บล.ทิสโก้:

บมจ. เซ็ปเป้ คาดกำไรสุทธิ 4Q21F อ่อนตัว

ยอดส่งออก 4Q21F อ่อนตัวจากช่วง low season แต่จะกลับมาฟื้นตัวแรงใน 1Q22F

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” 1) คาดกำไรสุทธิ 4Q21F ลดลง YoY, QoQ จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก และจากการทำการตลาดมากขึ้น 2) คาดยอดขายทั้งในประเทศและส่งออกจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ จากคาดสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลายลง และบริษัททำการตลาดมากขึ้น รวมถึงสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเครื่องดื่มกัญชงที่จะเข้ามาในปีหน้า เราคาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11% (CAGR3y) ราคาเป้าหมาย 35 บาท

คาดกำไรสุทธิ 4Q21F ลดลง YoY, QoQ ตามยอดขายและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

เราคาด SAPPE จะมีกำไรสุทธิ 4Q21F ที่ 70 ล้านบาท (-15%YoY, -51%QoQ) จากยอดขายที่ลดลงและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในช่วงปลายปี คาดกำไรสุทธิปี 2021F เพิ่มขึ้น 12%YoY อยู่ที่ 426 ล้านบาท คาดรายได้รวม 4Q21F เพิ่มขึ้น +4%YoY, -18%QoQ โดย 1) ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น +21%YoY, – 26%QoQ (สัดส่วนส่งออก 69% ของรายได้รวม) เพิ่มขึ้น YoY มาจากกลุ่มทวีปยุโรปและอเมริกา ตะวันออกกลาง ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก จากการทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น และสถานการณ์ COVID-19 เริ่มผ่อนคลายลง แต่ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง low season ในการส่งออก 2) ยอดขายในประเทศลดลง -16%YoY และ -2%QoQ ตามภาพรวมกลุ่มเครื่องดื่ม vitamin water ที่ลดลง คาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และลดลงตามยอดขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นสูงจากการบันทึกค่าใช้จ่ายสะสมที่ค้างจ่าย และการบันทึกค่าขนส่งทางเรือที่บริการจัดหาให้กับลูกค้า (บริษัทได้เก็บค่าใช้จ่ายการขนส่งทางเรือกับลูกค้าโดยบันทึกในรายได้อื่นๆ)

ยังคงประมาณการเดิม คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้น +11% (CAGR2y)

คาดแนวโน้มผลประกอบการ 1Q22F จะกลับมาฟื้นตัวจากยอดส่งออกที่จะมาเพิ่มขึ้นจากการอั้นชะลอออเดอร์ในช่วง 4Q21F และยอดขายในประเทศค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากคลายล็อกดาวน์ เรายังคงประมาณการเดิม โดยคาดกำไรปี 2022F อยู่ที่ 465 ล้านบาท (+9% YoY) จากการทยอยออกสินค้าใหม่ โดยในปีนี้จะมีสินค้าส่วนผสมสารสกัดกัญชงที่คาดจะเข้ามา 2-5 SKU ในช่วง 1Q22F หรือต้น 2Q22F ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการของเรา การขยายตลาด Traditional Trade มุ่งเน้นตลาดกลุ่มใหญ่ (go mass) มากขึ้น และการทำการตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นทั้ง Offline/Online marketing ขณะที่คุมต้นทุนได้ดีขึ้นจากการปรับประสิทธิภาพเครื่องจักรไลน์ผลิต ส่วนปัญหาการขนส่งทางเรือปัจจุบันยังขาดแคลน และราคาขนส่งสูง แต่คาดสถานการณ์คาดจะค่อยๆดีขึ้นในปีนี้

เรายังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่ และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ประมาณการของเรายังมี upside จากการร่วมทุนสินค้าใหม่ และผลิตภัณฑ์กัญชงที่จะเพิ่มขึ้นคาดต้นปีหน้า โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 35 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ย ที่ 23% จากราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ PER22F อยู่ที่ 16.7% และ Dividend Yield 22F อยู่ที่ 2.4%

ความเสี่ยง : เศรษฐกิจ, ยอดขายไม่เป็นไปตามคาด, การแข่งขัน

- Advertisement -