ภาพรวมตลาดวานนี้

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ระดับ 1,545.10 จุด ลดลง 7.26 จุด (-0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 59,508.14 ล้านบาท การซื้อขายหุ้น ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,553.25 จุด และระดับต่ำสุด 1,540.35 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงเพิ่มข้ึน 400 หลักทรัพย์ ลดลง 1,237 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 474 หลักทรัพย์

แนวโน้มการลงทุนวันนี้

ตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อคืนด้านเทคนิคฯ และหุ้นที่ปรับลงแรงส่งผลให้มี Upside ที่สูงข้ึน เช่น กลุ่มธนาคารและการเงิน ในขณะที่กลุ่มพลังงาน (เล่นรอบระยะสั้น) มีปัจจัยบวกสัญญาน้ำมันดิบที่ดีดกลับข้ึนยืนเหนือ 70 เหรียญต่อบาร์เรล Sentiment ตลาดยังคงกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหมที่พุ่งข้ึนนิวไฮ SET แกว่งตัวข้ึนทดสอบหรือเข้าใกล้แนวต้าน 1,561-1,565 คาดมีแรงขายทำรอบ

กลยุทธ์การลงทุน

SET ปรับตัวลงต่ากว่า SMA5วัน ที่ทำหน้าที่เส้นแนวต้านขา ลง 1,550 ลงมาด้วยแท่งเทียนสีดำยาว แสดงถึงแรงขายลดความเสี่ยงทางเทคนิค (ไม่มั่นใจ) ระยะสั้น แนวโน้มมีความเสี่ยงรูปแบบ V-Shape กลับหัว แนวรับระหว่างวัน 1,540 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา ต่ำกว่าเป็น Sell Sig, แนวรับหลักเน้นยืน 1,532-1,530

แนวรับ 1,540/1,532

แนวต้าน 1,550/1,562

ตัดขาดทุน < 1,532

คำแนะนำ ถือหรือซื้อเล่นรอบระยะสั้น เน้นยืนแนวรับ 1,540/1,532 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา

Theme การลงทุน

  • หุ้น Defensive stock
    EA GULF GPSC ADVANC INTUCH
  • หุ้น High dividend
    JASIF NOBLE TISCO KKP TVO
  • หุ้นกัญชง DOD STA KWM GUNKUL STPI
  • หุ้นภูเก็ตแซนด์บอกซ์ AOT AAV ERW MINT CENTEL AWC
  • หุ้นเด่นประจำเดือนกรกฏาคม 2564 TISCO KKP EA GULF AOT

เคาะ… “KKP” 

KKP รายงานงบ 2Q64 มีกำไรสุทธิ 1.35 พันล้านบาท ขยายตัว 14.4%YoY โดย PPOP ปรับเพิ่มข้ึน 37.1%YoY จากการขยายตัวของรายได้ non-NII ที่รายได้ค่าทำเนียมเติบโตในธุรกิจโบรคเกอร์ และ Private wealth management ที่ สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็น อันดับ 1 ขณะที่รายได้ NII ก็ยังขยายตัวจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง ทั้งนี้มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 5.3% ทรงตัว YoY ขณะที่ค่าใช่จ่าย ECL ปรับเพิ่มข้ึน 85%YoY คิดเป็น Credit cost 272 bps เทียบกับปีก่อนที่ระดับ 221 bps โดยเพิ่มข้ึนจากการตั้งสำรองพิเศษในส่วน Management overlay เพื่อรองรับ ความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงและยืดเยื้อ ซึ่งกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ด้านเงิน สินเช่ือสิ้นงวด ขยายตัว 6.2%YTD ขยายตัวในพอร์สินเช่ือที่ อยู่อาศัย สินเช่ือเช่าซื้อรถยนต์ และสินเช่ือบรรษัทเป็นหลัก ส่วนคุณภาพลูกหนี้ รายงาน NPL ratio 3.4% เพิ่มข้ึนจาก 2.9%ในตอนสิ้นปี 2563 โดยเฉพาะในส่วนของรายย่อยเช่น สินเช่ือ HP, Micro-SME และเพื่อที่อยู่อาศัย

ภายหลังการเข้าร่วม analyst meeting ผู้บริหารปรับเป้า loan growth ปีนี้เพิ่มข้ึนจากเดิมที่ระดับ 5% เป็น 8- 12% แต่ปรับ Credit cost เพิ่มข้ึนเช่นกันเป็น 280bps จากเดิม 250 bps แม้ว่า จะมีการปรับ NPL ratio ลดลงไม่เกิน 4% จากเดิมไม่เกิน 4.5% ส่วนเป้า ROAE เดิมอยู่ในช่วง 11-12% ก็ปรับเป็น 14% มองเป็นบวกต่อประมาณการทั้งปี ทั้งนี้ KKP ยังเป็นหน่ึงในหุ้น Top pick ของกลุ่มธนาคารที่โดดเด่นในแง่ของผลประกอบการ และการจ่ายปันผลที่ให้ Yield ค่อนข้างสูง

กลยุทธ์การลงทุน

ระยะสั้นแท่งเทียนเรียงตัวทำ Lower Up และแท่งเทียนสีขาวยาวผ่านยืน SMA5วันข้ึนมาเป็นสัญญาณซื้อ แท่งเทียน ปริมาณการซื้อขายเพิ่มข้ึนสัญญาณชี้นำสอดคล้องกับ Indicator ที่ตัดค่าสัญญาณข้ึนมา

จากภาวะขายมาก แนวโน้มกลับตัวข้ึนรูปแบบ V-Shape SMA13วัน 53.25 ผ่านยืนมั่นคงเป็นสัญญาณบวกยืนยัน

แนวรับ 51.50/50.00 ***
แนวต้าน 53.25/55.50
ตัดขาดทุน <50.00
คำแนะนำ
*** “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน/แนวต้าน 53.25/55.20 มีโอกาสทดสอบ

*** “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 51.50/50.00 ไม่ควรต่ำกว่า

- Advertisement -