บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

TOTAL ACCESS COMMUNICATION ผลประกอบการ 3Q64 ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +16.1%

Close Oct 25, 2021 Price (THB) 38.75

12M Target (THB) 45.00

Previous Target (THB) 45.00

What’s new?

  • DTAC รายงานกำไรปกติ 3Q64 ที่ 655 ล้านบาท (-41.8% QoQ, -55.2% YoY) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดมีกำไรปกติ 933 ล้านบาท และ 1 พันล้านบาท ตามลำดับ จากการคุม Network OPEX ทำได้ไม่เท่ากับที่ตลาดคาด และ Device Subsidy สูงกว่าคาด
  • กำไร 9M64 คิดเป็น 69% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2564 เราคงประมาณการปี 2564 ที่ 4.1 พันล้านบาท (-19% YoY)

Our view

  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 45.00 บาทต่อหุ้น
  • แม้ผลประกอบการอ่อนแอ แต่มาจากผลกระทบของการ Lockdown ที่รุนแรงซึ่งผ่านไปแล้ว
  • นอกจากนี้เราให้น้ำหนักมากกว่ากับโอกาสปลดล็อคมูลค่าผ่านการขายกิจการ หรือการประมูลคลื่น 3500MHz ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565

กําไรปกติ 3Q64 ลดลง QoQ และ YoY … COVID-19 กระทบแรงกว่าคาด

DTAC รายงานผลประกอบการ 3Q64 ที่ 832 ล้านบาท แต่หากตัดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 5 ล้านบาท One-time items ใน Regulatory cost 170 ล้านบาท และการกลับรายการ Impairment asset 12 ล้านบาทกำไรปกติอยู่ที่ 655 ล้านบาท (-41.8% QoQ, -55.2% YoY) ต่ากว่าที่เราและตลาดคาดมีกำไร 933 ล้านบาทและ 1 พันล้านบาท ตามลำดับ จากการคุม Network OPEX ทําได้ไม่เท่ากับคาด และ Device Subsidy สูงกว่าคาด สรุปสาระสำคัญดังนี้

1) Service revenue ex. IC อยู่ที่ 1.40 หมื่นล้านบาท (-2.1% QOQ, -2.8% YoY) Prepaid Netadd +31K Postpaid Netadd -5K ติดลบครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสหลังสุด Netadd ที่ชะลอตัวลงแรง QoQ เพราะการ Lockdown ทำให้ทุกรายต้องปิดสาขาในห้าง แต่คู่แข่งยังมี Channel อื่นที่แข็งแกร่งกว่า ทําให้ DTAC ได้รับผลกระทบ ขณะที่ Prepaid ARPU -6.3% QoQ, -7.0% YoY Postpaid ARPU -0.4% QoQ, -4.1% YoY สะท้อนการแข่งขันในตลาด Prepaid ยังรุนแรง Unlimited Package ที่ออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมิ.ย. 64 ลากยาวตลอด 3Q64

2) Other service revenue ใน 3Q64 อยู่ที่ 328 ล้านบาท (-42.2% QoQ, +0.8% YoY) สะท้อนรายได้ IDD จาก Traffic ในตลาดพม่าลดลงสู่ภาวะปกติ

3) ธุรกิจมือถือขาดทุนที่ 383 ล้านบาทเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY ผิดคาดสะท้อนว่า DTAC จําเป็นต้องหยุดการไหลของรายได้ในช่วงที่ Distribution Channel อ่อนแอกว่าคู่แข่ง

4) ค่าเสื่อมราคาอยู่ที่ 5.26 พันล้านบาท (+2.7% QoQ) แต่ Network OPEX อยู่ที่ 1.46 พันล้านบาท (+22.1% QoQ, -0.5% YoY) แม้เราคาดว่า Network OPEX จะไม่เหมือน 2Q64 ซึ่งมีรายการพิเศษ แต่รายการดังกล่าวกลับสู่ระดับปกติเร็วกว่าคาด และ

5) SG&A -4.6% YoY ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ยังควบคุมได้ดี ยกเว้นยอด Bad Debt ที่เพิ่มขึ้น 91 ล้านบาท QoQ สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงการระบาด COVID-19 กําไรปกติ 9M64 คิดเป็น 69% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2564 ของเราที่ 4.1 พันล้านบาท (19.1% YoY) ประมาณการปี 2564 ของเราอาจมี Downside บ้าง แต่ไม่มีนัยสำคัญ ภาพ 3Q64 ทีมีการ Lockdown รุนแรงไม่ได้สะท้อนผลประกอบการในภาวะปกติของบริษัท ฯ

ราคาหุ้มอยู่บนความคาดหวังการ M&A มากกว่าผลประกอบการระยะสั้น

เราประเมินตลาดให้น้ำหนักน้อยกับผลประกอบการระยะสั้นที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จาก 1) ผลกระทบจาก COVID-19 เป็นเรื่องชั่วคราว แนวโน้มการติดเชื้อลดลงตามจํานวนการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2) โอกาสขายกิจการที่หากเกิดขึ้นเชื่อว่าจะอยู่ที่ระดับราคาอย่างน้อย 42.00 บาทต่อหุ้น อิงตลาดประมูลคลื่น 5G ที่ราคาแสนล้านบาท และ 3) หากเลือกสู้ต่อ DTAC มีโอกาสประมูลคลื่น 3500MHz ในปี 2565 ที่จะปลดล็อคความสามารถในการลงทุน 5G

คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 45.00 บาทต่อหุ้น

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้ผลประกอบการยังอ่อนแอ แต่เราให้น้ำหนักมากกว่ากับโอกาสปลดล็อคมูลค่าผ่านการขายกิจการ หรือการประมูลคลื่น 3500MHz ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การประมูลคลื่น 3500MHz 2) คู่แข่งเข้าถึงคลื่นของ NT เพิ่มเติม และ 3) การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง

- Advertisement -