บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

ONE ENTERPRISE (ONEE) กำไรดีที่หนึ่ง…ปี 65 แนวโน้มสดใส

Action

BUY 

TP upside (downside) +15%

Close Jan 28, 2022 Price (THB) 10.90

12M Target (THB)

Previous Target (THB) 12.50

What’s new?

  • เราคาดกำไรปกติ 4Q64 ฟื้นตัวเด่น +15% QoQ +19%YoY ตามอุตสาหกรรมโฆษณาที่ฟื้นตัว และการนำละครใหม่ๆออกฉายทำเรตติ้งได้ดี
  • ปี 2564 คาดกำไรสุทธิ +27% YoY โดยรายได้ปรับตัวดีกว่าอุตสาหกรรม ตามกลยุทธ์ปรับผังรายการ พร้อมนโยบายการควบคุมต้นทุน
  • ปี 2565 คาดกำไร +31% YoY จากอุตสาหกรรมโฆษณาที่ฟื้นตัว การผลิตรายการกลับมาเป็นปกติ คอนเทนท์เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการเตรียมปรับผังรายการใหม่ของช่อง ONE31 และ GMM25

Our view

  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าผลประกอบการกลับสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง ผลบวกจากการฟื้นตัวของธุรกิจสื่อ การรุกธุรกิจใหม่ เช่น การบริหารศิลปิน และการเปิดตัววงบอยแบนด์ F4 ซึ่งต่อยอดจากซีรีส์ที่กำลังฉาย นอกจากนี้ยังมีแผนในการนำเงิน IPO ไปลงทุนขยายและพัฒนาเพิ่มเติม รวมถึงนำไปใช้คืนหนี้เงินกู้ ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลง
  • เราประเมินมูบค่ากิจการ ONEE ปี 2565 ท่ี 12.50 บาท โดยวิธี DCF อิงสมมติฐาน WACC ท่ี 8.6%

คาดกำไรปกติ 4Q64 ฟื้นตัวเด่น QoQ, YoY

เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q64 ที่ 213 ล้านบาท (+27% QoQ, -17.9% YoY) แต่หากไม่นับรายการพิเศษ 1) ตั้ง สำรองด้อยค่าคอนเทนส์ -80 ล้านบาท 2) บันทึกสินทรัพย์ทางภาษีรอตัดบัญชี +100 ล้านบาท กำไรปกติจะอยู่ที่ 93 ล้านบาท ขณะที่ 4Q63 มีรายการตั้งสำรอง 97 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรฟื้นตัว 15%QoQ และ 19%YoY ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม หลังจากที่คลาย Lockdown และมีการเปิดประเทศในเดือน พ.ย. ส่งผลให้งบโฆษณาผ่านสื่อทีวีปรับตัวดีขึ้น ด้านเรตติ้งของช่อง ONE ยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 จากละครใหม่หลายเรื่องที่ออกฉาย ได้แก่ พระจันทร์แดง Baker Boy โดยเฉพาะเรื่อง กระเช้าสีดา ซึ่งเป็นละครที่กลับมาฉายต่อ ที่กระแสค่อนข้างดี ส่งผลให้รายได้เติบโต 26.7% QoQ และ 37.9% YoY เป็น 1,375 ล้านบาท ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลง โดยอัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 3Q64 และ 4Q63 ที่ 15.5% และ 16.3% เหลือ 14% เนื่องจากต้นทุนผลิตละครที่เพิ่ม เนื่องจากการผลิตละครใหม่ๆออกฉาย และค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมการตลาดที่เพิ่มขึ้น

ภาพรวมปี 2564 เราคาดกำไรสุทธิที่ 836 ล้านบาท เติบโต 27% YoY โดยรายได้จากโฆษณา และบริการเวลา ออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ของกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขึ้นในอัตราการเติบโตมากกว่าอัตราการเติบโตของเม็ดเงิน โฆษณาของอุตสาหกรรม จากการบริหารผังรายการในการเผยแพร่รายการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มจาก 46.5% ในปี 2563 เป็น 51% เป็นผลบวกจาก 1) ยอดขายที่เพิ่มขึ้น 2) นโยบายการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนค่าผลิตรายการที่ลดลง จากการปรับผังรายการของช่อง ONE31 ให้สอดคล้องกับอุปสงค์การซื้อสื่อโฆษณามากขึ้น และ 3) ผลบวกจากการลดลงของต้นทุนในการออกอากาศจากมาตรการช่วยเหลือของทางภาครัฐ

คาดกำไรปี 2565 เติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง

คาดว่าในปี 2565 กำไรจะเติบโตต่อเนื่อง 31% YoY เป็น 1,124 ล้านบาท ซึ่งคาดรับผลบวกจากอุตสาหกรรม โฆษณาที่ฟื้นตัว ซึ่งเราประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดจะเริ่มบรรเทาความรุนแรงลงตั้งแต่ 2Q65 คาดว่าการผลิต รายการของบริษัทฯ จะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งจะทำให้มีคอนเทนท์เพิ่มมากขึ้น และบริษัทฯ เตรียมปรับผังรายการใหม่ ทั้งช่อง ONE31 และ GMM25 โดยสร้างสรรค์คอนเทนต์ละครฟอร์มใหญ่หลากหลายแนว ขณะที่กิจกรรมการตลาด ต่างๆ จะกลับมาจัดได้ และมีกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้จากการบริหารศิลปิน และคาดว่ารายได้จากการขายลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเราคาดรายได้รวมปรับเพิ่มขึ้น 18% YoY เป็น 5,932 ล้านบาท ด้าน ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้นจากผลของรายได้ที่เพิ่ม ขณะที่คาดว่าบริษัทจะนำเงินที่ได้จาก IPO ไปชำระคืนหนี้ เงินกู้ราว 2,200 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายปรับลดลงจากปี 2564 ที่คาด 139 ล้านบาท เหลือ 62 ล้านบาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งคาดว่า ปี 2565 จะเติบโตโดดเด่น ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ขณะที่แนวโน้ม 3 ปี ข้างหน้าเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย CAGR 10% ต่อปี และเงินที่ได้ จาก IPO ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการขยายการลงทุนหนุนการเติบโต และนำไปใช้คืนหนี้เงินกู้ ซึ่งจะช่วยให้ภาระ ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ขณะที่บริษัทมีแผนจะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ภายในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ เราประเมินมูลค่าพื้นฐาน ONEE ปี 2565 ที่ 12.50 บาท โดยวิธี DCF ถึงสมมติฐาน WACC ที่ 8.6%

- Advertisement -