บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

GFPT ต้นทุนขึ้นแรงฉุดผลประกอบการ

Action

Trading (Downgrade)

TP upside (downside) +2.5%

Close Oct 26, 2021 Price (THB) 11.90

12M Target (THB) 12.20

Previous Target (THB) 15.00

What’s new? 

  • คาดผลประกอบการ 3Q64 พลิกขาดทุน 15 ลบ. จากกำไรปกติที่ 175 ลบ. ใน 2Q64 และ 315 ลบ. ใน 3Q63 จากรายได้ที่ปรับลงตามราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง และราคาต้นทุนทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดปรับเพิ่มขึ้นแรงกดดัน GPM
  • แนวโน้มกำไรใน 4Q64 คาดฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจะรับรู้กำลังการผลิตทั้ง 5 Line เป็นไตรมาสแรกของปี หนุนรายได้ทุกธุรกิจ แต่ได้ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาต้นทุนอย่างต่อเนื่อง

Our view 

  • เราคงมุมมองเป็นกลางค่อนข้างบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการที่คาดจะฟื้นตัวเด่นในปี 2565 จากรายได้ทั้งในประเทศและส่งออกจะฟื้นตัวตามอัตราการบริโภค และภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ประกอบกับคาดหวังการปรับลดลงของราคาต้นทุนและค่าขนส่งทางเรือใน 2H65 หนุนผลประกอบการ
  • ปรับประมาณการกำไรปี 2564 และ 2565 ลง 58% และ 21% ตามลำดับ ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12.20 บาท ปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็น “Trading”

คาดผลประกอบการ 3Q64 พลิกขาดทุนและเป็นจุดต่ำสุดของปี

คาดรายได้ที่ 3,281 ลบ. (-11.5% QoQ, -9.4% YoY) จาก 1) รายได้ส่งออกทางอ้อมลดลง (ส่วนใหญ่ขายให้ บริษัทร่วม Mckey) จากที่มีการเร่งซื้อไปในไตรมาสก่อนหน้า 2) รายได้ชิ้นส่วนไก่ในประเทศยังชะลอต่อเนื่องตามราคาขายที่ปรับลดลงจากปัญหา Oversupply เนื้อไก่ในตลาด และ 3) ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน แม้จะมีรายได้ส่งออกที่ฟื้นตัวเล็กน้อยจากญี่ปุ่นและยุโรปช่วยชดเชยบางส่วนส่วนด้านต้นทุนวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นแรง ส่งผลให้ GPM คาดจะปรับลดลงเป็น 6.9% จาก 10.2% ใน 2Q64 และ 15.7% ใน 3Q63 ขณะที่ SG&A คาดที่ 328 ลบ. ยังทรงตัวในระดับสูงตามค่าขนส่งทางเรือที่ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง และคาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 36 ลบ. (-62.3% QOQ, -47.4% YoY) จากส่วนแบ่งกำไรของ Mckey ที่ปรับลง และ GEN ขาดทุนมากขึ้นตามภาวะอุตสาหกรรม โดยรวมคาดผลประกอบการใน 3Q64 ของ GFPT พลิกขาดทุนปกติที่ 15 ลบ. เป็นจุดต่ำสุดของปีจากกําไรปกติที่ 175 ลบ. ใน 2Q64 และ 315 ลบ. ใน 3Q63 

คาดต้นทุนยังอยู่ระดับสูงถึง 1H65 … ปรับประมาณการปี 2564-2565 ลง

แนวโน้มราคาวัตถุดิบทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดยังสูงขึ้นต่อเนื่องแตะระดับ 19-20 บาท/กก. และ 10-11 บาท/กก. ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าปี 2563 ที่อยู่ที่ราว 13 บาท/กก. และ 8 บาท/กก. ตามลำดับ เนื่องจากผลผลิตในตลาดลดลงจากสภาพภูมิอากาศ ทำให้ต้นทุนจะยังทรงตัวสูงใน 4Q64 และคาดจะยังสูงต่อเนื่องถึง 1H65 เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม เราคาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 ของ GFPT จะฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการกลับมารับรู้กำลังการผลิตทั้ง 5 Line เป็นไตรมาสแรกของปี หนุนปริมาณขายโดยรวม และคาดหวังการฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย และราคาต้นทุนที่จะทยอยปรับลดลงในปี 2565 จากผลผลิตที่มากขึ้น

การฟื้นตัวของผลประกอบการที่ช้ากว่าคาดจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงกว่าเดิมที่ประเมินไว้ ประกอบกับการส่งออกที่ยังติดปัญหาการขนส่งทางเรือกระทบ GPM ที่จะต่ำกว่าคาด และ SG&A ที่จะสูงกว่าเดิมที่ประเมินไว้ เราจึงปรับประมาณการปี 2564 ลง 58% เป็น 239 ลบ. (+81.7% YoY) และปี 2565 ลง 21% เป็น 993 ลบ. (+314.77% YoY) 

ยังไม่ใช่จังหวะเข้าซื้อ ปรับลดคำแนะนำลงเป็น “Trading”

เรามีมุมมองเป็นกลางค่อนข้างบวกต่อผลประกอบการปี 2565 ที่จะกลับมาเติบโตเด่นจากฐานที่ต่ำในปี 2564 และราคาขายที่คาดจะปรับสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศ โดยผลของการปรับประมาณการปี 2565 ลง อิง PER ตามเดิมที่ 15 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ใหม่ที่ 12.20 บาท มี Upside gain 2.5% ปรับคำแนะนําจาก ซื้อ เป็น “Trading” อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ของราคาต้นทุนวัตถุดิบ และค่าระวางเรืออย่างต่อเนื่อง เชิงกลยุทธ์ในระยะสั้นยังไม่ใช่จังหวะในการเข้าลงทุน

- Advertisement -