บล.ฟิลลิป:

ซิงเกอร์ประเทศไทย – SINGER เงินเพิ่มทุนมาหนุนการเติบโต

เงินเพิ่มทุนจะเข้ามาช่วยในการเติบโต

SINGER ได้มีการเพิ่มทุน และขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 96,341,464 หุ้น รวมไปถึงขาย PP ให้กับ U-City จำนวน 197,108,696 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาจองซื้อหุ้นละ 36.3005 บาท ทำให้ได้เงินจากการเพิ่มทุนนี้จำนวนทั้งสิ้น 1.06 หมื่นลบ. และทำให้ U-city มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 รองจาก JMART โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 24.64% ซึ่ง SINGER จะใช้เงินเพิ่มทุนนี้เพื่อขยายฐานการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ  และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ นอกจากนี้เงินดังกล่าว จะนำไปใช้สำหรับการจ่ายคืนหุ้นกู้ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย โดยในปี 2565 SINGER ตั้งเป้าที่จะเพิ่มพอร์ตสินเชื่อเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท

เตรียมนํา SGC เข้าจดทะเบียนใน ตลท.

SINGER มีแผนที่จะนำ SGC หรือ บริษัท เอส จี แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SINGER เข้าจดทะเบียนใน ตลท. โดย SGC ประกอบธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จักรเย็บผ้า สินค้าเชิงพาณิชย์ สินเชื่อรถทำเงิน และเช่าซื้อเครื่องจักร โดย SGC มีแผนใช้เงินทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเป็นเงินทุนในการประกอบธุรกิจหลักของ SGC และการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต และจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของ SINGER

เข้า High season และได้ประโยชน์จากช้อปดีมีคืน

ช่วงไตรมาส 4 เป็นช่วง High season ของการจับจ่าย ซึ่งคาดว่าจะทำให้การขายสินค้าและสินเชื่อของ SINGER เติบโตได้ นอกจากนี้ SINGER ยังจะได้ประโยชน์จากโครงการช้อปดีมีคืนต่อใน 1Q65 ซึ่งน่าจะทำให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจาก 4Q64 ได้อีก

คาดกำไร 4Q64 เพิ่มขึ้น 41.8% y-y และ 6.6% q-q

ทางฝ่ายคาดว่า SINGER จะมีกำไร 4Q64 จำนวน 176 ลบ. เพิ่มขึ้น 41.8% y-y จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามสินเชื่อ และการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลง และเพิ่มขึ้น 6.6% q-q จากรายได้จากการขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังการเข้า High season และการคลายล็อคดาวน์ ถึงแม้คาดว่าค่าใช้จ่ายและการตั้งสำรองจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

คาดกำไรปี 64 เพิ่มขึ้น 49.8% y-y และเพิ่มขึ้นอีก 48.6% y-y ในปี 65

การเติบโตจากกำไรของ 4Q64 จะช่วยให้กำไรปี 64 ของ SINGER เติบโตด้วย โดยทางฝ่ายคาดว่าจะออกมาที่ 664 ลบ. เพิ่มขึ้น 49.8% y-y จากทั้งรายได้การขาย และรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น และยังคาดว่าการตั้งสำรองจะลดลงมากด้วย ส่วนปี 65 คาดว่ากำไรจะเติบโตได้อีก 48.6% y-y เป็น 987 ลบ. จากสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตได้ต่อรายได้การขายที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสาขาย่อย รวมไปถึงต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงหลังจากได้เงินเพิ่มทุนเข้ามา

ราคาพื้นฐาน 58 บาท ปรับคําแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”

ทางฝ่ายให้ราคาพื้นฐานของ SINGER ไว้ที่ 58 บาท ประเมินโดยใช้ PEG 1 เท่า หรือเทียบเท่า PE 49 เท่า ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ PE ของกลุ่มการเงิน แต่ยังต่ำกว่า PE ปัจจุบันของ SINGER ที่ 63 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันยังมี upside เหลืออยู่มาก จึงปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิมที่แนะนำ “ทยอยซื้อ”

- Advertisement -