บล.เอเชีย เวลท์:

บมจ. เมกาเคม (ประเทศไทย) (MGT)

คาดรายได้และกำไร 3Q64 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ

  • คาดกำไรสุทธิ 3Q64 ลดลงทั้ง QoQ และ YoY ตามทิศทางรายได้
  • ปัจจัยลบมาจากร้านอาหารและโรงแรมที่เปิดให้บริการได้เพียงบางส่วน ทําให้ความต้องการใช้เอทานอลแปลงสภาพลดลง
  • ค่าเงินบาทอ่อนค่าและค่าระวางเรือที่ยังอยู่ในระดับที่สูง เป็นปัจจัยกดดันอัตรากำไรขั้นต้นให้ปรับตัวลดลง
  • คาดเริ่มรับรู้รายได้จาก บริษัท กรีน ลีฟ เคมิคอล จำกัด ในช่วง 4Q64
  • ปรับลดกำไรสุทธิปี 64-65 ลง 13% และ 16% ตามลำดับ
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ในปี 65 ที่ 4.88 บาท

คาดกำไรสุทธิ 3Q64 ลดลง 39% YoY และลดลง 53% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิในช่วง 3Q64 อยู่ที่ 12 ล้านบาท ลดลง 39.4% YoY และลดลง 52.7% QoQ โดยประเมินรายได้รวมอยู่ที่ 156 ล้านบาท ลดลง 6.2% YoY และลดลง 28.8% QoQ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากร้านอาหารและโรงแรมที่เปิดให้บริการได้เพียงบางส่วนจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ความต้องการใช้เอทานอลแปลงสภาพลดลง โดยเราคาดว่าลูกค้าในกลุ่ม Lifestyle Biotech (ยา อาหาร เครื่องสำอาง) ยังมีสัดส่วนรายได้ใกล้เคียง 2Q64 ที่ 29% นอกจากนี้ค่าเงินบาทอ่อนตัวและการขนส่งที่ยากลําบาก รวมถึงแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของจีน ทำให้ราคาสินค้าต่างๆปรับตัวสูงขึ้น โดยลูกค้าบางส่วนของ MGT ยอมให้ปรับขึ้นราคาสินค้า ขณะที่ลูกค้าบางส่วนลดลงจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 28.8% ใกล้เคียง 2Q64 ที่ 28.9% ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเราประเมินอยู่ที่ 30 ล้านบาท ลดลงจาก 2Q64 ที่ 32 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากค่าใช้จ่ายในการเขียนแบบเพื่อก่อสร้างโรงงาน รวมถึงการทำ FA Due Diligence

คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จาก บริษัท กรีน ลีฟ เคมิคอล จำกัด ในช่วง 4Q64

บริษัท เผยการลงทุนซื้อหุ้นสามัญ บริษัท กรีน ลีฟ เคมิคอล จำกัด ในสัดส่วน 55% ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นเงินจำนวน 82.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่ใช้ผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม โดย MGT จะเข้าไปปรับแผนการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย รวมถึงปรับเปลี่ยน Supplier เพื่อให้มีต้นทุนที่ต่ำลง โดยคาดว่า บริษัท กรีน ลีฟ เคมิคอล จำกัด จะมีรายได้เฉลี่ยต่อปีราว 150-200 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิในช่วง 10-15% ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ช่วง 4Q64 และจะหนุนกำไรอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 64-65 ลง 13% และ 16% ตามลำดับ

จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ทำให้ความต้องการใช้เคมีภัณฑ์ในแต่ละอุตสาหกรรมลดลง รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่า และการขนส่งที่ยากลำบาก เป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการของบริษัท จากการคาดการณ์พบว่ารายได้ช่วง 9M21E อยู่ที่ 589 ล้านบาท คิดเป็น 61% ของประมาณการรายได้ในปี 64 เดิม (972 ล้านบาท) เราจึงปรับลดประมาณการรายได้ในปี 64-65 ลง 11% และ 11% มาอยู่ที่ 863 และ 992 ล้านบาท จึงส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 64-65 ลดลง 13% และ 16% มาอยู่ที่ 102 และ 107 ล้านบาท ตามลำดับ

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ในปี 65 ที่ 4.88 บาท

แม้ว่าในปี 64 บริษัทจะได้รับผลกระทบจากความต้องการใช้เคมีภัณฑ์ที่ลดลง ซึ่งเกิดจากการชะลอตัวลงของอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ในปี 65 เรามองว่ายังมีปัจจัยบวกที่จะหนุนรายได้และกำไรให้เติบโตได้ จากทั้งการปั้นบริษัท กรีน ลีฟ เคมิคอล จำกัด ให้แข็งแกร่ง รวมถึงธุรกิจ Graphite ที่รอลูกค้าตอบกลับ ซึ่งคาดจะรับรู้รายได้ช่วง 2H65 ทำให้เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ในปี 65 ที่ 4.88 บาท (อิง PER 16.7 เท่า)

- Advertisement -