บล.ทรีนีตี้:
เอราวัณ กรุ๊ป– ERW
Hop Inn ยังคงมีผลประกอบการดีกว่า Segment อื่น
- คาดรายงานขาดทุนจากการดำเนินงานปกติใน 4Q64 ที่ 316 ล้านบาท ฟื้นตัวดีขึ้นจากที่ขาดทุน 623 ล้านบาทใน 3Q64 และจากที่ขาดทุน 474 ล้านบาทใน 4Q63
- ยังคงคาดการณ์ขาดทุนสุทธิปี 2564-2565 ที่ 2.12 พันล้านบาท และ 943 ล้านบาท ตามลำดับ
- คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q64 มี Hop Inn เป็นกำลังหลักในการฟื้นตัว และการเพิ่มจำนวนโรงแรมในปี 2565
- แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท
4Q64 Earnings Preview
- คาด ERW รายงานขาดทุนจากการดำเนินงานปกติใน 4Q64 ที่ 316 ล้านบาท ฟื้นตัวดีขึ้นจากที่ขาดทุน 623 ล้านบาทใน 3Q64 และจากที่ขาดทุน 474 ล้านบาทใน 4Q63
- คาดรายงานรายได้ที่ 511 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 126% QoQ แต่ปรับตัวลดลง 13% YoY โดยการฟื้นตัว QoQ มาจากฐานที่ต่ำจากผลกระทบของมาตรการ Lockdown ใน 3Q64 ในขณะที่ 4Q64 การท่องเที่ยวในประเทศดีขึ้น และได้รับอานิสงส์จากมาตรการ Test and Go ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2564
- คาดอัตราการเข้าพักใน 4Q64 (Ex Hop Inn) อยู่ที่ 30% ปรับตัวสูงขึ้นจาก 3Q64 ที่ 25% และมี ADR ปรับตัวสูงขึ้น 15% YoY ส่งผลให้มี RevPar ปรับตัวสูงขึ้น 35% YoY ในขณะที่อัตราการเข้าพักของกลุ่ม Hop Inn อยู่ที่ 60% ปรับตัวสูงขึ้นจาก 27% ใน 3Q64 แต่ RevPar Hop Inn ปรับตัวลดลง 15% YoY จาก ADR ที่ Flat YoY จากผลกระทบของการ Lockdown ในช่วง 3Q64 ส่งผลให้ 4Q64 ยังเป็นช่วง Ramp Up Period
- Hop Inn ฟิลิปปินส์มีอัตราการเข้าพักที่ 50% ปรับตัวลดลงจาก 3Q64 ที่ 60% และมี RevPar ปรับตัวลดลง 15% YoY โดยที่ปัจจุบัน Hop Inn กลับมารับนักท่องเที่ยวหลังจากที่มีการปลด Lockdown และยกเลิกรับกลุ่ม Quarantine
ยังคงขาดทุนสุทธิปี 2564-2565
ยังคงคาดการณ์ขาดทุนสุทธิปี 2564-2565 ที่ 2.12 พันล้านบาท และ 943 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคาดว่าการเดินทางระหว่างจังหวัดจะฟื้นตัวในช่วงเดือนก.พ. 2565 หลังมีการผ่อนคลายมาตรการและกลับมาใช้ระบบ Test and Go อีกครั้งสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ที่เริ่มต้นเดือนก.พ. 2565 ที่จะมาช่วยหนุนยอดจองห้องพัก เราคาดว่า ERW ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q64 และกลุ่ม Hop Inn ในประเทศจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และสามารถเติบโตได้จากการเปิดโรงแรมใหม่ โดยในปี 2565 จะมีการเปิดให้บริการ Hop Inn เพิ่มอีก 9 แห่ง โดยที่ Hop Inn เป็นกลุ่มโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ต่ำกว่าโรงแรม Segment อื่นๆ และคาดว่าในปี 2565 จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งกลุ่มที่ 40-50% โดยใน 1H65 ยังคงต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก
แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท
ยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท จากการอิง P/BV ที่ 2.6X หลังจากที่คาดว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง 3Q64 และมองการฟื้นตัวในปี 2565 จากกลุ่ม Hop Inn ทั้งในประเทศและจากฟิลิปปินส์เป็นหลัก และเราคาดว่าจะมีการเดินทางที่คึกคักเพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยง
- ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศอาจส่งผลให้การท่องเที่ยวหดตัว
- ความยืดเยื้อของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก และความล่าช้าของการพัฒนา Vaccine
- เศรษฐกิจโลกมีโอกาสเข้าสู่ Recession
- การใช้เงินอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค








