บล.เอเซีย พลัส: 

ขาดทุนใน 4Q64..สตอรี่เด่นในปี 2565

คาด 4Q64 มีผลขาดทุน 50 ล้านบาท จากรายได้ธุรกิจ Commerce ท่ีลดลงตามกําลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัว รวมถึงสินค้าใหม่ท่ีมี Margin ต่ำกดดัน Gross Margin ใน 4Q64 รวมถึงรายได้ธุรกิจสื่อที่ลดลงจากสต๊อก Content ที่เหลือน้อยและการทํา Fresh Program ส่งผลให้ต้นทุนค่าผลิตสูงขึ้น

แผนธุรกิจปี 2565 ค่อนข้างโดดเด่น จากการเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์เดิมเพิ่ม การพัฒนาแอพพลิเคชั่นช่อง 8 และการผลิต Content ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชม รวมถึงการนําเหรียญ Popcoin เข้ามาเติมเต็ม Ecosystem ให้สมบูรณ์ แนะนํา ซื้อ โดยจังหวะที่เหมาะสมคือหลังผลประกอบการ 4Q64 ออก ที่คาดราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงลบ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2565 ภายใต้ DCF ได้ Fair Value 22.00 บาท

หลายปัจจัยรุมเร้า…คาดประสบผลขาดทุนใน 4Q64

คาด RS จะประสบผลขาดทุนใน 4Q64 อยู่ที่ 50 ล้านบาท หลักๆมาจากรายได้ธุรกิจ Commerce คาดอยู่ท่ี 487 ล้านบาท (-10%QoQ) ที่ยังไม่เห็นการฟื้นตัว เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมา อีกท้ังยังเจอปัญหาจากการออกสินค้าใหม่จากคู่แข่ง ทําให้เกิดการแข่งขันด้านราคาท่ีรุนแรง รวมถึงสินค้าประเภท Mass Product ท่ีมี margin ต่ำ อย่าง WellU, CAMU-C และ Lifemate มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 5% ของยอดขายในงวด 3Q64 เป็น 12% กดดันให้ Gross Margin ของธุรกิจ Commerce ลดลง โดย 4Q64 คาดอยู่ที่ 53% ( 3Q64 อยู่ท่ี 58%) ในส่วนของธุรกิจสื่อ คาดรายได้อยู่ที่ 243 ล้านบาท (-8%QoQ) จากการขายลิขสิทธ์ิ Content ที่ลดลง รวมถึงสต๊อก Content ที่เหลือน้อยส่งผลให้รายได้ลดลงตาม อีกท้ังยังถูกซ้ำเติมจากการออกอากาศรายการใหม่ที่เพิ่มขึ้นเทียบกับ 3Q64 ท่ีมีการนําละครเก่ามารีรันทําให้มีต้นทุนค่าผลิตเพิ่มข้ึน

กลยุทธ์ “LEAP” สร้างการเติบโตในระยะยาว

เมื่อวันท่ี 24 ก.พ. 2565 RS ได้เปิดแผนการดําเนินธุรกิจในปี 2565 พร้อมกลยุทธ์ “LEAP” ในการสร้างการเติบโตในระยะยาว

“L” – Lifestyle Wellbeing Solution โดยมุ่งเน้นการทําธุรกิจ Commerce ในการคัดเลือกสินค้าและบริการท่ีหลากหลาย โดยสินค้าที่ขายใน RS Mall ท้ังหมดมาจาก Lifestar (บริษัทในเครือ RS) 50% และจากพาร์ทเนอร์อีก 50% โดยใช้ Popcoin เป็นตัวเช่ือมในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ และเติมเต็ม Ecosystem ให้สมบูรณ์

“E” – Entertainment Uplift ยกระดับธุรกิจสื่อและบันเทิงโดยการพัฒนาเว็ปไซต์ และแอพพลิเคชั่นช่อง 8 รวมถึงการผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเพิ่ม Original Content เพื่อสร้างฐานผู้ชมกลุ่มใหม่ (อายุ 18-30)

“A” – Asset Monetization การเพิ่มช่องทางรายได้ใหม่จาก Asset ในองค์กรการเข้าสู่ตลาด NFT และการสร้าง Online Content รูปแบบใหม่ใน Youtube รวมถึง บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จํากัด (RS ถือหุ้นสัดส่วน 35%) ที่เตรียม IPO ภายในไตรมาส 4 ของปี 2565

“P” – Popcoin Smart Marketing Platform เทคโนโลยี Blockchain ที่จะเข้ามาเป็นแพล็ตฟอร์มที่แข็งแกร่งและสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้แก่ RS Group โดยมี แบม แบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปินช่ือดังระดับโลกมาเป็น Platform Partner ที่สําคัญของ Popcoin และยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดในการหารายได้จากช่องทางใหม่ๆ นอกจากน้ี RS ยังมีแผนการทํา M&A อีก 1-2 ดีลภายในปีนี้ ใช้เงินลงทุนราว 500-1,000 ล้านบาท ในการเสริมสร้างโมลเดลธุรกิจ Entertainmerce ให้แข็งแกร่งข้ึนในระยะยาว

RS มีเป้าหมายในการยกระดับโมเดล Entertainmerce และส่งเสริมให้เกิด Seamless Big Data ท่ีจะส่งผลให้ฐานข้อมูลลูกค้าใหญ่ข้ึน เพื่อนํามาวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคท่ีหลากหลายมากข้ึน

ภาพรวมปี 2565 ยังดูดี…สตอรี่เด่น

ฝ่ายวิจัยยังเช่ือว่าผลประกอบการของ RS จะค่อยๆฟื้นตัวข้ึนได้ตั้งแต่ 1Q65 เป็นต้นไปจาก

1.) ธุรกิจ Commerce มีแผนท่ีจะเพิ่มจํานวน SKU มากขึ้น ภายใต้แบรนด์หลัก 4 แบรนด์ ได้แก่ Well-U (+13 SKUs), Vitanature+ (+7 SKUs), CAMU-C (+3 SKUs) และ Lifemate (+5 SKUs) ผ่านการขายในหลายช่องทาง อาทิ RS Mall, Modern Trade, Traditional Trade และ Online Marketplace

2.) ธุรกิจสื่อมีแผนที่จะพัฒนา Website และ Application ของช่อง 8 เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และถือเป็นการปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในการหันมาเสพสื่อออนไลน์มากข้ึน อีกทั้งยังมี Original Content ที่ผลิตเอง อาทิ Vibe Global Audition Reality TV Talent, Food Truck Battle 2 ท่ีตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ Content ประเภทมวยท่ีเป็นจุดแข็งของช่อง 8 อาทิ มวย พันธ์ดุ, มวยไทย Super Champ และ Thai Fight รวมถึงละครเด่น อาทิ ศึกเสน่หา, บ่วง ใบบุญ, มงกุฎกรรม ท่ีพร้อมจะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับผู้ชม

นอกเหนือจากแผนธุรกิจข้างต้นแล้ว RS มีความพร้อมที่จะนํา Popcoin เข้ามาเพื่อเสริมสร้าง Ecosystem ให้แข็งแกร่ง ทั้งในด้านของ RS เอง ท่ีสามารถนํา Popcoin ไปทําการตลาดเพื่อส่งเสริมยอดขายและสร้างรายได้เพิ่มข้ึน อาทิ การที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าของ RS เช่น CAMU-C ก็จะได้ Popcoin กลับไป และสามารถนําไปแลกของรางวัลบน Popcoin Platform ได้ และในอนาคตมีแผนท่ีจะพัฒนาการตลาดไปอีกขั้น เมื่อผู้บริโภคซื้อ CAMU-C จะสามารถนําบาร์โค้ดใต้ฝาเพื่อนําไปแลก Popcoin ได้เช่นกัน ถือเป็นการประหยัดงบทางการตลาดให้กับ RS อีกทาง รวมถึงในด้านของ Partner รายอื่นๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทกับ Popcoin อาทิ SABUY, Chayo, Asset Wise, IT City สามารถเพิ่ม Engagement ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ Popcoin จากการท่ีเหรียญถูกนําไปใช้งานมากยิ่งข้ึน

แนะนํา ซื้อ มูลค่าเหมาะสมปี 2565 อยู่ท่ี 22.00 บาท

ฝ่ายวิจัยทําการปรับประมาณการรายได้ปี 2565 เพิ่มข้ึน 10% จากเดิม 3,941 ล้านบาท เป็น 4,320 ล้านบาท  จากแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จํานวนมากที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยปรับ Gross Margin เฉลี่ยลงจากเดิม 52% เหลือ 48% และปรับกําไรสุทธิปี 2565 ลง 8.8% จากเดิม 653 ล้านบาท เหลือ 600 ล้านบาท สะท้อนการเพิ่มข้ึนของสัดส่วนยอดขายสินค้าประเภท Mass Product ท่ีมี Margin ต่ำ โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการขยายธุรกิจในปี 2565 และการนํา Popcoin มาเสริมสร้าง Ecosystem ของ RS ให้สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจในระยะยาว ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2565 ภายใต้วิธี DCF (WACC 7%, Terminal Growth 2%) อยู่ที่ 22.00 บาท แนะนําซื้อ โดยหาจังหวะเข้าลงทุนหลังประกาศผลประกอบการ 4Q64 วันท่ี 25 ก.พ. ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นน่าจะตอบสนองเชิงลบต่อผลประกอบการขาดทุนในงวด 4Q64 ที่ถือว่าค่อนข้าง Surprise ตลาด โดยผลประกอบการจะทยอยฟื้นตัวต้ังแต่ 1Q65 เป็นต้นไป และยังมีประเด็นบวกรออยู่จากดีล M&A อีก 1-2 ดีล ที่ใช้เงินลงทุนราว 500-1,000 ล้านบาท ถือเป็น Upside เพิ่มเติมท่ียังไม่ได้อยู่ในประมาณการ

ประเด็นความเสี่ยง

  1. มูลค่าเหรียญ Popcoin ลดลง เนื่องจากไม่มีผู้บริโภคสนใจในการนําเหรียญไปแลกของรางวัล
  2. กําลังซื้อของผู้บริโภคอาจหดตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ
- Advertisement -