บล.ทิสโก้:

บมจ. โอสถสภา คาดกำไรสุทธิ Q4 เพิ่มขึ้น QoQ

คาดกำไรสุทธิ 4Q21F ดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ แต่ยังมีความเสี่ยงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” จาก 1) คาดกำไรสุทธิ 4Q21F เพิ่มขึ้น QoQ จากรายได้เพิ่มขึ้นทุกกลุ่มหลังคลายล็อกดาวน์ 2) แนวโน้มผลประกอบการปีนี้โดนกดดันจากต้นทุนจาก natural gas และวัตถุดิบอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น ปรับประมาณการปี 2021F เพิ่มขึ้นสะท้อน 4Q21F ดีกว่าคาด แต่ปรับประมาณการ 2022 Fลดลงสะท้อนต้นทุนในการผลิตท่ีเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 35.75 บาท

คาดกำไรสุทธิ 4Q21F เพิ่มขึ้น QoQ จากรายได้ทุกกลุ่มที่เพิ่มขึ้น

คาด OSP จะมีกำไรสุทธิ 4Q21F ที่ 804 ล้านบาท (-6%YoY, +39%QoQ) โดย 1) คาดรายได้กลุ่มเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น +11%YoY, 12%QoQ จากกลุ่มเครื่องดื่มพลังงานและกลุ่ม functional drink เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ส่งผลการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการรับรู้รายได้การช่วยจัดจําาหน่ายยันฮี วิตามินบี วอเตอร์ ที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. 21 สำหรับยอดขายต่างประเทศ 4Q21F เพิ่มขึ้น YoY จากการปรับโครงสร้างในประเทศเมียนมาเป็นหลัก แต่ลดลง QoQ จากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศเมียนมาที่ชะลอตัว และค่าเงินจ๊าดที่อ่อนค่าลง ส่งผลกำลังซื้อที่ลดลง 2) ยอดขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น +20%QoQ จากช่วงทำโปรโมชั่นปลายปี 3) รายได้รับจ้างผลิต OEM เพิ่มขึ้น 12%QoQ ในส่วนรับจ้างผลิตกลุ่มเครื่องดื่มและของใช้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น QoQ อยู่ที่ 34.9% ตามกำลังการผลิตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.7% จาก 13.3%YoY และ 9.5%QoQ

ปรับประมาณการ 2021F เพิ่มขึ้น แต่ปรับปี 2022F ลดลง สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2021F เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 3% มาอยู่ที่ 3,208 (-8%YoY) สะท้อนรายได้ใน 4Q21F เพิ่มขึ้นดีกว่าคาด และปรับประมาณกำไรสุทธิปี 2022F ลดลงจากคาดเดิม 4% มาอยู่ที่กำไรปกติ 3,465 ล้านบาท (+8%YoY) จากคาดอัตรามาร์จิ้นลดลงจากเดิมมาอยู่ที่ 34.3% จากแนวโน้มต้นทุน commodity price ท่ีเพิ่มขึ้น เช่น natural gas, soda ash ที่ใช้ในการผลิตขวด และราคา aluminium ในการผลิตกระป๋อง เป็นต้น คาดรายได้เครื่องดื่มพลังงานปีนี้เพิ่มขึ้น +2% จากฐานตลาดที่ใหญ่แล้ว และคาดเครื่องดี่ม functional drink ปีนี้เพิ่มขึ้น 10% จากเครื่องดื่ม C-Vitt ที่ได้รับการตอบรับดี และการรับจ้างจำหน่ายเครื่องดื่มวิตามินยันฮีเพิ่มขึ้น คาดรายได้ต่างประเทศปีนี้ +10% จากการปรับโครงสร้างธุรกิจในเมียนมาเป็นหลัก คาดยอดขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล (personal care) ปีนี้ฟื้นตัว +10% ประมาณการของเรายังไม่รวม upside จากและธุรกิจกัญชง และโรงงานผลิตขวดแก้วในเมียนมา

เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 35.75 บาท

แนวโน้มผลประกอบการมี upside เพิ่มขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ๆหลากหลายมากขึ้น รวมถึงธุรกิจเครื่องดื่มกัญชง อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศเมียนมาท่ีชะลอตัว และค่าเงินจ๊าดที่อ่อนค่า เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 35.75 บาท อ้างอิงวิธี PER+1STDV ที่ 31x ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER22F อยู่ที่ 28X Dividend Yield 2021F อยู่ที่ 3.3%

โอกาส: การขยายตลาดส่งออก

ความเสี่ยง: ต้นทุน commodity price ท่ีสูงขึ้น, การแข่งขันสูง, เศรษฐกิจชะลอตัว

- Advertisement -