ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
เทรดในกรอบแคบ น่าจะแข็งกว่าตลาดโลก
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์แกว่งตัวในกรอบ (sideways)… หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยทรงๆ ในแดนบวกตลอดทั้งวัน (ตามคาด) แต่แรงซื้อยังกระจุกอยู่ในหุ้นไม่กี่ตัว และวอลุ่มการซื้อขายยังคงชะลอลง… ขณะที่ในวันนี้ แม้ว่าปัจจัยในฝั่งสหรัฐฯ จะเป็นลบ แต่เรามองว่าจะมีผลกระทบไม่มากต่อตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรงตามการปรับลงมากกว่า 20% ของหุ้น Facebook ซึ่งรายงานกำไรไตรมาส 4/64 ต่ำกว่า consensus คาด และให้แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงในปี 2565 ทั้งนี้ SET Index มีสัดส่วนของหุ้นเทคโนโลยีค่อนข้างน้อย และน่าจะได้รับผลจำกัด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงเดินหน้าปรับขึ้นทำนิวไฮนับจากปลายปี 2557 และน่าจะยังหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานตัวหลักๆ ขณะที่ในฝั่งยุโรปนั้น ธ.กลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.50% ตามที่ตลาดคาด ขณะที่ ธ.กลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่ามีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565 (จากเดิมที่ไม่เคยส่งสัญญาณใดๆ มาก่อน) ส่งผลให้ตลาดเงินยุโรปให้น้ำหนักว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.4% ในปีนี้ทั้งปี และหนุนให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าแรงเทียบกับดอลลาร์ฯ ซึ่งปัจจัยนี้จะเป็นอีกประเด็นที่ช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย ขณะที่ในคืนวันนี้ สหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขการจ้างงาน ม.ค. ซึ่ง consensus มองว่าจะ ค่อนข้างอ่อนแอ น่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 แสนคน… ส่วนปัจจัยภายในประเทศนั้น ศ.ค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ 9,909 ราย เสียชีวิต 22 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 7,827 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร WHA*, SUN, MAKRO
- WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.48 บาท / แนวต้าน 3.58 – 3.62 บาท หากผ่าน กรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-3.80 บาท (Stop loss 3.42 บาท) 2) เราประเมิน Sentiment บวกจากการลงทุนในปีนี้ที่จะเร่งตัวขึ้นชดเชยการชะลอตัวลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ผลกระทบจากโควิด-19) เห็นได้จากยอดขอ BOI ในปี 2564 ที่เติบโต +59% YoY ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงาน 2565 โต +19% YoY เป็น 3.46 พันล้านบาท 3) Forward PE บนกำไรปกติปี 2565 คาดจะลดลงเหลือ 15.2 เท่า (เท่ากับ -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ย) 4) Upside จากการเปิดแผนลงทุน 5 หมื่นล้านบาทใน 5 ปี (ด้านโลจิสติกส์ 1.8 หมื่นล้านบาท / ด้านนิคมฯ 1.8 หมื่นล้านบาท / สาธารณูปโภคพลังงาน 1 หมื่นล้านบาท ธุรกิจดิจิทัล 4 พันล้านบาท)
- SUN (เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.35 บาท / แนวต้าน 6.6 – 6.7 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7 บาท (Stop loss 6.1 ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 4Q64 = 54 ล้านบาท เติบโต +36% YoY และคาดกำไรปีนี้โตต่ออีก +46% YoY บาท) 2) จากการขยายกำลังการผลิตสินค้า Ready-to-Eat และคาดรับผลบวกจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทในปีนี้ (SUN มีรายได้จากการส่งออก >80%) 3) Forward PE ปี 2565 คาดจะลดลงเหลือ 13.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ +/-18.4 เท่า
- MAKRO (เป้า Consensus 49.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 39.5 บาท / แนวต้าน 40.5 – 42 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-46 บาท (Stop loss 38 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) เงินเฟ้อในหมวดอาหารที่คาดจะเป็นบวกกับยอดขายของ MAKRO ii) สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลาย และการกลับมาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นบวกกับยอดขายกลุ่ม Horeca (ร้านอาหาร) 3) Consensus คาดกำไรปี 2565 เติบโต +77.5% YoY เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท (คาด EPS โต 29% YoY อัตราการเติบโตต่ำกว่ากำไร เพราะ Dilution effect จากการเพิ่มทุน) ทำให้ Forward PE ปี 2565 ลดลงเหลือ 34 เท่า (จาก +/-40 เท่าในปีก่อน)
หุ้นมีข่าว
(+) BEC* พลิก “ช่อง 3” เป็นมากกว่าทีวี ชูคอนเทนท์โปรวายเดอร์ฟื้นรายได้ (กรุงเทพธุรกิจ) ช่อง 3 เดินหน้ากระจายรายได้ในตะกร้าหลายใบ นอกเหนือพึ่งเม็ดเงินจากงบโฆษณา ล่าสุดลุย 2 โมเดลธุรกิจ เพลง พร้อมผนึก “เอ็ม พิคเจอร์สฯ” ร่วมมือผลิตภาพยนตร์ครั้งแรก ย้ำภาพยักษ์ใหญ่คอนเทนท์ โปรวายเดอร์
(+) GULF*-ADVANC*-สิงเทลผนึก ผุดดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก (ทันหุ้น) GULF* นำทัพ ADVANC ผนึก ยักษ์ Singtel เดินหน้าดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ และมุ่งเน้นพลังงานสะอาด รองรับการใช้งานระดับโลก คาดแผนธุรกิจ-สัดส่วนถือหุ้นชัดเจนไตรมาส 1/2565 โบรก 3 จุดเด่นยักษ์ ผสานลงตัว เชื่อลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ รายใหญ่สนต่อยอดธุรกิจเทคครบวงจร
(+ กลุ่มนิคมฯ) โวยอดขอ BOI ปี 61 โต 59% (ไทยโพสต์) บอร์ดเร่งเครื่องกลุ่มเกษตร ผุดแผ่นดินไทย ขึ้นไบโอฮับ บีโอไอโชว์ปี 64 ยอดขอส่งเสริมทะลุ 6.4 แสนล้านบาท โต 59% ชี้ FDI หนุนเพิ่มขึ้นกว่า 163% ด้านบอร์ดไฟเขียวมาตรการส่งเสริมภาคเกษตร หนุนไทยไบโอฮับภูมิภาคอาเซียน
(+) TTCL คว้างานปตท.สผ.เติมแบ็กล็อก 1.6 พันล. (ทันหุ้น) TTCL คว้างานใหม่โครงการ Oil and Gas ของ PTTEP* เติมพอร์ต 1.6 พันล้านบาท ลุยเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง มูลค่ากว่า 4.6 หมื่นล้านบาท คาดหวังว่าจะได้งานประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าที่เข้าประมูล หนุนผลงานปี 2565 กลับมาฟื้นตัวแกร่ง
(+) PTG* จัด 4.5 พันล.อัพฐาน รุกไฟฟ้าขยะเพิ่มมูลค่า (ทันหุ้น) PTG เคาะผลงานปี 2565 รายได้โต 15% จากปี 2564 ดีมานด์น้ำมันพุ่ง, ธุรกิจ Non-Oil หนุน ด้านผู้บริหาร “รังสรรค์ พวงปราง” เปิดแผนทุ่มงบ 4.5 พันล้านบาท ขยายฐานธุรกิจเพิ่ม พร้อมซุ้มแตกไลน์ไฟฟ้าขยะ เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่ม แถมเล็งยื่นไฟลิงธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์เข้าตลาดหุ้น คาดชัดเจนไม่เกินไตรมาส 3/2555
(+) SMD ลั่นรายได้ปี 65 พุ่ง 1.8 พันล้าน พีทีจี จัดโปรฯ เติมน้ำมันแลกซื้อน้ำมันปาล์ม มีสุข (ข่าวหุ้น) SMD ปักธงปี 65 รายได้แตะ 1,800 ล้านบาท หลังมองแนวโน้มตลาดซีแพพ รักษาโรคนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับกำลังบูม ล่าสุดชนะประมูลเครื่องช่วยหายใจแพพ 500 เครื่อง มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ด้าน PT เดินหน้าโครงการ “ครัวไทยมีสุขกับพีที” รับสิทธิ์แลกซื้อน้ำมันปาล์ม “มีสุข” เมื่อเติมน้ำมันทุก ชนิดครบ 500 บาทขึ้นไป
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 134 บาท)
- IP (เป้า Consensus 26 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 21.5 บาท)
- PSH* (เป้าพื้นฐาน 16 บาท) แนวรับ 14.6 บาท / แนวต้าน 15.1 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้แนะนํา “Let profit run” (Trailing stop 14.4 บาท)
- BH* (เป้าพื้นฐาน 148 บาท) แนวรับ 146 บาท / แนวต้าน 150 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 142.5 บาท)
- SHR (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) แนวรับ 3.4 บาท / แนวต้าน 3.66 – 3.8 บาท (Stop loss 3.3 บาท)
- ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 262 บาท) แนวรับ 221 บาท / แนวต้าน 225 232 บาท (Stop loss 219 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- MAJOR แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q64 = 53 ล้านบาท Turnaround QoQ แต่ลดลง YoY ผลการดำเนินงานที่คาดว่าชะลอตัวลง YoY เป็นผลจากการขาดหายไปของรายได้จาก SF ฝ่ายวิจัยฯยังคงมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวในปีนี้ และ Upside จากโครงการใหม่ๆ อาทิ ขายป๊อปคอร์นในร้าน 7-Eleven และการผลิตร่วมผลิตภาพยนตร์กับพันธมิตรที่จีน
- กลุ่มโรงพยาบาล น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯคาดภาพรวมกำไรของกลุ่มฯ จะยังเติบโต เด่น YoY โดยเฉพาะ BCH, CHG อย่างไรก็ดี ประเมินโรงพยาบาลขนาดเล็กจะเริ่มมีความน่าสนใจลดลง เพราะแนวโน้มการเติบโตของกำไรคาดจะชะลอตัวลงในปี 2565 ผลจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มผ่อนคลายลง เลือก BDMS เป็นหุ้นเด่น
หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus









