Daily View
ภาพรวมเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยเฉพาะ (NASDAQ) ยังคงปรับฐานต่อเนื่องอีก 1.15% หลักๆแรงกดดันยังมาจากการเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (กดดันกลุ่ม TECH) ด้านราคาน้ำมันดิบยังคงเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง (BRT +1.1%) หลังมีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดท่อส่งน้ำมันของตุรกีประกอบกับ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 22 เป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) สำหรับมุมมองของเราต่อราคาน้ำมันดิบ (BRT) มีโอกาสไปถึง 90 $/BBL ในระยะสั้น เนื่องจาก EIA รายงานล่าสุดได้ระบุว่าการผลิตน้ำมันของ OPEC+ น้อยกว่าที่ประกาศไว้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจากเดือน ก.พ. เป็นต้นไป ราคาน้ำมันจะเริ่มย่อตัวลง ส่วน SET INDEX มีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐ (YTD) NASDAQ ปรับฐานลงมา 9.4% สวนทางกับ SET INDEX ที่ปรับฐานลงมาเพียง 0.7% ด้วยภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น กับเงินเฟ้อที่ยังเป็นตัวกดดันจะส่งผลให้ Value Stock มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า Growth Stock ซึ่งหุ้นส่วนใหญ่ใน SET INDEX เป็น Value Stock ต่างกับ NASDAQ ที่เป็น Growth Stock โดย Sector ที่น่าสนใจจะได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) น้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP TOP SPRC) ขณะที่วันนี้ ศบค. จะมีการประชุมกันเพื่อหารือมาตรการผ่อนคลาย หลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เบื้องต้นมีรายงานออกมาว่าจะพิจารณา Test & Go ปรับลดสีจำนวนจังหวัด อนุญาตให้ดื่มสุราในพื้นที่ ตามสถานการณ์มองกลุ่มท่องเที่ยว (AOT MINT SPA) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) รับผลบวกจากปัจจัยข้างต้น
SET INDEX วันนี้ประเมินเคลื่อนไหวในกรอบ 1653–1665 ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่มีนัยยะต่อตลาด แต่ก็เชื่อว่าแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐจะไม่กระทบกับ SET INDEX เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะสะสม Laggard Play ที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการ (BEM BJC CPALL M MAJOR MINT SHR) ท่องเที่ยว (SPA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK) ส่วน Trading ระยะสั้นยังเน้นน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
Stock Pick
PTTEP (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 146 บาท) คาดกำไรสุทธิ 4Q21 ที่แข็งแกร่ง 9.7 พันล้านบาท (+283% YoY, +2% QoQ) หากไม่รวมขาดทุนการด้อยค่าสินทรัพย์ US$200m จากโครงการโมซัมบิกและเยตากุน และกำไรการบันทึกกลับค่าใช้จ่ายการเลิกดำเนินงาน US$100m จากโครงการบงกชก็คาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านบาท (+162%YoY, +20%QoQ)
TOP (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 67 บาท) คาดกำไรปกติจะโตต่อเนื่องในปี 2022 หลังฟื้นตัวขึ้นมาจากผลขาดทุนในปี 2020 และมีผลประกอบการแข็งแกร่งในปี 2021 หนุนจาก 1) ค่าการกลั่นที่ดีขึ้น 2) ผลประกอบการธุรกิจปิโตรเคมีที่มั่นคง และ 3) การรับรู้รายได้จากโครงการ CAP
