บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

BUSINESS ALIGMENT กำไรสุทธิ 3Q64 ทำสถิติใหม่ แต่คือจุดพีค…

Action

SELL

TP upside (downside) -15%

Close Dec 13, 2021 Price (THB) 9.50

12M Target (THB) 8.10

Previous Target (THB) 10.30

What’s new?

  • กำไรสุทธิ 3Q64 ทำสถิติใหม่ที่ 202 ล้านบาท โต 81% QoQ และ 3,360% YoY ได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ของโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน ให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดใน Backlog ของ BIZ

Our View

  • คาดกำไรสุทธิ 4Q64 ชะลอ QoQ จากฐานที่สูงมากใน 3Q64 แต่ยังโตเด่น YoY จากการส่งมอบงานโครงการได้ต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมี  Backlog อยู่ที่ 645 ล้านบาท
  • เนื่องจาก BIZ ผ่านช่วงรับรู้โครงการขนาดใหญ่ไปแล้ว เราจึงกลับมาประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2565 โดยวิธีปกติ โดยอิง PER 20 เท่า ได้เท่ากับ 8.10 บาท (Fully Dilute) ยังคงแนะนำขาย

กำไรสุทธิ 3Q64 โตสูงท้ัง QoQ และ YoY

BIZ รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 ท่ี 202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81% QoQ และ 3,360% YoY จากการเพิ่มขึ้นของรายได้รวมสูงถึง 125% QoQ และ 1,721% YoY อยู่ที่ 1,410 ล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้โครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยอนุภาคโปรตอน ให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ซึ่งมีมูลค่างานคงค้างที่รอรับรู้รายได้เหลืออยู่ 963 ล้านบาท (จากงานในมือ 2Q64 มีอยู่ทั้งสิ้น 1,977 ล้านบาท) ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ท่ี 19.2% ลดลงจาก 25.9% ใน 2Q64 เพราะมีการรับรู้รายได้โครงการใหญ่ ซึ่งถือเป็นภาวะปกติท่ีอัตรากำไรขั้นต้นจะน้อยกว่าโครงการขนาดกลางหรือเล็ก แต่ดีขึ้นจาก 17.9% ใน 3Q63 เนื่องจากฐานปีก่อนต่ำผิดปกติ  จากผลของการใช้มาตรการ Full lockdown ทั้งประเทศ ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารถือว่าควบคุมได้ดีต่อเนื่อง โดยคิดเป็นเพียง 1.4% ของรายได้รวม ลดลงจาก 2.7% ของรายได้รวมใน 2Q64 และ 16.5% ของรายได้รวมใน 3Q63 โดยหลักมาจากผลของ Economy of scale ที่บริษัทสามารถส่งมอบงานโดยไม่ต้องเพิ่มพนักงานมากนัก

กำไรสุทธิ 9M64 อยู่ที่ 395 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 1,771% YoY จากฐานท่ีต่ำผิดปกติในปีก่อน และการรับรู้รายได้จากการส่งมอบอุปกรณ์การแพทย์ในโครงการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน

แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q64 จะทรุดตัว QoQ แต่ยังโตสูง YoY

อ้างอิงข้อมูลจาก Opportunity Day เมื่อ 29 พ.ย.64 เหลืองานในมือท่ีรอส่งมอบทั้งสิ้น 645 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงทั้งปีหน้า แต่ถ้าพิจารณาจากสถิติในอดีตถือว่าค่อนข้างท้าทายเมื่อเทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ระบาด ท่ีบริษัทจะรับรู้รายได้ราว 600-700 ล้านบาทต่อปี ขณะท่ีทิศทางเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง (ไม่เป็นผลดีต่อต้นทุนการนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ แม้จะผลักภาระได้บางส่วน แต่จะทำให้การบริหารอัตราแลกเปลี่ยนทำได้ยากขึ้น) ส่งผลให้เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q64 จะถอยกลับมาใกล้เคียงระดับปกติท่ี 40-50 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งนั่นหมายถึงกำไรสุทธิจะทรุดแรง QoQ แต่ยังโตสูง YoY จากฐานท่ีต่ำาผิดปกติในปีก่อน ถ้าประเมินเป็นรอบวัฏจักรธุรกิจ สามารถสรุปได้ว่าการรับรู้รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทได้ผ่านจุดสูงสุดของรอบนี้ไปแล้วนั่นเอง

ปรับกำไรสุทธปี 2564 ขึ้น แต่ปรับราคาเหมาะสมปี 2565 ลง และคงแนะนำ “ขาย”

ผลจากการรับรู้งานโครงการใหญ่ที่เร็วกว่าคาด ทำให้เราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 ขึ้น 40% จากคาดการณ์เดิมเป็น 440 ล้านบาท (เติบโต 892% YoY) แต่คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 ท่ี 178 ล้านบาท (ลดลง 59% YoY) และปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2565 โดยอิง PER Multiplier ระดับปกติท่ี 20 เท่า จากเดิมท่ีเราใช้ราคาเหมาะสมเฉลี่ยของปี 2564-2565 ทำให้ราคาเหมาะสมถูกปรับลงเหลือ 8.10 บาท (Fully Dilute จาก BIZ-W1 ท่ีให้สิทธิแปลงเป็น BIZ จานวน 40 ล้านหุ้น) จากเดิมท่ี 10.30 บาท ราคาปัจจุบันมี Downside risk -15% จากราคาเหมาะสม จึงคงคำแนะนำ “ขาย”

- Advertisement -