SSP ท็อปฟอร์ม กำไรปี 64 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ แตะระดับ 859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% เทียบปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยูที่ 847 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA โต 32.6% อานิสงส์รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าในมือ บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นหุ้น ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมทั้งะจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0111111114 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ด้านผลงานปีนี้ มั่นใจผลงานออลไทม์ไฮต่อเนื่อง วางเป้ารายได้โตเกิน 20% แย้มอยู่ระหว่างศึกษา M&A และ JV โรงไฟฟ้าอีกหลายโปรเจค
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2564 กลุ่มบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ โดยมีรายได้รวม 2,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,935 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 736 ล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 2,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานใที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 34.5 เมกะวัตต์ได้เต็มปี อีกทั้งยังรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 1 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการ 48 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศรวม 296 เมกะวัตต์ เทียบปีก่อนมีกำลังการผลิต 196 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นใ นอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0111111114 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 พฤษภาคม 2565
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% ผลักดันผลการดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาดีล M&A และ JV โครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับพันธมิตรในหลายโปรเจค ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ เตรียม COD ไตรมาส 2/67 โดยบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ 400 เมกะวัตต์ภายในปี 2567
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนวินด์ฟาร์มเฟส 2 ในเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการ เพื่อต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานลม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนทำการศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐของเวียดนาม
******








