บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
PTT GLOBAL CHEMICAL Gas-based ผู้ได้ประโยชน์ช่วงวิกฤตพลังงาน
Action
Trading (Maintain)
TP upside (downside) +5.3%
Close Oct 19, 2021 Price (THB) 65.50
12M Target (THB) 69.00
Previous Target (THB) 66.00
What’s new?
- คาด 3Q64 กำไรสุทธิ 6.6 พันล้านบาท โตแรง YoY จากฐานต่ำ แต่ลดลง -74% QoQ จากรายการพิเศษ (กำไรขายหุ้น GPSC, ขาดทุน FX-Hedging, กำไรสต็อกน้ำมัน) รวมทั้งการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน และราคาปิโตรเคมีต่ำลง
- หากกำไรสุทธิ 9M64 เป็นไปตามคาด จะคิดเป็น 89% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 4.6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประมาณการปีนี้มี Upside เล็กน้อย
Our view
- PTTGC เป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีจากวัตถุดิบก๊าซ (Gas-based) ทำให้ได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของราคาปิโตรเคมี ด้วยการพุ่งขึ้นของน้ำมันดิบ
- Roll over ไปใช้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 69.00 บาท แม้มองว่าโมเมนตัมกำไรปี 2565 หุ้นโรงกลั่นมีความน่าสนใจกว่า อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นสามารถเก็งกำไร PTTGC กับการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันช่วงวิกฤตพลังงาน โดยหากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจทำให้ประมาณการของเรามี Upside
กําไรอ่อนตัวลง QoQ
คาด 3Q64 จะมีกำไรสุทธิ 6.6 พันล้านบาท เติบโตสูง +628% YoY จากฐานต่ำช่วงราคาพลังงานปิโตรเคมีตกต่ำในการระบาดรอบแรก อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการลดลง -74% QoQ จาก 1) ไม่มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น GPSC 2) การปรับขึ้นของราคาน้ำมันและการอ่อนค่าของเงินบาท ทำให้ประเมินว่าจะมีขาดทุน FX และป้องกันความเสี่ยงรวม 2.4 พันล้านบาท 3) กำไรสต็อกน้ำมันลดลงเหลือ 885 ล้านบาท (จาก 1.1 พันล้านบาทใน 2Q64) 4) มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดทำให้การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นล่าช้ากว่าแผน คาดอัตราการผลิตลดลงเหลือ 79% (-15% QoQ) 5) อัตรากำไรธุรกิจโอเลฟินส์ลดลง QoQ สอดคล้องทิศทางราคาผลิตภัณฑ์หลักอย่าง HDPE เฉลี่ยที่ US$ 1,138/ ตัน (-4% QoQ) ผสาน Lag-time ของราคาขาย 6) แผนปิดซ่อมบำรุง 1 เดือนของโรงงาน HMC และ PTTAC หากนับเฉพาะกำไรปกติคาดทําได้ 8.1 พันล้านบาท (-22% QoQ, +1,109% YoY)
4Q64 ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
สําหรับ 4Q64 แม้จะเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงงานหลายแห่ง กอปรกับการอ่อนตัวลงของส่วนต่างราคาอะโรมาติกส์ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ประเมินว่ากำไรมีโอกาสฟื้นตัว QoQ เพราะได้ประโยชน์จากสถานการณ์วิกฤตพลังงาน โดยแรงผลักดันของต้นทุนน้ำมันจะทำให้ราคาขายปิโตรเคมีสูงขึ้นเป็นบวกต่อ PTTGC เพราะเป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีที่ใช้วัตถุดิบหลักเป็นก๊าซในประเทศ (Gas-based) นอกจากนี้ปริมาณ Gas flow จาก PTT มีโอกาสสูงขึ้น QoQ หลังผ่านช่วงปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 6 ในช่วง 3Q64 (4Q64 มีหยุดซ่อมบำรุงย่อย 9 วัน) หากกำไรสุทธิ 9M64 เป็นไปตามคาด จะเป็น 80% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 4.6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประมาณการปีนี้มี Upside เล็กน้อย
เตรียมรับรู้การเข้าลงทุน VNT และ Allnex ตั้งแต่ต้นปี 2565
สำหรับปี 2565 ทิศทางส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง, การปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงงานโอเลฟินส์ช่วง 2Q65, และไม่มีส่วนแบ่งกำไรจาก GPSC ราว 2 พันล้านบาท (รับเป็นเงินปันผลแทน) ทำให้เราคงประมาณการกำไรปกติที่ 2.9 หมื่นล้านบาท (-6% YoY) โดยเชื่อว่าการรับประโยชน์จากการเข้าลงทุนใน Allnex และ VNT ที่จะปิดดีลได้ช่วงปลายปี 2564 จะสร้างกำไรส่วนเพิ่ม 6 พันล้านบาท และ 7 ร้อยล้านบาท ตามลำดับ ชดเชยผลกระทบจากปัจจัยลบข้างต้นได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ประมาณการของเรามี Upside หากสถานการณ์วิกฤตพลังงานยืดเยื้อ และทำให้ราคาน้ำมันดิบสูงกว่าสมมติฐานของเราที่ US$ 67 / bbl
เก็งกำไร เพราะเป็น Gas-based ปิโตรเคมี ได้ประโยชน์จากวิกฤตพลังงาน
ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 69.00 บาท อ้างอิง PBV ที่ 0.9 เท่า ซึ่งให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ยระยะยาว -1.0 SD (คงเดิม) คงคำแนะนำ TRADING แม้มองว่าการลงทุน 6 – 12 เดือน หุ้นโรงกลั่น เช่น TOP BCP มีโมเมนตัมกำไรปี 2565 น่าสนใจกว่าหุ้นปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น PTTGC เพราะเป็นหุ้นปิโตรเคมี Gas-based ที่ได้ประโยชน์จากราคาปิโตรเคมีสูงขึ้น จากเหตุการณ์วิกฤตพลังงานในปัจจุบัน (บริษัท ฯ จะรายงานผลประกอบการวันที่ 10 พ.ย. )