บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

NORTH EAST RUBBER รายได้ชะลอ GPM ทำ New high กำไรโต YoY

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +59.5%

Close Feb 01, 2022 Price (THB) 7.40

12M Target (THB) 11.80

Previous Target (THB) 12.00

What’s new?

  • แนวโน้มกำไรปกติ 4Q64 คาดที่ 531 ลบ. (12.9%QoQ, +33.2%YoY) ซึ่งจะทำให้กำไรปกติทั้งปีสูงกว่าประมาณการเดิม 6% ส่งผลให้ประมาณการปี 2565 มี Upside risk จากทั้งปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ย
  • ธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์เครื่องจักรอาจล่าช้ากว่าแผน 1-2 ไตรมาส เราจึงยังไม่รวมไว้ในประมาณการ ส่งผลต่อประมาณการเดิมจำกัด จึงยังคงประมาณการและราคาเป้าหมาย

Our View

  • เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ NER และคาดกำไรปกติจะกลับมาทำ New High อีกครั้งใน 2Q65 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังการผลิตใหม่เริ่มเดินเครื่องได้เต็มไตรมาส
  • ผลของการไม่รวมธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์ไว้ในประมาณการ ส่งผลให้ราคาเป้าหมายอิง PER ที่ 10 เท่า ลดลงเล็กน้อยเป็น 11.80 บาท
  • ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER65 ต่ำเพียง 6.3 เท่า คาดผลตอบแทนจากเงินปันผล 2H64 ที่ 4.5%

คาดกำไรปกติ 4Q64 ทรงตัวสูงได้ต่อ

คาดปริมาณขาย 4Q64 ชะลอลง 15%QoQ เป็นราว 1.09 แสนตัน เพราะมีการส่งมอบสินค้าจำนวนมากไปแล้วใน 3Q64 จากการสต๊อกของลูกค้าเพื่อรับการคลายตัวของการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยังคงมีปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่คาดราคาขายเพิ่มขึ้น โดยราคาเฉลี่ยยางแห่งใน 4Q64 อยู่ที่ 57.6 บาท/กก. (อิงข้อมูลการยางแห่งประเทศไทย) เพิ่มขึ้น 6.0%QoQ และ 18.8%YoY เราคาดราคาขายเฉลี่ยใน 4Q64 ทุกผลิตภัณฑ์ของ NER ที่ 55.9 บาท/กก. (+6.1%QoQ) คาดรายได้ที่ 6,127 ลบ. (-14.3%QoQ, -3.8%YoY) ราคาขายที่เพิ่มขึ้นคาดส่งผลให้ GPM ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 13.7% คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 531 ลบ. (-12.9%QoQ, +33.2%YoY) หากผลประกอบการ 4Q64 ใกล้เคียงคาด จะส่งผลให้กำไรปกติทั้งปีสูงถึง 2,030 ลบ. สูงกว่าคาดการณ์เดิม 6% ทำให้เราอาจต้องปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นอีก

มีโอกาสสูงกว่าคาดทั้ง P และ Q ทำให้ปี 2565 ยังโตสูงได้

ราคายางแท่งรายงานโดยการยางแห่งประเทศไทยเฉลี่ยเดือน ม.ค. 2565 อยู่ที่ 58.2 บาท/กก. สูงกว่าประมาณการทั้งปีของเราเฉลี่ยที่ 56.3 บาท/กก. อยู่ 3% ส่วนปริมาณขายคาดเติบโตราว 10% YoY เป็น 4.85 แสนตัน (ต่ำกว่าเป้าหมายบริษัทที่ 5.0 แสนตัน) หากเป็นไปตามที่เราคาดจะส่งผลให้กำไรปกติ 2565 เติบโตสูงกว่า 10%YoY ขณะที่ประมาณการกำไรปี 2565 ที่เราคาดไว้ปัจจุบันที่ 2,095 ลบ. เติบโตเพียง 3.2%YoY หากเทียบกับประมาณการกำไร 4Q64 ที่จะทำให้กำไรทั้งปี 2564 อยู่ที่ 2,030 ลบ. ตามที่กล่าวข้างต้น ทำให้ประมาณการกำไรปี 2565 ของเรามีโอกาสปรับขึ้นได้อีก ซึ่งจะทำให้ PER ลดลงอีกจากปัจจุบันที่ 6.3 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2565 สูงขึ้นจากปัจจุบันที่ 6.4%

ส่วนธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์อาจมีการส่งมอบและติดตั้งเครื่องจักรเฟสแรก (กำลังการผลิต 270,000 แผ่นต่อปี) ล่าช้าออกไป 1 – 2 ไตรมาส เนื่องจากปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่ง ซึ่งจะทำให้การรับรู้กำไรจากธุรกิจนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

แนวโน้ม 1Q65 คาดทรงตัวจาก 4Q64 ในกรอบ 500 – 550 ลบ. จากปริมาณขายและราคาขายยังทรงตัว QoQ โดยกำลังการผลิตใหม่ 50,000 ตัน คาดจะเริ่มผลิตได้เต็มไตรมาสใน 2Q65 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่ามีโอกาสเห็นกำไรปกติกลับมาทำ New high ได้อีกครั้ง

ปรับประมาณการไม่รวมแผ่นรองนอนสัตว์ คงคำแนะนำ ซื้อ

จากผลของความล่าช้าของเครื่องจักรธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์ที่นานกว่าคาด เพื่อลดความเสี่ยงจากกรณีดังกล่าว เราจึงไม่รวมกำไรจากธุรกิจนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 60 ลบ. ในปี 2565 ซึ่งกระทบประมาณการ คาดการณ์กำไรโดยรวมจำกัด ขณะที่เรามีโอกาสปรับประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักขึ้น เราจึงคงประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ไว้ที่ 2,095 ลบ. เทียบเท่า EPS ที่ 1.18 บาท และเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าจาก SOTP เป็น PER เนื่องจากไม่รวมมูลค่าจากธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์ อิง PER ที่ 10 เท่า ได้ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 11.80 บาท จากเดิม 12.00 บาท มี Upside gain 59.5% ปัจจุบันซื้อขายที่ PER65 เพียง 6.3 เท่า คาดเงินปันผลงวด 2H64 ที่ 0.33 บาท ให้ผลตอบแทน 4.5% คงคำแนะนำ ซื้อ

- Advertisement -