บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

TIPCO ASPHALT คาดกำไรปกติ 4Q64 ลดลง QoQ และ YoY

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +15.4%

Close Jan 20, 2022 Price (THB) 18.20

12M Target (THB) 21.00

Previous Target (THB) 21.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 326 ล้านบาท ลดลง QoQ และ YoY ปริมาณขายรวมที่ลดลงหลัง Demand ในตลาดประเทศชะลอตังลงเล็กน้อย รวมถึง GPM ที่ลดลงจากราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบใน 4Q64 ที่สูงขึ้น QoQ และ YoY
  • คงประมาณการปี 2565 ที่ 2,199 ล้านบาท โดยคาดปริมาณขายทรงตัวจากปี 2564 ในขณะที่กำไรปกติ 1Q65 จะยังคงถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดจะเห็นการฟื้นตัวใน 2Q65 ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจในประเทศ

Our View

  • คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 21.00 บาท/หุ้น มี Upside Gain 15.4% แต่มี Downside Risk จากน้ำมันดิบในคลังของบริษัทฯท่ีเพียงพอถึง 2Q65 อาจส่งผลให้บริษัทฯ ต้องซื้อน้ำมันดิบเพิ่มในราคาที่สูง และอาจเป็นประเด็นกดดัน GPM ปี 2565
  • เชิงกลยุทธ์ อาจเลือกชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของบริษัทฯในการจัดการความเสี่ยงด้านวัตถุดิบ นอกจากนี้บริษัทยังคงขาดปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะสั้น-กลาง

คาดกำไรปกติ 4Q64 ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น QoQ

คาดรายได้รวมที่ 6,734 ล้านบาท ลดลง -2% QoQ แม้รายได้จากธุรกิจก่อสร้างฟื้นตัว QoQ จากการไม่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงเหมือนกับ 3Q64 เนื่องจากคาดปริมาณขายยางมะตอยใน 4Q64 ที่ 2.9 แสนตัน ลดลงจาก 3.0 แสนตันใน 3Q64 เนื่องจากอุปสงค์ยางมะตอยที่ลดลงในตลาดต่างประเทศเช่นจีนและอินโดนีเซีย ในขณะที่การเติบโตของรายได้ YoY เป็นผลมาจากราคาขายเฉลี่ยของยางมะตอยที่สูงขึ้น YoY และการรับรู้รายได้จากธุรกิจก่อสร้างคาด GPM ใน 4Q64 ที่ 12.1% ลดลงจาก 12.4% ใน 3Q64 และ 19.2% ใน 4Q63 จากราคาน้ำมันเฉลี่ยใน 4Q64 ที่ปรับตัวสูงขึ้น QoQ และ YoY คาดค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 337 ล้านบาททรงตัว QoQ จากปริมาณขายที่ใกล้เคียงเดิม จึงคาดกำไรปกติที่ 326 ล้านบาท (-18% QoQ, -53% YoY) อย่างไรก็ตาม หากรวมรายการพิเศษกำไรสุทธิ 4Q64 อยู่ที่ 573 ล้านบาท (+51% QoQ, -28% YoY) จากค่าสินไหมทดแทนจากเหตุเพลิงไหม้จำนวน 271 ล้านบาท หากกำไรปกติและกำไรสุทธิออกมาตามคาด จะส่งผลให้ประมาณการปี 2564 มี Downside เล็กน้อย ราว 4%

แนวโน้มปี 2565 ทรงตัวจากปี 2564

คาดปริมาณขายปี 2565 ทรงตัว YoY จากปริมาณการผลิตที่ยังคงทำได้อย่างจำกัด (จากการขาดหายไปของน้ำมันจากเวเนซุเอลา) และคาดราคายางมะตอยจะทรงตัวอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ 4Q64 จึงคงประมาณการปี 2565 ที่ 2,199 ล้านบาท โดยเบื้องต้นเรามองว่าผลประกอบการ 1Q65 จะยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ราคาขายยางมะตอย Laggard ราว 1-2 เดือน) และจะเห็นภาพของการฟื้นตัวใน 2Q65 จากการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจในประเทศ

ยังขาดแรงหนุนระยะสั้น-กลาง

คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 21.00 บาทต่อหุ้น อิง PER2565 ที่ 15.0x โดยมี Upside Gain +15.4% คงคำแนะนำ “ซื้อ” อย่างไรก็ตาม ประมาณการของเรามี Downside Risk จากการที่บริษัท ฯ มีน้ำมันดิบในคลังเพียงพอถึง 2Q65 ดังนั้น จึงมีโอกาสที่บริษัท ฯ จำเป็นจะต้องซื้อน้ำมันดิบเพิ่มเติมในราคาที่สูงในช่วง 1Q65 ซึ่งหากมีการซื้อจริง จะเป็นปัจจัยที่กดดัน GPM ของบริษัทฯ ในปี 2565 ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์จึงอาจเลือกชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของบริษัทฯ ในการจัดการความเสี่ยงด้านวัตถุดิบที่ใกล้จะหมดลง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงขาดปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะสั้น-กลาง

- Advertisement -