บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
SC ASSET CORPORATION พื้นฐานดี … ปันผลเด่น
Action
BUY (Maintain)
TP upside (downside) +25.7%
Close Jan 20, 2022 Price (THB) 3.74
12M Target (THB) 4.50
Previous Target (THB) 4.50
What’s new?
- คาด Presale ช่วง 4Q64 ที่ 5.7 พันลบ. (+21.1% QoQ, +35.9% YoY) สูงที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส จากการคลาย Lockdown และ Take-up โครงการเปิดใหม่ที่ทำได้ดี ผลประกอบการ 4Q64 คาดเป็นจุดสูงสุด ของปี ที่ระดับ 600-650 ลบ.
- คาดเบื้องต้นมูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2565 ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 3.0-3.5 หมื่นลบ. เติบโตอย่างมีนัยสำคัญกว่า 208-260%YoY
Our View
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 4.50 บาท/หุ้น เราคาดยอดเปิดตัวโครงการใหม่ที่ระดับ 3.0-3.5 หมื่นลบ. ในปี 2565 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะยกฐานยอดขายและรายได้ของ SC ให้อยู่เหนือระดับ 2.0 หมื่น ลบ. ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
- SC มีจุดเด่นเฉพาะตัวคือนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละคร้ัง คาดงวดปี 2564 ที่ 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ท่ี 5.3% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 3.8% อย่างมีนัยสำคัญ
คาด Presale ปี 2564 ทะลุเป้า บริษัทเติบโตเด่นกว่า 31.5% YoY
เราคาดบริษัทจะรายงานยอด Presale ช่วง 4Q64 ที่ 5.7 พันลบ. (+21.1% QoQ, +35.9% YoY) สูงที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส แบ่งออกเป็น 1) Presale แนวราบที่ 3.9 พันลบ. (+6.7% QoQ, +21.3% YoY) เติบโตต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY จากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในช่วง 3Q64 หนุนกิจกรรมการเยี่ยมชมโครงการ ประกอบกับบริษัทได้มีการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่อีกจำนวน 2 โครงการ คือ Venue IDENTITY Rama 5 (มูลค่า 500 ลบ.) และ Venue IDENTITY Westgate (มูลค่า 1.3 พันลบ.) เป็น Brand ใหม่ในช่วงระดับราคาขาย 5.0-10.0 ลบ. และ 2) Presale โครงการแนวสูงคาดที่ 1.6 พันลบ. เติบโตเด่น 85.8% QoQ และ 97.4% YoY หนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วง 4Q64 ที่ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 และ 3 ในช่วง 4Q63 และ 3Q64 ตามลำดับนอกจากนี้ เราคาด Presale แนวสูงที่ปรับตัวขึ้นเด่นใน 4Q64 ส่วนหลักมาจาการเปิดตัวโครงการแนวสูงใหม่ในช่วง 3Q64 คือ The Crest Park Residences มูลค่า 3.1 พันลบ. ซึ่งสามารถทำ Take-up rate ได้ถึง 18% ในไตรมาสของการเปิดตัว ทั้งนี้หาก Presale ในช่วง 4Q64 ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ จะส่งผลให้ยอด Presale ทั้งปี 2564 ของบริษัทอยู่ที่ 2.2 หมื่นลบ. เติบโตขึ้น 31.5% YoY และสูงกว่า 9.1% เมื่อเทียบกับเป้าหมายของ บริษัทที่ 2.0 หมื่นลบ.
ผลประกอบการ 4Q64 คาดเป็น Highlight ของปี
เราคาดผลประกอบการเบื้องต้นในช่วง 4Q64 จะเป็นจุดสูงสุดของปีที่ระดับ 600-650 ลบ. +/- เติบโต 10.0-19.3% QoQ และ 31.3-42.2% YoY จาก 1) Backlog ที่คาดรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 4Q64 ที่ 5.2 พันลบ. (แบ่งเป็นแนวราบ-แนวสูงที่ 4.6 พันลบ. และ 668 ลบ. ตามลำดับ) คิดเป็น Secured revenue แล้วกว่า 99% เมื่อเทียบกับประมาณการรายได้ปี 2564 ของเราที่ 1.9 หมื่นลบ. 2) แผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในช่วง 4Q64 จำนวน 1.8 พันลบ. คาดสามารถรับรู้ยอดโอนได้ภายในไตรมาส และ 3) ปัจจัยหนุนระดับมหภาคคือการผ่อนปรนมาตรการ LTV ในช่วงปลายเดือน ต.ค. 2564 คาดส่งผลบวกต่อการระบาย Inventory ทั้งแนวราบและแนวสูงตั้งแต่ช่วง 4Q64 ไปจนถึงสิ้นปี 2565
ปี 2565 เดินหน้าเต็มกำลัง … คาดยอดเปิดตัวที่ระดับ 3.0-3.5 หมื่นลบ. โตกว่า 208-260% YoY
เราคาดเบื้องต้นมูลค่าของโครงการเปิดตัวใหม่ในปี 2565 ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 3.0-3.5 หมื่นลบ. สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเติบโตโดดเด่นกว่า 208-260% YoY โดยสัดส่วนการเปิดตัวจะแบ่งออกเป็น 1) โครงการแนวราบรวมมูลค่าอย่างน้อย 2.0 หมื่นลบ. จากการลงทุนการซื้อที่ดินในปี 2564 ที่ราว 1.0 หมื่นลบ. บวกกับโครงการที่เลื่อนการเปิดตัวจากปี 2564 ได้แก่ Bangkok Boulevard Bangna-Srinakarin มูลค่า 2.0 พันลบ. และ Bangkok Boulevard-Wongwean มูลค่า 1.2 พันลบ. และ 2) โครงการแนวสูงอีกจำนวน 3-4 โครงการรวมมูลค่าราว 1.0-1.5 หมื่นลบ. (รวมการเลื่อนการเปิดตัวของโครงการ Centric Wongwean Yai มูลค่า 3.6 พันลบ. จากปี 2564) ทั้งนี้ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ที่ระดับ 3.0-3.5 หมื่นลบ. คาดเป็นปัจจัยสำคัญที่จะยกฐานยอดขายและรายได้ของ SC ให้อยู่เหนือระดับ 2.0 หมื่นลบ. ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ 4.50 บาท/หุ้น … ปันผลงวดปี 2564 สูงเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม
เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2564/65 ที่ 2.1 พันลบ. (+10.3% YoY) และ 2.4 พันลบ. (+15.4% YoY) ตามลำดับ และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 4.50 บาท/หุ้น (อิง PER2565 ที่ 7.8x เทียบเท่า +0.5 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท ) ราคาปิดวานนี้เทียบเท่า PER2565 ที่เพียง 6.5x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 8.0% อย่างมีนัยสำคัญ แต่กลยุทธ์เปิดตัวโครงการใหม่ในเชิงรุกในปี 2565 คาดจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัท Outperform กลุ่มได้ในปี 2565/66 นอกจากนี้ SC ยังมีจุดเด่นเฉพาะตัว คือ นโยบายจ่ายเงินปันผลปีละครั้ง โดยเราคาดการณ์เงินปันผลงวดปี 2564 ที่ 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 5.3% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 3.8% อย่างมีนัยสำคัญ