บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
PTT GLOBAL CHEMICAL คาดกำไรลดลง QoQ และ YoY
Action
TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +11.6%
Close Jan 19, 2022 Price (THB) 58.25
12M Target (THB) 65.00
Previous Target (THB) 65.00
What’s new?
- คาด 4Q64 กำไรสุทธิ 5.9 พันล้านบาท (-15% QoQ, -7% YoY) อ่อนแอกว่าคู่แข่ง กดดันจากส่วนต่างราคาอะโรมาติกส์ที่ลดลง, ต้นทุนวัตถุดิบโอเลฟินส์ปรับตัวขึ้น , ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ Performance Chemicals ลดลง, การปิดซ่อมบำรุงโรงงาน Phenol, และค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามฤดูกาล ค่าใช้จ่ายเก่ียวกับการปิดดีล M&A
Our View
- ปี 2565 ยังไม่สดใสนัก แม้จะเริ่มรับรู้กำไรจาก Allnex และ VNT อย่างไรก็ตาม เราคงประมาณการกำไรสุทธิ 2.9 หมื่นล้านบาท (-37% YoY) เพราะไม่มีกำไรพิเศษจากการขาย GPSC และกำไรสต๊อกน้ำมัน ขณะที่กำไรปกติ -6% จากทิศทางส่วนต่างราคาปิโตรเคมี, การปิดซ่อมบำรุงจำนวนมาก, และผลกระทบจากการผลิตก๊าซในอ่าวไทย
- บอกว่าหุ้นโรงกลั่นน่าสนใจลงทุนมากกว่า ระยะสั้นทิศทางงบ 4Q64 ที่แย่กว่ากลุ่มฯ จะกดดันราคาหุ้น
คาด Margin ปิโตรเคมี และปิดซ่อมบำรุงกดดัน 4Q64 ลดลง QoQ และ YoY
คาด 4Q64 จะมีกำไรสุทธิ 5.9 พันล้านบาท ลดลง -15%QoQ และ -7%YoY โดย 1) แม้ประเมินว่าธุรกิจโรงกลั่นจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมเดินทาง และความต้องการใช้น้ำมันทดแทนก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งอัตราการกลั่นที่กลับเป็นปกติหลังผ่านการหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อน 2) การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทำให้คาดว่าจะมีกำไรสต๊อกน้ำมัน 1.1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานจะอ่อนแอลงเพราะถูกกดดันจาก 3) ส่วนต่างราคาอะโรมาติกส์ลดลง QoQ อย่างมีนัยสำคัญ โดย PX-Cond อยู่ที่ US$222/ตัน (-27% QoQ) และ BZ-Cond อยู่ที่ US$260/ตัน (-31% QoQ) 4) อัตรากำไรของธุรกิจโอเลฟินส์ถ์ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น 5) อัตรากำไรผลิตภัณฑ์กลุ่ม Performance Chemicals ได้รับผลกระทบจากส่วนต่างราคา BPA ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน Phenol 5) ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามฤดูกาล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเข้าลงทุน Allnex และ 6) ผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน HMC
คงประมาณการปี 2565 ไม่สดใสนัก…ต้นทุนก๊าซ และปิดซ่อมกดดัน
หาก 4Q64 เป็นไปตามคาด กำไรสุทธิปี 2564 จะใกล้เคียงกับคาดการณ์ของเราที่ 4.6 หมื่นล้านบาท (3% Upside) มองข้ามไปปี 2565 เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิที่ 2.9 หมื่นล้านบาท -37%YoY สาเหตุหลักมาจากฐานสูงในปีนี้ เพราะมีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายหุ้น GPSC กว่าหมื่นล้านบาท และกำไรสต็อกน้ำมันกว่า 6 พันล้านบาท หากนับเฉพาะกำไรปกติคาดลดลง -6%YoY เพราะปัจจัยบวกจากการเริ่มรับรู้ผลประกอบการของ Allnex ที่ปิดดีลเมื่อ 29 ธ.ค.2564 และการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน VNT (คาด Tender offer เสร็จสมบูรณ์ใน 1Q65) จะถูกชดเชยด้วย 1) ทิศทางส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่อ่อนตัวลง YoY 2) ตารางปิดซ่อมบำรุงจำนวนมาก โดยเฉพาะการหยุดซ่อมใหญ่โรงงานโอเลฟินส์ช่วง 2Q65 และโรงกลั่นช่วง 4Q65 และ 3) ปริมาณวัตถุดิบก๊าซจาก PTT ที่ได้รับผลกระทบจาก Short fall การผลิตก๊าซในอ่าวไทย
โรงกลั่นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า
คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 65.00 บาท และคำแนะนำ TRADING แม้คาดหุ้นจะมีเงินปันผล งวด 2H64 สูง 2.00 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 3.4% อย่างไรก็ตาม เชิงกลยุทธ์เรามองว่าหุ้นโรงกลั่นอย่าง TOP BCP SPRC ที่โมเมนตัมกำไร 4Q64–2565 เติบโตจะน่าสนใจเข้าลงทุนมากกว่า สอดคล้องมุมมองอุตสาหกรรมปี 2565 ท่ีโรงกลั่นจะฟื้นตัวดีกว่าปิโตรเคมี รวมทั้งหุ้นมีปัจจัยเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิตจากการผลิตก๊าซในอ่าวไทยที่มีแนวโน้มลดลงในช่วง 18 เดือนข้างหน้า ระยะสั้นแนวโน้มงบ 4Q64 ที่มีโอกาสทำได้แย่กว่ากลุ่มฯ อาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นได้ (บริษัทฯจะรายงานผลประกอบการวันที่ 14 ก.พ.)