บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Krung Thai Bank (KTB.BK / KTB TB)*

ผลประกอบการ 4Q64: ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักดีขึ้น

Event

กำไรสุทธิของ KTB ใน 4Q64 อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท (-2% QoQ, +31% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา 3% เนื่องจาก FVTPL สูงเกินคาด แต่ต่ำกว่า consensus 7% โดยกำไรสุทธิในปี 2564 อยู่ที่ 2.16 หมื่นล้านบาท (+29% YoY) แต่หากไม่รวมรายการ FVTPL และสำรองหนี้เสีย กับผลขาดทุนจากการด้อยค่าของ NPA กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น 2% QoQ และ 9% YoY ใน 4Q64 แต่ลดลง 11% ในปี 2564 (เนื่องจาก NIM ลดลง 50bps และรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง 2.5%)

Impact

สินเชื่อยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

สินเชื่อรวมขยายตัว 3% QoQ และ 13% YoY จากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจ (27% ของสินเชื่อรวม) ซึ่งเพิ่มขึ้น 4% QoQ และ 11% YoY), สินเชื่อส่วนบุคคล (21% ของสินเชื่อรวม โดยส่วนใหญ่มาจาก KTC) ซึ่งเพิ่มขึ้น 2% QoQ และ 7% YoY และสินเชื่อภาครัฐ (22% ของสินเชื่อรวม) ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 51% YoY

Yield สินเชื่อ และ margin ลดลง

การที่ธนาคารขยายสินเชื่อที่ความเสี่ยงต่ำ และ yield เพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อภาครัฐ กดดันให้ yield สินเชื่อ และ NIM ลดลง 8-9bps ใน 4Q64 และ 50bps ในปี 2564 ดังนั้น NII จึงลดลง 1% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 6% YoY ใน 4Q64 แต่ลดลง 6% ในปี 2564

คุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแกร่ง โดยมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของ NPA เป็นพิเศษ

Gross NPLs ค่อนข้างทรงตัวต่อเนื่องมา 7-8 ไตรมาสแล้ว โดยสัดส่วน NPL ลดลงเหลือ 4% (จาก 4.6% ในปี 2563) สะท้อนถึงนโยบายสินเชื่อของธนาคารที่เน้นขยายสินเชื่อ yield ต่ำในภาครัฐ ในขณะเดียวกันยอดกันสำรองหนี้เสีย (LLP) ทรงตัวติดต่อกันมาสามไตรมาส โดยคิดเป็น credit cost ที่ 124bps ใน 4Q64 และ 129bps ในปี 2564 โดยการกันสำรองใน 4Q64 ส่งผลให้สัดส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น >160% (จาก 140% เมื่อสิ้นปี 2563) แต่ในอีกด้านหนึ่ง ธนาคารบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของ NPA เพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทใน 4Q64 (จาก 300-500 ล้านบาท/ไตรมาสในช่วง 7-8 ไตรมาสที่ผ่านมา)

Valuation & Action

เราเห็นสัญญาณบวกบางอย่างจาก KTB ในการที่จะสร้างการเติบโตจากการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี ด้วยการใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ big data ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันได้ดีขึ้นทั้งนี้เนื่องจากผลประกอบการปี 2564 ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ และมีโอกาสที่ธนาคารจะลด credit cost ลงเราจึงอยู่ระหว่างทบทวนเพื่อปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565/66 และปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย

Risks มีการลดดอกเบี้ย, NPL เกิดใหม่เพิ่มขึ้นหลังจากโครงการผ่อนผันหนี้สิ้นสุดลง

- Advertisement -