บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์: 

Home Product Center Plc. บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)

SSSG 4Q64 แจ่ม +10% YoY คาดหนุนกำไรปี 64 โต 5%

  • SSSG 4Q64 +10%YoY บวกคุมเข้มรายจ่ายได้ดี คาดหนุนกำไร 4Q64 โต 13.5%YoY และ 101%QoQ
  • คาดกำไรปี 64 จะเติบโตได้ 5%YoY จากกำไร 4Q64 ที่สดใส และปี 65 จะเติบโตอีก 14.5% จากผลบวกช็อปดีมีคืน ฐานกำไรที่ต่ำมากในงวด 3Q64 และการเพิ่มสัดส่วนสินค้า Private Brand
  • เป็น 1 ในหุ้นค้าปลีกที่มีผลประกอบการแข็งแกร่ง และมีแผนรองรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว บวกกับปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 65 ซึ่งอยู่ที่ 18 บาท มี Upside 25.9% ยืนยัน ซื้อ

ประเด็นการลงทุน

  • SSSG 4Q64 +10%YoY บวกคุมเข้มรายจ่ายได้ดี คาดหนุนกำไร 4Q64 โต 13.5% YoY และ 101% QoQ ผลบวกสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และไม่ได้รับผลกระทบปิดสาขาและพื้นที่เช่าเหมือนงวด 3Q64 คาดช่วยให้ยอดขายงวด 4Q64 เพิ่มขึ้น 25.7% QoQ และเพิ่มขึ้น 11% YoY โดยมาจากยอดขายสาขาเดิมที่เติบโต 10% YoY จาก pending demand ที่อันมาจากงวด 3Q64 และการอัดแคมเปญส่งเสริมการขายและการจัดงานโฮมโปรทุกสาขา และผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงบริการสั่งซื้อทางออนไลน์แบบ same day delivery และ next day delivery นอกจากนี้ยังมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากสาขาเปิดใหม่ โดยปี 2564 เปิดโฮมโปรสาขาใหม่ 1 สาขา เป็นสาขาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่บางนา-ตราดกม. 1 เริ่มให้บริการตั้งแต่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้สัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงมียอดขายที่เติบโตดีกว่าสินค้าที่มีมาร์จิ้นต่ำ จึงคาด Gross Margin ขยับขึ้นจากงวด 4Q63 ราว 30 bps. ขณะที่รายได้สนับสนุนการขายเพิ่มขึ้น แต่รายได้พื้นที่เช่าทรงตัว อีกทั้งไม่มีรายได้พื้นที่เช่าจากการจัดงานโฮมโปรเอ็กโปร์ที่เมืองทองธานีเหมือนงวด 4Q63 ที่สร้างรายได้ราว 40 ล้านบาท คาดกดดันรายได้พื้นเช่าบวกรายได้อื่นลดลง 1.7% YoY ขณะ HMPRO มีการควบคุมรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ จึงคาดรายจ่าย SG&A 4Q64 จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% YoY หนุนให้คาดกำไรงวด 4Q64 จะอยู่ที่ 1,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5% YoY และ 101.4% QoQ ซึ่งจะทำให้กำไรทั้งปี 2564 อยู่ที่ 5,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และสูงกว่าประมาณการที่เราคาดการณ์ไว้ราว 1.7% YoY
  • แม้งวด 1Q64 มีฐานกำไรที่สูงหลังการระบาดโควิดระลอก 1 คลี่คลาย แต่คาดช็อปดีมีคืนจะช่วยให้กำไร 1Q65 เติบโตได้ high single digit ทั้งนี้โฮมโปรมีการจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องในช่วงช็อปดีมีคน 1 ม.ค.-15 ก.พ. 65 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนนำใบกำกับภาษีจากยอดซื้อช่วงเวลาดังกล่าวจํานวน 3 หมื่นบาท มาหักลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้ คาดจะช่วยหนุนให้ยอดขายสาขาเดิมในงวด 1Q65 บวกได้ mid to high single digit และคาดจะช่วยผลักดันให้กำไรงวด 1Q65 เติบโต YoY ในระดับ high single digit ได้ แม้ในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีฐานกำไรที่สูง หลังการแพร่ระบาดโควิดระลอก 1 คลี่คลาย ขณะงวด 1Q65 มีการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron ทำให้คนไทยระมัดระวังในการเดินทางออกนอกบ้านมาก อย่างไรก็ตาม ยังสามารถเข้าซื้อสินค้าในห้างได้ตามปกติ
  • เชื่อกำไรจะเติบโต YoY สูงขึ้นเป็นลำดับใน 2Q65 และ 3Q65 เพราะปีก่อนได้รับผลกระทบล็อกดาวน์จากโควิดระลอก 2 และ 3 ซึ่งจะช่วยยอดขายสาขาเดิม และรายได้พื้นที่เช่าเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะงวด 3Q65 ซึ่งพื้นที่เช่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนได้รับผลกระทบหนักสุดจากการหยุดในบริการชั่วคราวในพื้นที่สีแดงเกือบ 2 เดือน นอกจากนี้โฮมโปรมีแผนเพิ่มสัดส่วนยอดขาย Private Brand จากปี 2564 ที่ 19.5% เป็นมากกว่า 20% เพื่อช่วยเพิ่ม Gross Margin ราว 30 bps. ในปี 2565 และมีแผนขยายสาขาโฮมโปรขนาดใหญ่เพิ่ม 1 สาขา เมก้าโฮมอีก 2-3 สาขา ซึ่งเป็นสาขาชานเมืองกรุงเทพเป็นหลัก ซึ่งคาดจะหนุนให้กำไรปี 2565 สอดคล้องกับประมาณการกำไรของเราที่ 6,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรปี 64 ที่ประเมินเบื้องต้นใหม่ราว 14.5% ได้ แม้ในปี 65 จะยังมีผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ Omicron แต่เชื่อว่าอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ และไม่มีความจำเป็นต้องล็อกดาวน์ปิดห้าง และพื้นที่เช่าชั่วคราวเหมือนปี 64

คําแนะนํา

  • เป็น 1 ในหุ้นค้าปลีกที่มีผลประกอบการแข็งแกร่ง และมีแผนรองรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว บวกกับราคาเป้าหมายปี 65 ซึ่งอยู่ที่ 18 บาท มี Upside 25.9% ยืนยัน ซื้อ

ปัจจัยเสี่ยง การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ อาจมีความรุนแรงมากกว่าคาด และอยู่ในวิสัยที่ไม่อาจควบคุมได้จนนำไปสู่การล็อกดาวน์ปิดห้างชั่วคราวอีกครั้งในปีนี้

- Advertisement -