สรุปภาวะตลาด
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด ลบต่ำสุดราว -12 จุด หลังจากน้ันเร่ิมมีแรงซื้อเข้ามา ทำให้ดัชนีกลับมาบวกได้ประมาณ 5-6 จุด มาจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTTEP, PTT โดยตลาดยังจับตาสถานการณ์ในยูเครนท่ีทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากผู้น่ารัสเซียได้ส่ังการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เตรียมพร้อมในระดับสูงสุด แต่ยังมีประเด็นบวกหากยูเครนและรัสเซียมีการเจรจาบรรลุข้อตกลงกันได้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,685.18 จุด +5.28 จุด +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 93,848 ลบ. ต่างชาติ +4,345.18 ลบ. TFEX -1,011 สัญญา ตราสารหนี้ -6,702.73 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 4.13 ดอลลาร์ +4.5% ปิดท่ี 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางสถานการณ์ตึง เครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลง ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการท่ีสหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด
+ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไทยขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคมปี 2565 ขยายตัว 1.99%YoY ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
+สศช.แถลงว่า 4Q64 สถานการณ์ด้านแรงงานดีขึ้น อัตราการว่างงานลดลงแตะ 1.64% ต่ำสุดตั้งแต่ 2Q63 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของโควิด-19 ขณะที่อัตราการมีงานทำอยู่ท่ี 98.1% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนท่ีอยู่ที่ 97.6% และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 98.0% สะท้อนการจ้างงานดีข้ึน
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 20,420 ราย มีผู้เสียชีวิต 43 ราย รักษาหาย 18,297 ราย
ปัจจัยลบ
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 166.15 จุด -0.49% กังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทวีความ รุนแรงมากขึ้น หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายจบลง โดยไม่มีการท่าข้อตกลงใดๆ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดบวกได้แรงหนุนจากการร่วงลงของ bond yield
– EU ประกาศดำเนินการรอบใหม่เพื่อตอบโต้กรณีรัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งรวมถึงการส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครน ซึ่งนับเป็นคร้ังแรกท่ี EU ใช้มาตรการดังกล่าว
– ส่านักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า เบลารุสผ่านประชามติยกเลิกสถานะรัฐปลอดนิวเคลียร์ เบลารุสสามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้เป็นคร้ังแรกนับตั้งแต่การส้ินสุดของสหภาพโซเวียต
– WHO เปิดเผยว่า โรงพยาบาลในยูเครนอาจไม่มีออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า เนื่องจากการโจมตีของรัสเซียส่งผลให้การลำเลียงขนส่งหยุดชะงักลง ส่งผลให้ชาวยูเครนหลายพันคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยง
– ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐ เตรียมสนทนาทางโทรศัพท์กับชาติพันธมิตร เพื่อหารือเกี่ยวกับ สถานการณ์ในยูเครนและมาตรการตอบโต้จากชาติพันธมิตร
– ธนาคารกลางรัสเซียข้ึนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 10.5% สู่ระดับ 20% จากระดับ 9.5% เพื่อรับมือกับค่าเงินรูเบิลท่ีร่วงลง และอัตราเงินเฟ้อท่ีสูงขึ้น
– รัฐสภายูเครนเปิดเผยว่า ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนลงนามในเอกสารเพื่อยื่นขอสมาชิกภาพในสหภาพยุโรป
– ธปท. เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคมชะลอตัวลง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับลดลงจากการระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go ในช่วงวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ถึงวันท่ี 31 มกราคม 2565 หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธ์ุ Omicron ในหลายประเทศ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway Up โดยได้แรงหนุนจาก Fund Flow ของนักลงทุน ต่างชาติท่ีไหลเข้าต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ท่ีปรับตัวขึ้นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะท่ีนักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันน้ีท่ี 1,675-1,695 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
- มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
- กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
หุ้นรายงานพิเศษ
STARK (Bloomberg Consensus 6.40 บาท) มุมมองบวก
- กำไรปี 64 เติบโตสูง : 4Q64 บริษัทมีรายได้ 7,408 ลบ. +49.9%YoY เติบโตจากตลาดส่งออก และความต้องการใช้สินค้าในการก่อสร้างท้ังจากภาครัฐและเอกชน กำไรสุทธิเท่ากับ 908 ลบ. +104%YoY (มากกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 404 ลบ. กว่า 2.25 เท่า) ส่งผลให้ท้ังปี 64 บริษัทมีรายได้ 27,093 ลบ. +50.4%YoY กำไรสุทธิ เท่ากับ 2,783 ลบ. +83%YoY
- Outlook ปี 65 มี potential growth : บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 ท่ี 3-3.25 หมื่นลบ. หรือคิดเป็นการ เติบโต 10.7% และมี %EBITDA บริเวณ 20-21% จากในปี 64 ที่ 19.5% โดยปัจจัยท่ีจะสนับสนุนการ เติบโตของบริษัท ได้แก่ การเน้นขายสินค้าท่ีมีอัตรากำไรสูง (high-margin products) เช่น Submarine Cable – เคเบิลใต้น้ำ, Floating Cable, HVDV Cable (สายส่งกระแสตรงแรงดันสูง โดยไม่ใช้สายน้ำสัญญาณ), Underground EHV Cable
- ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานที่ออกมาดีกว่าท่ีตลาดคาด รวมไปถึงทิศทางการเติบโตในปี 65 Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 2,886 ลบ. +27%YoY ท้ังนี้ ราคาหุ้น -4.5% เมื่อเทียบกับ 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus ที่ 6.40 บาท เทียบกับราคาปิดที่ 4.68 บาท มี upside ราว 36% จึงแนะนำ ซื้อ
หุ้นมีข่าว
(+) III (Bloomberg Consensus 20.00 บาท) เตรียมเปิดให้บริการขนส่งทางรางเส้นทางไทย-ลาว- จีน ภายใน Q2/2565 ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร ลงทุนตู้คอนเทนเนอร์ วางงบลงทุนปีนี้ 500 ล้านบาท ลุยขยายธุรกิจ ปักธงรายได้ปี 2565 โต 30% นิวไฮต่อเนื่องจากปีก่อน เดินหน้านำบริษัทลูก ANI เข้าตลาดภายในไตรมาส 4/2565 (ท่ีมา ทันหุ้น)
(+) SKY (ราคาเหมาะสม 12 บาท) ส่งซิกไตรมาส 1/2565 โตต่อเนื่อง รับอานิสงส์เปิดรับนักท่องเที่ยวแบบ Test & Go หนุนบริการในสนามบินเพิ่มขึ้น จ่อเซ็นงาน AOT มูลค่า 7.61 พันล้านบาท ภายในไตรมาส 2/2565 บิ๊กบอส “สิทธิเดช มัยลาภ” เปิดกรุรับเงินบริการตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ตั้งตารอนักท่องเท่ียวไหลกลับ ปักธงเป้ารายได้ปีเสือโต 30% ตุน Backlog กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15% ที่มา ทันหุ้น)
(+) OR (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) ตั้งงบลงทุน 8 ปี กว่า 2 แสนล้านบาท ดันอีบิทด้า ปี 2573 แตะ 4 หมื่นล้านบาท เน้นลงทุนในธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยกว่า 50% จะเติบโตร่วมกับพันธมิตร ขณะที่ธุรกิจพลังงานจะ “เปลี่ยนผ่าน” จากพลังงานน้ำมันสู่พลังงานไฟฟ้าอย่าง “ไร้รอยต่อ” เล็งขยายการลงทุนครอบคลุม 20 ประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IMH (Bloomberg Consensus 28.02 บาท) จัดบิ๊กเซอร์ไพร์ส คว้าที่ดินทำเลทอง 12 ไร่ ติดสถานี BTS แบริ่ง ขยายอาณาจักรสร้าง “โรงพยาบาล IMH แบริ่ง” 600 เตียง มูลค่าโครงการกว่า 5 พันล้านบาท จ่อระดมทุนผ่านการน่า รพ.ประชาพัฒน์ เข้าตลาดหลักทรัพย์ปลายปี 65 นี้ โชว์กำไรปี 64 โตตามนัด แตะ 422 ล้านบาท ฟากบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลในอัตรา 0.90 บาทต่อหุ้น จ่อขึ้น XD 18 มี.ค.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 1 มี.ค. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนก.พ. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ก.พ.จากไฉซิน
อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต
สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต
- 2-3 มี.ค. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินรายครึ่งปีต่อคณะกรรมการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภา
- 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED









