Daily View

เมื่อวานที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ แบ่งออกเป็น (1) คนละครึ่ง Phase4 วงเงิน 1,200 บาทต่อคน ครอบคลุม 29 ล้านคน คิดเป็นวงเงินรวมกันที่ 3.48 หมื่นล้านบาท โดยเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ 17 ก.พ.22–30 เม.ย.22 อย่างไรก็ตาม คาดผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือกำไรบริษัทจดทะเบียนจำกัด เนื่องจากเม็ดเงินมิได้สูงมากนัก เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ (16 ล้านล้านบาท) มอง Makro ได้ประโยชน์สูงสุด (2) เราไปเที่ยวด้วยกัน Phase 4 สนับสนุนอีกราว 2 ล้านสิทธิ์ เริ่มตั้งแต่ ก.พ.22-ก.ค.22 มองกลุ่มโรงแรมและสนามบินรับผลบวก (AOT CENTEL ERW MINT) ด้านตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนผันผวนค่อนข้างแรงจากการที่เปิดตลาดปรับฐานแรงถึง 1,115 จุด (3.2%) ในช่วงเวลานั้น นักลงทุนวิตกกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม พบว่าหลังจากนั้น Dow Jones พลิกฟื้นขึ้นมาปิดบวกได้ 99 จุด (0.29%) เนื่องจากมีนักลงทุนบางส่วนกลับเข้ามาช้อนซื้อ หลังราคาหุ้นปรับฐานลงแรง พร้อมกับ Vix Index ที่ปรับตัวลงมาเช่นกัน (ช่วงแรกปรับขึ้นเยอะ) ด้าน 2Y , 10Y US Bond Yield ปรับตัวขึ้น (Risk On) บ่งชี้ถึงสภาวะที่นักลงทุนมิได้กังวลมากนักกับความกังวลระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยปัจจัยหลังจากนี้ ได้แก่ FED ที่จะประชุมกันแล้วเสร็จในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย เบื้องต้นตลาดได้ประเมินไว้ว่าปี 22 FED จะขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ครั้ง พร้อมกับเริ่มลดขนาดงบดุล (QT) ช่วงกลางปี 22 ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดก็ได้ปรับฐานลงมารอแล้ว ดังนั้นหากผลประชุมออกมาแล้วเป็นไปตามที่ตลาดประเมินไว้ก็อาจเกิดแรงซื้อกลับได้ แต่ในทางกลับกัน หากเข้มงวดกว่าที่ตลาดประเมินไว้ก็อาจปรับฐานลงได้ หรือหากไม่ส่งสัญญาณลดขนาดงบดุล ประเมินตลาดมีโอกาสฟื้นตัวแรง ดังนั้น ตลาดช่วงนี้จึงเป็นลักษณะแกว่งเพื่อรอดู FED ประเมิน SET วันนี้แกว่งแดนลบ 1630 – 1639 ตามจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดหุ้นภูมิภาค (Nikkei แกว่งลบ 1.25%) เชิงกลยุทธ์ ระยะสั้นกลับมาเน้นหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อาทิ (CRC RS TTB SIS) ส่วนทยอยสะสมยังแนะ Laggard (BEM BJC CPALL M MAJOR MINT) และธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK)

Stock Pick

SIS (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 50 บาท) คาดกำไรปกติ 4Q21 จะลดลง 4%QoQ จากรายได้ที่ลดลง (+40%YoY, -4%QoQ) มีปัจจัยฉุดมาจากกลุ่มสินค้าผู้บริโภคที่มียอดขายสินค้าภายในบ้านลดลงจากการคลายล็อคดาวน์ แต่คาดกำไรโต 28%YoY ในปี 2022 จากธุรกิจคลาวด์และระบบปลอดภัยบนไซเบอร์ที่มีอัตรากำไรและอุปสงค์สูง

TTB (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 1.6 บาท) กำไรสุทธิใน 4Q21 แข็งแกร่งที่ 2.8 พันล้านบาท (+127%YoY, +19%QoQ) สูงกว่าคาด 13% จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ดีกว่าคาด พร้อมกับคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น คาดกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่อง 18% YoY ในปี 2022 หนุนจากการตั้งสำรองหนี้ฯ ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น

- Advertisement -