Daily Focus Value and Domestic Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับลงในช่วงเปิดตลาดตาม Sentiment ลบของตลาดหุ้นทั่วโลก จากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ดัชนีปิดบวกได้ 5.28 จุด ณ สิ้นวัน โดยสถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่นถึง 4.3 พันลบ. (สถานะใน SET50 Index Futures แต่ละกลุ่มไม่มีนัยยะ)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,692 จุด และคาดยังมีความผันผวนสูงในระยะนี้ โดยปัจจัยหลักอยู่ที่พัฒนาการของสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนว่าจะผ่อนคลายลงบ้างหรือไม่ โดยวานนี้แม้การเจรจานัดแรกจะยังไร้ข้อสรุป แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง ขณะที่ฝั่งชาติตะวันตกทั้ง EU และสหรัฐฯยังคงมี มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่เข้มขึ้นเพื่อกดดันให้ถอนทหารออกจากยูเครนทันที เศรษฐกิจรัสเซียถูกกระทบอย่างหนักและค่าเงินรูเบิลอ่อนค่ากว่า 30% ระยะสั้นเม็ดเงินยังไหลเข้าไปพักที่พันธบัตร ทองคำ และน้ำมัน เพื่อประเมินสถานการณ์ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯและอาเซียนคาดมีผลกระทบน้อยกว่ายุโรป และมองเป็นอีก Save Haven ในระยะนี้ หากสถานการณ์ไม่เลวร้ายถึงขั้นเป็นสงครามในวงกว้าง เรายังมองหุ้น Value และ Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่ม Commodity ต้นน้ำ ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ จะยังปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Value และ Domestic Play ที่แนวโน้มกำไร 1H22 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : BDMS, CPALL, OSP, PJW, TOP
หุ้นเด่นวันนี้ : NER
- แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 9 บาท
- แนวโน้มกำไรปี 2022 ยังแข็งแกร่ง ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ +16% Y-Y จากการขยายกำลังการผลิตและจ้างโรงงาน OEM ผลิตให้ระหว่างกำลังการผลิตใหม่ยังเข้าไม่เต็มที่ ขณะที่แผ่นปูรองนอนวัวเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ระยะสั้นได้แรงหนุนจากราคายางที่ยังทรงตัวในระดับสูง +3% YTD ส่วนแนวโน้มกําไร 1Q22 อาจอ่อนลง Q-Q แต่คาดยังโตแข็งแกร่ง Y-Y และคาดทั้งปี 2022 +6% Y-Y ด้าน Valuation ยังถูกมาก เทรด PER เพียง 6 เท่า
- แนวรับ 7.35-7.30 บาท แนวต้าน 7.60-7.65//7.80 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$1,483 ล้าน แต่กระจุกตัวที่ไต้หวันเช่นเคย US$1,677 ล้าน และไหลเข้าเกาหลีใต้ US$92 ล้าน ส่วนอาเซียนยังแข็งแรงกว่าเอเชียตะวันออก ภาพรวมยังไหลเข้านำโดยไทย US$133 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออก และยังต้องติดตามสงคราม รัสเซีย-ยูเครนว่าจะผ่อนคลายขึ้นหรือไม่ รวมถึงผลจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่เข้มข้น แต่อาเซียนคาดว่ายังเห็นเม็ดเงินไหลเข้า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค. ตลาดจะมีความผันผวนสูง โดยมีปัจจัยหลัก คือ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และ FED ที่จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก เราประเมินหากกรณีไม่เกิดสงครามลุกลาม SET Index จะไม่หลุดแนวรับหลัก 1,660 จุด และมีปัจจัยผลักดันคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ สอดคล้องกับกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เริ่ม ฟื้นตัวใน 4Q21 และต่อเนื่องปี 2022 อย่างไรก็ตาม จากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศ เราจึงเน้นลงทุนในกลุ่ม Value และ Domestic Play โดยเลือก Top Pick เดือนนี้ ได้แก่ BDMS CPALL OSP PJW TOP
(-) หุ้นที่เสี่ยงถูกกระทบหากสงครามรัสเซีย-ยูเครนลากยาว และส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในยูโรโซนให้ชะลอตัว หุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ในยุโรปสูงไปต่ำ ได้แก่ XO 80% NRF 30% TU 28% SAPPE 8% ส่วนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์คือ KCE 65% DELTA 26% HANA 10-15% โดยต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
(+) CK มีผลขาดทุนปกติ 4Q21 175 ลบ. อ่อนตัวลงตามส่วนแบ่งกำไรของ CKP ที่ร่วงแรง ขณะที่ธุรกิจก่อสร้างทยอยฟื้นหลังคลาย Lockdown จบปี 2021 กำไร +48 Y-Y อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปี 2022 คาดแข็งแกร่งทั้งจากธุรกิจก่อสร้างและบริษัทร่วม เราคาดกําไร +28% Y-Y และเข้าวัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ คงราคาเป้าหมาย 26 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) STEC กำไรปกติ 4Q21 +73% Q-Q, -3% Y-Y ฟื้นดีกว่าคาดจากฝั่ง Margin จบปี 2021 -20% Y-Y เนื่องจากกระทบช่วงปิดแคมป์ อย่างไรก็ตาม ปี 2022 เป็นบวกมากขึ้น ทั้งฝั่งรายได้ และ Margin และเริ่มงานโครงการใหญ่เพิ่ม เราคาดกำไร +53% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 17 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) ORI กำไร 4Q21 +14% Q-Q, +19% Y-Y แกร่งใกล้เคียงคาด หนุนทั้งปี 2021 +18% Y-Y แนวโน้มปี 2022 คาดโตต่อเนื่อง +7% Y-Y และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เชิงรุก รวมถึงมี Upside จากการขายเงินลงทุน คงราคาเป้าหมาย 15 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) TTA กําไรปกติ 4Q21 -19% Q-Q, +462% Y-Y เริ่มชะลอตามค่าระวาง รวมถึงธุรกิจ Off-Shore ขาดทุนมากขึ้น จบปี 2021 กำไรปกติทำ New High 3.5 พันลบ. แต่คาดผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว คาดปี 2022 ชะลอ -61% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 12 บาท ยังแนะน่า “ซื้อ” แต่ไม่มี Catalyst
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 166.15 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 33,892.60 จุด กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบเล็กน้อย ท่ามกลางติดตามสถานการณ์วิกฤต รัสเซีย-ยูเครน
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น ตามการปรับตัวขึ้นของดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่ติดตามจีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ในเช้านี้
(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.66 บาท/ดอลลาร์ สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 4.13 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงกังวลว่าสหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 13.1 ดอลลาร์ หรือ 0.69% ปิดที่ 1,900.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,029.02 / +2.03









