Update: SCB
  • ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้ – รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรป ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 62.5 จุด) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (Services PMI) เดือน ก.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 59.5 จุด) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (Composite PMI) เดือน ก.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 60.1 จุด) / รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 61.5 จุด) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (Services PMI) เดือน ก.ค. (คาดขยายตัวอยู่ท่ี 70.0 จุด) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (Composite PMI) เดือน ก.ค.
  • มุมมองทางเทคนิค – เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,535-1,565 จุด หุ้นแนะนำทาง เทคนิควันนี้ ได้แก่ KEX PRAPAT CPF TAE และ DOHOME

Core Investment

  1. หุ้นโรงพยาบาล (ซื้อขายระยะสั้น 1 เดือน) เราเลือก TM SMD BCH BDMS และ CHG
  2. WFH เราเลือก (ซื้อขายระยะสั้น 1 เดือน) ADVANC TRUE TPAC SCGP JAS ITEL INSET NETBAY YGG และ AS
  3. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า (ซื้อขายระยะกลาง 1-3 เดือน) เราเลือก ASIAN TU HANA KCE SAT AH PACO MEGA NER EPG CBG และ SMPC
  4. หุ้นที่ประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น (ซื้อขายระยะกลาง 1-3 เดือน) เราเลือก APURE SONIC JWD WICE และ NYT
  5. หุ้นสะสมระยะยาว (DCA) (ซื้อขายระยะยาว มากกว่า 1 ปี) เราเลือก AOT BEM ADVANC WHA LH CPALL CPF BDMS HMPRO BBL และ KTB

Daily Strategy

ตลาดต่างประเทศ (อินโฟเควสท์):

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,823.35 จุด เพิ่มขึ้น 25.35 จุด (+0.07%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,367.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.79 จุด (+0.20%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,684.60 จุด เพิ่มข้ึน 52.64 จุด (+0.36%) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่ม เทคโนโลยี และการรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ดีการปรับขึ้นของดัชนีเฉลี่ย อุตสาหกรรมดาวโจนส์ เป็นไปอย่างจำกัด หลังสหรัฐฯ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานท่ีปรับตัวสูงข้ึน จากสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นยุโรป : ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 456.53 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด (+0.56%) ตลาดหุ้น ยุโรปปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนความเช่ือมั่น เกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

สินค้าโภคภัณฑ์ (อินโฟเควสท์):

  • ราคาน้ำมันดิบ : สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 71.91 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.61 เหรียญ (+2.3%) และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 73.79 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มข้ึน 1.56 เหรียญ (+2.2%) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับเพิ่มขึ้นตอบรับการคาดการณ์อุปทานน้ามันในตลาดโลก ที่ยังเผชิญภาวะตึงตัวเนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดลงของปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่เมืองคูชิงในรัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐฯ
  • ราคาทองคำ : สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,805.4 เหรียญต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 2 เหรียญ (+0.11%) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับเพิ่มขึ้น โดยได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางยุโรป ( ECB) ส่งสัญญาณ คงดอกเบี้ยต่าต่อไปอีก 2 ปี รวมไปถึงการที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวสูงข้ึน เป็นปัจจัยท่ีทำให้นักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำ
  • ราคาถ่านหิน : ราคาถ่านหินตลาดล่วงหน้า (Newcastle) ส่งมอบเดือน ส.ค. 64 ล่าสุด ปิดที่ 146.7 เหรียญต่อตัน ลดลง 4.0 เหรียญ (-2.65%)
  • ค่าระวางเรือ : Baltic Dry Index (BDI) ล่าสุดปิดที่ 3,103 จุด เพิ่มข้ึน 45 จุด (+1.47%)

ข่าวอื่น ๆ

• EA รุกธุรกิจกัญชงครบวงจร ชูพันธมิตร มทร.อีสาน พัฒนาสายพันธุ์กัญชง-กัญชา เล็งนาที่ดินให้เกษตรกรปลูก ก่อนสกัดสาร CBD ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ใกล้ส่งมอบรถ e-Bus ล็อตแรกสิ้นเดือนนี้ ขณะที่โรงงานแบต 1 GW เดินเครื่องแล้ว เตรียมผลิตเชิงพาณิชย์ไตรมาส 3 รับรู้รายได้ (ทันหุ้น)

• PIMO ประกาศความพร้อมผลิตมอเตอร์รถ EV ชี้เทรนด์รถไฟฟ้าในอนาคตเติบโตสูง ลั่นมี Know Howและกระบวนการผลิตที่ดี เตรียมรองรับการขยายตัวเต็มที่ เร่งเดินหน้าพัฒนาและวิจัยต่อเนื่อง คาดชัดเจนปี 65 ด้านมอเตอร์ AC-BLDC ออเดอร์ล้นทะลัก ยอดส่ังพุ่งแตะแสนลูกต่อวัน คาดยอดขายรวมโต 20% (ทันหุ้น)

• NSL ชี้ทำงานที่บ้านหนุนยอดขายกลุ่มเบเกอรี่พุ่ง เล็งออกสินค้าใหม่ 2-3 รายการในช่วงครึ่งปีหลังหวังกระตุ้น ยอดขายเพิ่ม ล่าสุดผุดสแน็กจากโปรตีนจิ้งหรีด ปูทาง Plant-Based และกัญชง-กัญชา (ทันหุ้น)

- Advertisement -