ปัจจัยสําคัญสัปดาห์น้ีประชุม FED (25 – 26 ม.ค.) แนะ MINT KBANK
วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐ (DowJones,NASDAQ) ยังคงปรับฐานลงต่อเนื่อง 1.3% และ 2.7% จากหน้าข่าวรายงานกันว่าเกิดจากการปรับฐานลงของหุ้น Netflix แม้จะรายงานกำไรต่อหุ้นท่ีดีกว่า Bloomberg คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนให้น้ำหนักกับจำนวน Subscribers ที่บริษัทเปิดเผยว่าในช่วง 1Q22 คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านเทียบกับ 1Q21 ที่ 3.98 ล้าน และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 6.93 ล้าน เมื่อต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ จึงเกิดแรงขายและกดดันตลาดหุ้นสหรัฐในภาพรวม ดังนั้น SET อาจเผชิญจิตวิทยาเชิงลบบ้างในช่วงต้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเชื่อว่าตลาดจะไปให้น้ำหนักกับการประชุม FED ในวันที่ 25–26 หรือทราบผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีช่วงเช้า เบื้องต้นตลาดคาดว่าที่ประชุมจะยังคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ (5.4% โอกาสขึ้นดอกเบี้ยการประชุมครั้งนี้) แต่ตลาดคาดว่าดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นใน มี.ค. ด้วยโอกาส 100% และปรับขึ้นทั้งหมดในปี 22 4 ครั้ง พร้อมกับส่งสัญญาณ QT ช่วงกลางปี 22 หากออกมาเป็นไปตามนี้ ตลาดหุ้น US อาจมีโอกาสถูกซื้อกลับได้ เนื่องจากก่อนหน้าได้ปรับฐานลงมาแล้ว 6.8% (Inline ตลาด) และ SET ก็อาจได้จิตวิทยาเชิงบวกบ้าง อย่างไรก็ตาม หากส่งสัญญาณเข้มงวดกว่าข้างต้น ก็อาจจะเผชิญการปรับฐานลงได้ต่อ สำหรับผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 4Q21 ของ SET 100 กำไรรวมกลุ่มอยู่ที่ 3.56 หมื่นล้านบาท (+27%YoY, +2%QoQ) หลักๆ เป็นผลจากรายได้ทั้งดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้นที่ขยายตัวได้ และค่าใช้จ่ายด้านสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง สำหรับแนวโน้มข้างหน้าประเมินว่ายังสดใส หนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตามภาวะคลาย Lock Down หนุนสินเชื่อและรายได้ดอกเบี้ยเติบโต ประกอบกับก่อนหน้า Bank ก็ได้ตั้งสำรองไปพอสมควรแล้ว จึงน่าจะเห็นสำรองที่ลดลงจากนี้เป็นบวกต่อผลประกอบการ สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่าจะมี (SCC SCGP PTTEP DTAC) รายงานกำไร 4Q21 ส่วนปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ (1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันจันทร์ (PMI ภาคผลิต) Bloomberg ประเมินที่ 56.9 วันอังคารความเชื่อมั่นผู้บริโภค Bloomberg ประเมินที่ 111.9 เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขที่มิร้อนแรงจนเกินไปนัก เพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ประเมินกรอบทั้งสัปดาห์ 1640-1670
กลยทุธก์ารลงทุน มองกลุ่ม Bank สัปดาห์ก่อนที่เผชิญแรง Sell On Fact เป็นโอกาสสะสม ด้วยแนวโน้มที่ยังสดใสจากที่กล่าวไปข้างต้น Top Pick (BBL KBANK) รวมถึง Laggard Play ที่น่าสนใจ (BEM BJC CPALL M MAJOR MINT SHR) ส่วนการ Trading หากรับความเสี่ยงต่ำอาจรอผลประชุม FED ใหเ้สร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณา แต่หากรับความเสี่ยงได้สูงแนะกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ท่องเที่ยว (AOT MINT)
MINT (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 38 บาท) ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลายเช่นกัน ขณะที่ปัจจุบัน COVID-19 ใน EU ก็เริ่มมีการระบาดที่ลดลง (รายได้หลัก) โดยเราประเมินปีนี้ MINT จะกลับมามีกำไรครั้งแรกในรอบ 2 ปี
KBANK (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 172 บาท) กำไรสุทธิปี 2022 จะโตต่อเนื่อง 10% YoY ผลบวกจากสำรองหนี้ฯลดลง และรายได้การดำเนินงานเพิ่มขึ้น ล้อกับเศรษฐกิจคุณภาพสินเชื่อดีขึ้น NPL ratio ลดลงเหลือ 3.8% ใน 4Q21 และระดับสำรองหนี้ฯ สูงเพื่อรับมือกับ NPLs ในอนาคต