สรุปภาวะตลาด

วันพุธท่ีผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จากความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและไอซีที สามารถปรับตัวบวก แต่มีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารและค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,658.24 จุด -2.03 จุด -0.12% มูลค่าการซื้อขาย 96,192 ลบ. ต่างชาติ +1,046.54 ลบ. TFEX +5,408 สัญญา ตราสารหน้ี +9,173.05 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 1.53 ดอลลาร์ +1.8% ปิดท่ี 86.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากเหตุระเบิดท่อส่งน้ำมันของตุรกี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลำเลียงน้ำมันจากอิรักไปยังตุรกี และ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกปีนี้

+ สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มข้ึน 1.4% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.702 ล้านยูนิต และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.650 ล้านยูนิต จากระดับ 1.678 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.

+ อังกฤษประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดแล้ว

+ WHO เปิดเผยว่า โควิด-19 จะไม่มีวันหายไป แต่มีโอกาสที่ WHO จะประกาศยุติภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศในปีน้ี

+ ก.พาณิชย์ มีมติให้ “ไก่-เนื้อไก่” เป็นสินค้าควบคุมราคา คุมเข้ม “อาหารสัตว์”/เบรกข้ึนราคา เครื่องใช้ไฟฟ้า

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,129 ราย ATK 2,170 ราย มีผู้เสียชีวิต 19 ราย รักษาหาย 6,978ราย

ปัจจัยลบ

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 339.82 จุด -0.96% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องและเข้าสู่การปรับฐาน เนื่องจากการพุ่งขึ้นของ bond yield ได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงหนัก และแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED

– CDC ของสหรัฐออกคำแนะนำให้พลเมืองชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยัง 22 ประเทศ และเขตแดน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเหล่าน้ีเพิ่มข้ึนอย่างมาก

– WHO เตือนว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะไม่ใช่สายพันธุ์สุดท้ายในการแพร่ระบาดครั้งน้ี แม้ว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในบางประเทศจะเร่ิมลดลงแล้วก็ตาม

– สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า สหรัฐกำลังตรวจสอบธุรกิจคลาวด์ของบริษัทอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีคอมเมิร์ซ เพื่อพิจารณาว่าเป็นภัยความมั่นคงต่อสหรัฐหรือไม่ ถือเป็นประเด็นสงครามทางการค้า สหรัฐ-จีน

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังกังวลการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ที่จะส่งผลต่อแนวโน้มการปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะท่ีราคาน้ำมันดิบ WTI ท่ีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,650-1,665 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง PTTEP PTTGC IVL
  • ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
  • ลุ้นครม.เคาะมาตรการ EV 25 ม.ค. EA NEX GPSC BCPG FORTH
  • หุ้นท่ีได้ประโยชน์จากเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP

หุ้นรายงานพิเศษ

TIDLOR – มุมมองบวก (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 45.50 บาท)

  • ในช่วง 4Q64 เป็นช่วงไฮซีซั่นหนุนสินเชื่อเติบโตดี NIM 4Q64 ดีกว่า 3Q64 ขณะที่ คชจ.ในการดำเนินงานเพิ่มสูงข้ึนตามฤดูกาล ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดทิศทางผลประกอบการ 4Q64 ทรงตัว QoQ เติบโต YoY (3Q64 มีกำไร 813 ลบ. 4Q63 มีกำไร 623 ลบ.) รวมท้ังปี 64 ยอดปล่อยสินเชื่อทำได้เกือบถึงกรอบเป้าหมายด้านบนที่ระดับ 15-20% ขณะที่รายได้ขายประกันเติบโตดีในทิศทางเดียวกันท่ีระดับ 25-30% หนุนผลประกอบการท้ังปีเติบโต Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 3,152 ลบ. +30%YoY และเติบโตต่อเนื่อง 26%YoY เป็น 3,972 ลบ. ในปี 65 ทั้งน้ี 9M64 มีกำไรสุทธิ 2,374 ลบ. +32%YoY
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง และโอกาสเติบโตแบบ inorganic จากการท่ีบริษัทจัดต้ัง Investment Committee เพื่อพิจารณาการลงทุนในลักษณะ M&A ในธุรกิจที่เก่ียวเนื่องกัน ราคาหุ้น -12.2% ในช่วง 6 เดือนท่ีผ่านมา ใกล้เคียงกับราคา IPO 36.50 บาท แนะนำ ซื้อ

หุ้นมีข่าว

(+) SABUY (Bloomberg Consensus 39.00 บาท) ลุยปิดดีลไตรมาส 1/2565 อีกกว่า 5 ดีล ก้าวใหญ่ธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยขยายฐานต่อเนื่อง มั่นใจรายได้เติบโตกว่า 100% พร้อมศึกษาที่จะออกเหรียญโทเคน และศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ แย้มสถาบันชอบธุรกิจ เข้าซื้อหุ้นใน-นอก ต่อเนื่อง มีขอซื้อบิ๊กล็อต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JR (Bloomberg Consensus – บาท) เล็งขยายธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ต่อยอดธุรกิจเพิ่ม ช่องทางสร้างรายได้ใหม่ คาดเห็นรายได้ที่ชัดเจนในปี 2565 ส่วนธุรกิจอีวี คาดปิดดีลร่วม EA ปั้นจุดชาร์จไซซ์บิ๊กช่วงไตรมาส 2/2565 พร้อมจัดทัพประมูลงานใหม่ 1 พันล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่ม บอสใหญ่ “จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ” ปักหมุดปี 2565 รายได้โต 20% (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) WHA (Bloomberg Consensus 4.10 บาท) เปิดตัวโครงการ ดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสตกิส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 ครอบคลุมพื้นที่อาคารรวม 400,000 ตร.ม. บนเนื้อที่ 400 ไร่ เป็นคลังสินค้าของ WHA ที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ใกล้กรุงเทพฯ พร้อมประเดิมต้อนรับลูกค้ารายแรก “เคอรี่ โลจิสติคส์” ขนาดพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) LEO (Bloomberg Consensus 19.50 บาท) ชงบอร์ดควบรวมกิจการวันที่ 24 มกราคมน้ี หวังรับทรัพย์ปีละ 100 ล้านบาท คาดกดต้นทุนขนส่งต่ำ ฟากบิ๊กบอส “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” ทุ่มเงิน 200 ล้านบาท พร้อมเทกโอเวอร์ขนส่งต่างแดน ดันรายได้อีคอมเมิร์ซโตต่อ 20% ชูไทยเป็นฐานขนส่ง (ท่ีมา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 20 ม.ค.ประชุมศบค.ชุดใหญ่ สาธารณสุขเสนอเรื่องการปรับพื้นที่สีเพิ่มจังหวัดแซนด์บ็อก
  • สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
  • สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
  • 24 ม.ค.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • 31 ม.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 20 ม.ค.ธนาคารกลางจีน กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.

สหรัฐรายงาน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

  • 21 ม.ค.ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม

สหรัฐเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board

  • 24 ม.ค.อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนม.ค. จากมาร์กิต
  • 25-26 ม.ค. กำหนดการประชุม FED
  • 2 ก.พ. ประชุมโอเปกพลัส
- Advertisement -