สรุปภาวะตลาด
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการซื้อ-ขาย โดยลบต่ำสุดราว 15 จุด เป็นการปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีลดช่วงลบลงในช่วงบ่าย นักลงทุนติดตามการประชุม FED ในสัปดาห์หน้า มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันท่ีปรับตัวลง ส่วนกลุ่มธนาคารมีการ Sell on Fact หลังจากที่ประกาศงบการเงิน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,652.73 จุด -4.23 จุด -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 81,426 ลบ. ต่างชาติ +1,293.76 ลบ. TFEX -2,714 สัญญา ตราสารหน้ี +2,687.05 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ฝรั่งเศสจะเลิกบังคับ WFH ต้ังแต่ต้นเดือนก.พ.และอนุญาตให้ไนท์คลับเปิดทำการในอีก 2 สัปดาห์ เนื่องจาก สถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีข้ึน
+ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐใกล้เสร็จสิ้นการพิจารณาออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนการแข่งขันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงการออกมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐ
+ ผลสำรวจบลูมเบิร์กคาดว่าธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปอีกในช่วง 1H65 เพื่อรับมือกับผลกระทบ และสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างมีศักยภาพ
+ ก.คลังสรุปตัวเลขงบประมาณท่ีจะใช้สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 แล้ว โดยจะเสนอ ครม.อนุมัติวงเงิน 43,500 ล้านบาท
+ ก.พาณิชย์เผยตัวเลขส่งออกปี 64 +17.1%YoY เกินเป้าที่ต้ังไว้ ส่วนเดือนธ.ค.สูงเป็นประวัติการณ์ส่งท้าย +24.2%YoY
+ ศบค.เห็นชอบรับนักท่องเที่ยว test&go ลงทะเบียนได้อีกครั้งตั้งแต่ 1 ก.พ. 65
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,139 ราย ATK 2,629 ราย มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รักษาหาย 8,100 ราย
ปัจจัยลบ
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 450.02 จุด -1.30% ถูกกดดันจากหุ้นเน็ตฟลิกซ์ดิ่งลงหนัก หลังเปิดเผยผลประกอบการอ่อนแอ ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุด เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นับต้ังแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในเดือน มี.ค.2563
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 41 เซนต์ -0.5% ปิดที่ 85.14 ดอลลาร์/บาร์เรล นลท.เทขายสัญญาน้ำมันดิ ออกมาท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายท่ีซบเซา หลังจากการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มข้ึนเกินคาด และตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก แต่ในรอบสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ +2.2%
– โกลด์แมน แซคส์ คาด FED ขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีน้ี เนื่องจากเงินเฟ้อพุ่งเร็วจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น
– กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษกล่าวหารัสเซีย ว่าพยายามสถาปนาผู้นำท่ีมีแนวคิดสนับสนุนรัสเซียข้ึนในยูเครน
– ส.อ.ท.เตรียมแผนปรับตัวให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ไทย ท่ีคาดว่าจะหายไปอย่างน้อย 700-800 ราย จากผลกระทบการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังมีแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้น ดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด มองกรอบดัชนีในวันน้ีที่ 1,640-1,660 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวข้ึนต่อเนื่อง : PTTEP PTTGC IVL
- ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
- ลุ้น ครม.เคาะมาตรการ EV 25 ม.ค. : EA NEX GPSC BCPG FORTH
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 : ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP
หุ้นรายงานพิเศษ
• เราให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น “Neutral” แนะนำ BBL, KBANK, SCB and TISCO
หุ้นมีข่าว
(+) EA (Bloomberg Consensus 81.00 บาท) รับปีนี้ทะยานแรง คาดรายได้โตกว่า 40% ถึงเวลาเก็บเกี่ยวอีวี เดินหน้าขยายอีโคซิสเต็ม วางแผนขยายโรงงานแบตเตอรีเป็น 2 GW ดีมานด์สูง ส่วนโรงประกอบรถยนต์ไฟฟ้าลูกค้าใหม่เข้าไม่หยุด ท้ังรถบัส-รถบรรทุกไฟฟ้า ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนมีโอกาสขยายท้ังโซลาร์-ลม รอแผนพลังงานชัด (ที่มา ทันหุ้น)
(+) KSL (Bloomberg Consensus 4.32 บาท) ประเมินราคาน้ำตาลทรงตัวสูงระดับ 18-20 เซ็นต์ต่อปอนด์ หนุนจากซัพพลายในตลาดลดลง ชูตลาดส่งออกดี คาดปริมาณอ้อยเข้าหีบโต 25-30% ดันรายได้โตตามราว 20-30% เดินหน้าพัฒนาน้ำตาลให้ตรงตามความต้องการผู้บริโภค เผยโรงไฟฟ้าได้รับอานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบลดลง จากปริมาณกากอ้อยเพิ่มขึ้น (ท่ีมา ทันหุ้น)
(+) EKH (Bloomberg Consensus 8.30 บาท) มองโควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอนหลังมีการกลายสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ความต้องการตรวจ RT-PCR-วัคซีนต้านเพิ่มข้ึน หนุนให้การบริการผู้ป่วยสูงกว่า 60-70% วางเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อเนื่องจากปี 2563 อัด ฉีดงบ 70 ล้านบาท ต่อยอดศูนย์เฉพาะทาง จับตาไตรมาส 2/2565 เปิด “เอกชัย เนอร์สซ่ิง โฮม” ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) HARN (ราคาเหมาะสม 2.60 บาท) โครงการใหญ่จ่อเข้าพรึ่บ จ้องประมูลงาน 100 ล้านบาท คาดได้ข้อสรุปไตรมาส 2/2565 “วิรัฐ สุขชัย” พ่อทัพใหญ่ ส่งซิกธุรกิจสดใส ชี้พ้นจุดต่ำสุด ตั้งเป้ารายได้ปีเสือโต 20% ชูสินค้านวัตกรรมทำเงิน คาดเห็นสัดส่วนปีนี้ 10% กอดแบ็กล็อกแน่น 420 ล้านบาท เตรียมบุ๊กเข้าพอร์ต 80-90% (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 24 ม.ค.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ประชุม ครม.
- สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- 31 ม.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 24 ม.ค.อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนม.ค.
- 25 ม.ค.สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดริชมอนด์
- 26 ม.ค. สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือน ธ.ค. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ การกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้า 27 ม.ค.)
- 27 ม.ค.สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ธ.ค. GDP 4Q64 (ประมาณการเบื้องต้น) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนธ.ค.
- 2 ก.พ. ประชุมโอเปกพลัส