Daily Focus Earnings and Value Play
ตลาดหุ้นวานนี้ :
SET Index ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องตามคาด ปิดบวกอีก 6 จุด ณ สิ้นวัน อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นเริ่มกระจุกตัว นำโดย DELTA ที่พุ่งแรง รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์ที่พักตัวมานาน สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.2 พันลบ. (และยัง Long SET50 Index Futures อีกเล็กน้อย 2 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ :
เราคาด SET Index จะเริ่มแกว่ง Sideways ออกข้างมากขึ้นใน กรอบ 1,660-1,675 จุด หลังจากฟื้นตัวขึ้นดีต่อเนื่องในช่วง 4 วันล่าสุดกว่า 30 จุด รับบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายไปพอสมควร ด้านราคาน้ำมันดิบทรงตัวหลัง OPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตอีก 4 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค. 22 ซึ่งไม่ได้เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือการประชุม BoE (ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0.5%) และ ECB (ตลาดคาดยังคงอัตราดอกเบี้ย) ซึ่งคาดไม่เป็นปัจจัยกดดันเหมือนฝั่ง FED ที่เงินเฟ้อกดดันมากกว่า ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงอยู่ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียนใน 4Q21 ต่อเนื่อง 2022 ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นโฟกัสหลักของตลาด และทําให้กระแสเงินทุนยังคงอยู่ในทิศทางไหลเข้า ในระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์จึงยังเน้นลงทุนในหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง และ Value Play ที่ PER/PBV ไม่สูง
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Value และมีแนวโน้มกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : GFPT, HMPRO, PJW, SC, TKS
หุ้นเด่นวันนี้ : NSL
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท
- แนวโน้ม 4Q21 จะตัวพื้นแรง +83% QQ, +10% Y-Y ตามการ Reopen และโดยเฉพาะปัญหา Supply Chain ที่หมดไป ส่งผลให้ทั้งรายได้และ Margin คาดพื้นตัวอย่างมีนัยยะ
- เราคาดกำไรปี 2021 +25% Y-Y และเร่งตัวปีหน้า +44% Y-Y ล่าสุดมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หักล้างผลกระทบต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้นได้ ขณะที่ผลกระทบโอมิครอนเดือนม.ค.จำกัดมาก กอปรกับระยะถัดไปคาดจะเติบโตในกัมพูชาตาม 7-11 เช่นกัน
- แนวรับ 18 บาท แนวต้าน 19//19.60 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงเบาบาง เนื่องจากหลายตลาดยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ส่วนอาเซียนโดยรวมยังค่อนไปในทางไหลเข้า นำโดยอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ประเทศละ US$19-23 ล้าน แต่ไหลออกจากไทยระยะสั้น US$36 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทางไหลเข้า โดยเฉพาะตลาดที่กลับมาเปิดทำการ แต่ปริมาณคาดยังเบาบาง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ITEL แผนธุรกิจปี 2022 Aggressive โดยมีการเข้าลงทุนใน Blue Solution ที่เก่ง Hardware และเตรียมลงทุนในบริษัท Software อีก 1 แห่ง ซึ่งมีแผน IPO ในอนาคต ส่วน Genesis Data Center มี Partner ใหม่คือ Global Data Center Group เข้ามาถือ หุ้นใหญ่คาดว่าจะมีลูกค้าใหม่รายใหญ่ของโลกมาใช้บริการและทำให้พลิกมีกำไร เราคาดกําไรปี 2022-2023 +33% CAGR คงราคาเป้าหมาย 7.10 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) ORI คาดกำไร 4Q21 +14% Q-Q, +26% Y-Y จากการบันทึกกำไรขายเงินลงทุนใน JV ส่วนการโอนได้แรงหนุนจากโครงการใหญ่ Park Origin Phayathai และแนวราบที่ขยายตัว ส่วน Margin อาจอ่อนลงเล็กน้อย จบปี 2021 คาดกำไรสุทธิ +20% Y-Y อย่างไรก็ตาม ประมาณการปี 2022-2023 เราปรับกำไรลงเป็น +26% Y-Y และ +13% Y-Y สะท้อนการ IPO ของ BRI แต่ยังคงทำ All Time High ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 15 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(+) STANLY รายงานกำไรปกติ 3Q21 (ต.ค.-ธ.ค. 2021) +48% Q-Q หลังปัญหาเรื่อง Chip ขาดดีขึ้น แต่ -7% Y-Y จากการระบาดของโอมิครอนทำให้ผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย กำไร 9M21 คิดเป็น 68% ของประมาณการทั้งปีที่คาด +46% Y-Y เรายังคงประมาณการและราคาเป้าหมายที่ 250 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมี 2023PE 7.9 เท่าและ 2023PBV เพียง 0.7 เท่า ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) GLOCON คาด 4Q21 จะขาดทุนก้อนใหญ่ 154 ลบ. จากการหยุดธุรกิจร้านอาหาร A&W จึงต้องมีการตั้งค่าใช้จ่าย Write Off ซึ่งจะเป็นบวกระยะถัดไปโดยไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุน ส่วน Operation หลักทรงตัว Q-Q น่าจะคุ้มทุนได้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2022 +50% จากการขยายโรงงานอาหารเพิ่ม 3 เท่า และเตรียมย้ายโรงงานผลไม้อบแห้งไปที่ใหม่ที่กำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวหลังเข้าซื้อ 100% รวมถึงจะปิดดีลลูกชิ้นทิพย์ (เข้าซื้อ 70%) ในเดือนนี้ เราคาดปี 2022 จะพลิกมีกำไร 178 ลบ. และมีแผนล้างขาดทุนสะสมในระยะถัดไป คงราคาเป้าหมาย 1.50 บาท แนะนํา “เก็งกำไร”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 224.09 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 35,629.33 จุด หลังรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของบริษัท Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google และ Advanced Micro Devices ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ อย่างไรก็ดี มีการเปิดเผยเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สวนทางกับนักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง จากผลกระทบของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป ขณะที่ติดตามการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่ง ตลาดคาดว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม โดยมีปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของตลาดดาวโจนส์ อย่างไรก็ดี เกิดแรงขายทำกำไรหลังตลาดปรับขึ้นติดต่อกันในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 88.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ประชุมโอเปกพลัสมีมติตามข้อตกลงเดิมเพิ่มกําลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสําหรับเดือนมี.ค. แม้ถูกกดดันจากสหรัฐและประเทศพันธมิตรที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากขึ้น รวมถึงหนุนจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับนักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,810.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการชะลอลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,016.59 / -1.45








