ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

เทรดในกรอบจํากัดต่อไป

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ยังคงเทรดไซด์เวย์ ... หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อยตามแรงกดดันจากบอนด์ยิลด์ที่ปรับขึ้น และเป็นลบต่อหุ้นที่ valuations ค่อนข้างสูง ขณะที่หุ้นน้ำมันยังแข็งแกร่งกว่าตลาด (ตามราคาน้ำมันที่แกว่งขึ้นต่อเนื่อง) และช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของตลาดหุ้นไทยเอาไว้ ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลางๆ ได้แก่ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงต่อรับแรงกดดันจากบอนด์ยิลด์ 10 ปีของสหรัฐฯที่ชนระดับ 1.90% ก่อนย่อลงเล็กน้อย และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เผชิญแรงขายต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อตลาดมากกว่ารายงานงบไตรมาส 4/64 ของธนาคารขนาดใหญ่อย่าง Bank of America และ Morgan Stanley ที่ออกมาดีกว่าที่ consensus คาดการณ์ ii) นักลงทุนยังคงชะลอเพื่อติดตามการประชุม ธ. กลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ว่าจะมีการส่งสัญญาณปรับนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากกว่าที่ตลาดคาด ณ ปัจจุบันหรือไม่ โดยหากอิงสัญญา Fed Fund Future ขณะนี้ คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ รวม 1.0% ด้านปัจจัยภายในประเทศเช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เร่งตัวขึ้นเล็กน้อย 8,129 ราย เสียชีวิต 19 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 6,978 ราย และในวันนี้ศบค. ชุดใหญ่จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการกลับมาใช้ Test&Go รับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร CHAYO, IP, MAJOR*

  • CHAYO (เป้า Consensus 15.84 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.6 บาท / แนวต้าน 13.2-14.0 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 15.0 บาท (Stop loss 12.4 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard JMT* ขณะที่ Consensus คาดกำไรปี 2565 เติบโต +55% YoY เป็น 353.8 ล้านบาท และ Forward PE ปี 2565 จะลดลงเหลือ 36.8 เท่า (ลดลงจาก 51 เท่าบนประมาณการฯ ปี 2564) 3) Catalyst บวกอื่นๆ i) เตรียมซื้อหนี้เข้าบริหารพิ่มอีก 2-3 พันล้านบาทในปี 2565 และ ii) คาดเตรียมสรุปดีล JV กับธนาคารพาณิชย์ได้ภายใน 1H65 (เป็น Upside ที่คาด Consensus ยังไม่รวมในประมาณการฯ )
  • IP (เป้า Consensus 26 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.4 บาท / แนวต้าน 21.2-21.5 บาท หาก Breakout ผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 22.0 บาท (Trailing stop 20.0 บาท) 2) Consensus คาดทําไรปี 2565 โต +82% YoY และทำให้ Forward PE ลดลงเหลือ 39 เท่า (จาก 71 เท่า บนประมาณการกำไรปี 2564) ซึ่งเราประเมินว่าประมาณการฯ ปี 2565 มี Upside จาก i) การเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกัญชง (คาดเปิดตัวภายใน 2H65) … คาดรับ Sentiment บวกจากประเด็นการเตรียมปลดล็อกกัญชง-กัญชาจากยาเสพติด ii) ธุรกิจร้านขายยาออนไลน์ (ร่วมทุนกับ OTO คาดได้รูปแบบชัดเจนภายใน 1H65) ที่คาดว่า Consensus ยังไม่ได้รวมในประมาณการฯ
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 19.5 บาท / แนวต้าน 20.2 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ ทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 21 บาท (Stop loss 19.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป จาก i) การกลับมาเปิดโรงหนังได้ทุกแห่ง ตั้งแต่ ต.ค. 64 ii) หนังฟอร์มใหญ่ที่เลื่อนมาฉายหลายเรื่อง และ iii) คาดยอดขายเครื่องดื่มขนมขบเคี้ยวฟื้นตัว และคาดรับ Sentiment บวกจากการที่ศบค. เตรียมผ่อนคลายมาตรการฯ ปลายสัปดาห์นี้ 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาดปี 2565 พลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงาน +588 ล้านบาทได้ หลังจากที่ขาดทุนจากการดำเนินงานมา 2 ปีติดเพราะโควิด-19

หุ้นมีข่าว

(+) ศบค. ชุดใหญ่ ประชุมวันนี้ จ่อเคาะฟื้น “เทสต์แอนด์โก” (ข่าวหุ้น) รายงานจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) หรือศบค. ชุดใหญ่ในวันนี้ (20 ม.ค.) ที่ประชุมจะมีการปรับลดความเข้มข้นของมาตรการ โดยจะมีการปรับพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จำนวน 20 กว่าจังหวัด ขณะที่พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) จะยังไม่มีการปรับเพิ่มเติมแต่อย่างใด

(-CPF, GFPT) พาณิชย์คุม “อาหารสัตว์” แจ้งสต็อก-ต้นทุนราคา (กรุงเทพธุรกิจ) กกร. เคาะ “ไก่-เนื้อไก่” เป็นสินค้าควบคุม สั่งผู้เลี้ยงโรงชำแหละ โรงงานอาหารสัตว์ รายงานสต็อก-ต้นทุนทุกเดือน สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์พร้อมให้ตรวจยืนยันไม่กักตุน แนะตรวจสต๊อกผู้ค้าข้าวโพด ชงลดภาษีนำเข้า หนุนลดต้นทุน 1.2 พันล้าน “พาณิชย์” เผยยังไม่พิจารณา 3 ข้อเสนอลดภาษีนำเข้า ลดต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ลุยตรวจสต๊อกสุกร

(+) ECL ผนึกสกุลฏ์ซีดันธุรกิจโต ออกแคมเปญสินเชื่อมินิบัส (ทันหุ้น) ECL จับมือ สกุลฏ์ซี อินโนเวชั่น ปล่อยสินเชื่อรถมินิบัส หวังผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ผ่อนต่ำสุดไม่เกิน 26,000 บาท หวังกระตุ้นตลาดรถมินิบัสกลับมาคึกคัก เพิ่มความคล่องตัว ลดต้นทุนให้ลูกค้า และฟื้นตัวกลับมาดำเนินธุรกิจได้เช่นเดียวกับก่อนเกิดโควิด

(+) TWPC ลุยธุรกิจ Bioplastic แป้งมันโตแรง หนุนยอดขายพุ่งทะลุหมื่นล. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “ไทยวา” กางแผนธุรกิจรับศักราชใหม่ เล็งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Bioplastic ภายใต้แบรนด์ RosEco (Rose Eco / circular economy) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรภายในไตรมาสแรก พร้อมขยายลงทุนธุรกิจ New start up ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเป็นแรงหนุนให้กับธุรกิจหลัก ผู้บริหารเผยปี 65 ความต้องการแป้งมันสำปะหลังดีต่อเนื่อง หนุนยอดขายปีนี้ผงาดพุ่งแตะ 10,000 ล้านบาท

(+) WHA เปิดตัวคลังใหม่ เนื้อที่ใหญ่สุด 400 ไร่ เคอรี่ลูกค้ารายแรก (ทันหุ้น) WHA เปิดตัวโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์กม. 21 ครอบคลุมพื้นที่อาคารรวม 400,000 ตร.ม. บนเนื้อที่ 400 ไร่เป็นคลังสินค้าของ WHA* ที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ใกล้กรุงเทพฯ พร้อมประเดิมต้อนรับลูกค้ารายแรก “เคอรี่ โลจิสติกส์” ขนาดพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร

(+) JR เดินหน้าเพิ่มไลน์รุกปลอดภัยไซเบอร์ กรุยทางรายได้ 20% (ทันหุ้น) JR เล็งขยายธุรกิจไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ต่อยอดธุรกิจ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ใหม่ คาดเห็นรายได้ที่ชัดเจนในปี 2565 ส่วนธุรกิจอีวีคาดปิดดีลร่วม EA  ปั้นจุดชาร์จไซซ์บิ๊กช่วงไตรมาส 2/2565 พร้อมจัดทัพประมูลงานใหม่ 1 พันล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่ม “จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ” ปักหมุดปี 2565 รายได้โต 20%

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • แนะนํา “Let profit run” โดยกําหนด Trailing stop: OTO (Trailing stop 16.4 บาท), ECL (Trailing stop 3.5 บาท), LEO (Trailing stop 16 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 129.5 บาท / แนวต้าน 134-135 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 127.5 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน-14.4 บาท) แนวรับ 14.3 บาท / แนวต้าน 14.8-15.0 (Trailing stop 14 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 94.5 บาท) แนวรับ 85 บาท / แนวต้าน 88-90 บาท (Trailing stop 85 บาท)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 3.2 บาท) แนวรับ 2.28 บาท / แนวต้าน 2.42–2.54 บาท (Stop loss 2.28 บาท)
  • AEONTS* (เป้าพื้นฐาน 240 บาท) แนวรับ 181.5 บาท / แนวต้าน 188-190 บาท (Stop loss 181.5 บาท)
  • TFG (เป้า Consensus 4.97 บาท / สูงสุด 6.2 บาท) แนวรับ 5.0 บาท / แนวต้าน 5.35-5.60 บาท (Stop loss 5.0 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

VGI* “Under Review” ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 77 ล้านบาทใน 3Q64/65 (ต.ค. 64-ธ.ค. 64) ขาดทุนมากขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และพลิกจากที่กำไรใน 3Q63/64 (ต.ค.63-ธ.ค. 63) แม้รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่รายจ่าย SG&A และส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น ประมาณการของฝ่ายวิจัยฯ มี Downside risk ที่อาจจะต้องปรับลดลง ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ และราคาเป้าหมาย (เดิมแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8.25 บาท)

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -