บล.เอเชียเวลท์:

บมจ. อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) กำไรสุทธิปี 64 เติบโตโดดเด่น

  • คาดกำไรสุทธิปี 2564-2565 เติบโต ต่อเนื่องจากแผนเติบโตจาก ตลาดต่างประเทศ สินค้าแบรนด์บริษัท และการเพิ่มกำลังผลิต
  • แผนการเพิ่มกำลังผลิต เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการปี 2565
  • คาดกำไรสุทธิ 2Q64 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY ขณะที่กำไรสุทธิ1Q64 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี
  • คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 64 อยู่ในกรอบ 4%
  • แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท

คาดแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2564-2565 เติบโตต่อเนื่อง

เราคาดกำไรสุทธิปี 2564-2565 อยู่ท่ี 425 ล้านบาท และ 509 ล้านบาท เติบโต 33%YoY และ 20%YoY ตามลำดับ เราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564 และ 2565 ที่ 28.2% และ 28.5% ตามลำดับ และคาดรายได้รวมปี 2564-2565 ท่ี 2,727 ล้านบาท และ 3,166 ล้านบาท ปัจจัยหนุนการเติบโตของผลประกอบการในอนาคตคือ

  1. การเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกาและยุโรปซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากอเมริกาและยุโรปคิดเป็น 20% และ 10% ของยอดขายท้ังหมดตามลำดับ นอกจากน้ีบริษัทยังได้เปรียบคู่แข่งทางด้านภาษีในยุโรปอีกด้วย
  2. การเติบโตจากการผลักดันสินค้าท่ีเป็นแบรนด์ของบริษัทเอง โดยปัจจุบันมีสัดส่วน เพียง 5% ของยอดขายท้ังหมด
  3. การเพิ่มกำลังการผลิตโดยปัจจุบันมีบางสายการผลิตท่ีผลิตเต็มอัตราแล้วส่งผลให้ บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 20% จากเดิม ใช้เงินลงทุน 50 ล้านบาท คาดว่ากำลังการผลิตใหม่จะดำเนินการผลิตได้ในปี 2565 (ยังไม่รวมอยู่ในประมาณการของเรา) รวมถึงการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้น

คาดกำไรสุทธิ 2Q64 เติบโต ขณะที่กำไรสุทธิ 1Q64 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี

เราคาดกำไรสุทธิ 2Q64 อยู่ที่ 109 ล้านบาท เติบโต 116%YoY และ 75%QoQ หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น โดยเราคาดอัตรากำไรขั้นต้น 2Q64 อยู่ที่ 28.7% สูงกว่า 2Q63 และ 1Q64 ที่ 25.5% และ 27.5% ตามลำดับ จากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการประหยัดเชิงขนาด ขณะที่คาดรายได้รวมอยู่ท่ี 646 ล้านบาท เติบโต 20%YoY และ 18%QoQ หนุนจากคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าจากต่างประเทศ แม้ลูกค้ามีการเลื่อนคำสั่งซื้อออกไปบางส่วนจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่กระทบจำกัด นอกจากนี้บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากคำสั่งซื้อของ Warmart ในเดือน มิ.ย. 64 รวมถึงธุรกิจได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า ขณะที่เราคาดว่ากำไรสุทธิในช่วง 1Q64 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี

แนะนำ “ซื้อ” ประเมินมูลค่าเหมาะสมท่ี 8.50 บาท

สถานการณ์ COVID-19 ช่วยหนุนคำสั่งซื้อให้เพิ่มข้ึน จากซัพพลายในต่างประเทศท่ีลดลง ซึ่งจะเป็นโอกาสของบริษัทในระยะยาวในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ขณะที่บริษัทมีการปรับปรุงรูปแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ธุรกิจมีความน่าสนใจจากลูกค้ารายใหม่ช่วยหนุนรายได้ การจัดการต้นทุนช่วยหนุนอัตรากำไร โดยต้นทุนค่าขนส่งที่สูงข้ึนส่งผลกระทบจำกัด เนื่องจากลูกค้าเป็นผู้รับภาระค่าขนส่งด้านต้นทุนกระป๋องที่มีแนวโน้มสูงขึ้น บริษัทมีการทำสัญญาสั่งซื้อกระป๋องล่วงหน้าไว้ทั้งปี 2564 กระทบจำกัดเช่นกัน นอกจากน้ียังมีเงินปันผลอยู่ในระดับ 4% แนะนำ “ซื้อ” ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 8.50 บาท อิง PER 16 เท่า

12M TP: Bt8.50

Closing price: Bt7.00

Upside/downside: +21.4%

- Advertisement -