บล.คันทรี่ กรุ๊ป:

ORI: กําไรรายไตรมาสปีน้ีจะแตะจุดสูงสุดใน 4Q21

คาดกําไรสุทธิรายไตรมาสจะแตะจุดสูงสุดของปีใน 4Q21 ที่ 922 ล้านบาท (+44%YoY, +30%QoQ) จากการรับรู้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์และรายได้ธุรกิจบริการและโรงแรมที่สูงขึ้น

  • คาดกําไรฟื้นตัวใน 4Q21 จากการเปิดตัวคอนโดใหม่ 3 โครงการ และแนวราบใหม่อีก 6 แห่งใน 4Q21 คิดเป็นมูลค่ารวมที่ 6.3 พันล้านบาท และ backlog ที่แน่นอนแล้ว 3.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทจะได้ประโยชน์จากรายได้ธุรกิจบริการและโรงแรมที่สูงข้ึนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 4Q21 ด้วยเช่นกัน
  • คงมุมมองเชิงบวกต่อกําไรปี 2022 ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในเชิงรุกมากข้ึน ด้วย มูลค่ารวมท่ี 2.6 หมื่นล้านบาท (+47%YoY) ขณะที่คาดว่าการรับรู้รายได้จากคอนโด “ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์” มูลค่า 2 พันล้านบาทใน 1Q22 จะช่วยหนุนการเติบโตของกําไรได้อีกแรง

คงคําแนะนํา “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 13.7 บาท คิดเป็น 10.3x PE’22E หรืออัตราคิดลดที่ 10%ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี คําแนะนําดังกล่าววสะท้อนภาพรวมที่ดีขึ้นจากอุปสงค์สะสมที่ไหลเข้ามาหลังคลายล็อคดาวน์

ORI: New projects to support 34Q21 earnings

  • ORI มีแผนเปิดตัวคอนโด และแนวราบใหม่ 9 โครงการใน 4Q21 คิดเป็นมูลค่าที่ 6.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดใหม่ 3 โครงการมูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ 1.7-3.3 ล้านบาท/ยูนิต โครงการแนวราบ 4 แห่งมูลค่ารวมที่ 4.3 พันล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยที่ 3.1-8.9 ล้านบาท/ยูนิต โครงการใหม่เหล่านี้จะช่วยหนุนการรับรู้ยอดขายและรายได้ใน 4Q21 นอกจากนี้ก็คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้โครงการแนวราบอีก 2 แห่งใน 4Q21 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อ 2Q21
  • กำไร 4Q21 จะได้แรงหนุนจาก 4 โครงการที่บริษัทคาดว่าจะโอนได้ใน 4Q21 ได้แก่ “พาร์ค ออริจิ้น พญาไท” “นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง” “บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์” และ “แกรนด์ บริทาเนีย สุวรรณภูมิ”

พรีวิวผลประกอบการ

  • คาดกำไรสุทธิ 4Q21 ที่ 922 ล้านบาท (+44%YoY, +30%QoQ)
  • การเติบในเชิง YoY จะมีแรงหนุนมาจาก 1) รายได้ที่สูงขึ้น (+46%YoY เป็น 4.0 พันล้านบาท) ขับเคลื่อนจากการรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นของโครงการคอนโดและแนวราบ ซึ่งเป็นผลจากยอดขายที่สูงใน 2Q21 และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ 2) รายได้อื่นๆที่สูงขึ้น (+94%YoY เป็น 240 ล้านบาท) จากรายได้ธุรกิจบริการและโรงแรมที่ปรับสูงขึ้น สืบเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และอัตราการเข้าพักโรงแรมที่สูงขึ้น
  • ส่วนการเติบโตในเชิง QoQ จะมีแรงหนุนจากรายได้ที่โตขึ้น (+5%QoQ) ขับเคลื่อนจากรายได้ธุรกิจที่อยู่อาศัยที่โตขึ้นจากการเปิดตัว 3 คอนโด และ 6 แนวราบใหม่ คิดเป็นมูลค่ารวมที่ 6.3 พันล้านบาท

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2021-22 ขึ้น 5% และ 3% ตามลำดับ

ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2021 ขึ้น 5% และปี 2022 ขึ้น 3% เพื่อสะท้อนถึง 1) การขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยมากขึ้นในปี 2021 และ 2022 และ 2) ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจคอนโด และแนวราบในช่วงปี 2022 จากมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ที่สูงขึ้นเป็น 2.6 หมื่นล้านบาท และการปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้จากการขาย 15% ขณะที่คงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ปี 2022 ที่ 37.5% ด้วยเหตุนี้จึงมีการปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 2021-23 ขึ้น 8%/7%/8% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงแผนการเปิดตัวโครงการมากขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และจำนวนลูกค้าต่างชาติที่คาดว่าจะฟื้นสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ในปี 2023

Revenue Breakdown

ORI และบริษัทย่อยของบริษัทประกอบธรุกิจหลักด้วยกัน 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดที่คิดเป็น 74% ของยอดขายรวม โดยมีการพัฒนาโครงการคอนโดที่สอดรับกับความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า ประกอบด้วยแบรนด์ Kensington (ตลาดกลาง), Notting Hill (ตลาดกลางถึงบน), Knightsbridge (ตลาดกลางถึงบนต้น) และ Park (ตลาดบน)

ธุรกิจรับจ้างบริหารโครงการท่ีคิดเป็น 6% ของยอดขายรวม โดยจะเป็นการรับจ้างบริหารโครงการอสังหาฯอื่นๆ

ธุรกิจพัฒนาอสงัหาฯแนวราบ คิดเป็น 17% ของยอดขายรวม (ทั้งยังพัฒนาโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ Britania อีกด้วย)

ส่วนรายได้อื่นๆ จะรวมถึงรายได้จากการดำเนินงานและรายได้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ เช่น บริการทำความสะอาด ช่างซ่อม ซักรีด และอื่นๆ โดยรวมคิดเป็น 3% ของยอดขายรวม

- Advertisement -