Daily Focus Value and Domestic Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ปิดบวกอีก 9.10 จุด ณ สิ้นวัน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแรงขายออกมากดดันบ้าง และทำให้ยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,700 จุดได้ สถาบันในประเทศวานนี้สถานะทรงตัวในตลาดหุ้น แต่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 4 พันลบ. (แต่ Long SET50 Index Futures หนาแน่น 1.15 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Down บริเวณ 1,685-1,690 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่กลับมาเป็นลบอีกครั้ง โดยตลาดกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่มีความเสี่ยงลากยาว  ซึ่งรวมถึงมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เติบโตลดลง  ส่วนราคาพลังงานปรับตัวพุ่งขึ้นแรงกว่า 10% วานนี้ โดยน้ำมันดิบ WTI ทะลุ US$100 ต่อบาร์เรลสูงสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อทั่วโลกเพิ่มเติม ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุม OPEC+ วันนี้ ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าตลาดคาดที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวันหรือไม่ รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน FED ต่อสภาคองเกรสสัปดาห์นี้ ว่าจะมีมุมมองต่อผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากสงครามอย่างไร รวมถึงทิศทางการดำเนินนโยบายการเงิน  ทำให้ระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงยังมีความผันผวน อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลกระทบต่ออาเซียนปัจจุบันยังจำกัด และคาดว่ายังสามารถแกว่งได้แข็งกว่าตลาดในภูมิภาคอื่น เรายังมองหุ้น Value และ Domestic Play ที่ได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นจะยังปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด

กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Value และ Domestic Play ที่แนวโน้มกำไร 1H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : BDMS, CPALL, OSP, PJW, TOP

หุ้นเด่นวันนี้ : ORI

  • แนะนำา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15 บาท
  • วานนี้แถลงแผนการเติบโตแบบ Multiverse ทั้งธุรกิจอสังหาฯเดิม ควบคู่การขยายธุรกิจใหม่ ทั้ง Logistic Healthcare ประกันภัย พลังงาน และอื่นๆ และตั้งเป้า Market Cap รวมมากกว่า 1 แสนลบ.ภายในปี 2025 สอดคล้องมุมมองของเราที่มอง ORI เป็นมากกว่าบริษัทอสังหาฯในระยะยาว
  • เป้าหมายปี 2022 Aggressive สะท้อนความเชื่อมั่นภาวะอุตสาหกรรมที่แข็งแรง เตรียมเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 4.2 หมื่นลบ. +137% Y-Y Presales 3.5 หมื่นลบ. +16% Y-Y และเป้ารายได้ 1.75 หมื่นลบ. +10% Y-Y เราคาดกำไรปี 2022 +35% Y-Y
  • แนวรับ 11.80-12 บาท แนวต้าน 12.50-12.60//13-13.50 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาค US$558 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$312 ล้าน ส่วนตลาดอาเซียนยังไหลเข้าแข็งแรงทั้งไทยและอินโดนีเซียประเทศละ US$118-123 ล้าน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกระแสเงินทุนในวันนี้มีโอกาสพลิกมาไหลออกอีกครั้ง ท่ามกลางความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยง และกังวลผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเศรษฐกิจที่อาจลากยาว

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) สรุปผลประกอบการ 4Q21 ภายใต้ Coverage ภาพรวมฟื้นตัวดีหลังคลาย Lockdown กําไรสุทธิ +18% Q-Q, +27% Y-Y ใกล้เคียงคาด ส่วนกำไรปกติ +45% Q-Q, +70% Y-Y กลุ่มที่กำไรดีกว่าคาด คือ กลุ่มขายสินค้า IT ธนาคาร ค้าปลีก บันเทิง ท่องเที่ยว ส่วนกลุ่มที่ต่ำกว่าคาด คือ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ยานยนต์ แนวโน้ม 1Q22 ฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาพเศรษฐกิจ และกำลังซื้อ หนุนหุ้นกลุ่ม Domestic และ Value Play ซึ่งยังเป็นกลุ่มที่เราเน้นลงทุนเป็นหลัก และทนทานต่อความไม่แน่นอนของสงคราม และนโยบานการเงินของ FED

(+) COM7 หลังจากประกาศกำไร 4Q21 ดีกว่าคาดมาก และทำ All Time High ผู้บริหารยังให้เป้าเชิงรุกในปีนี้ โดยเน้นขยายสัดส่วนรายได้ไปยังกลุ่มสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากมือถือ Tablet มากขึ้น ทั้งผ่านร้านค้าตัวเองและร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ (Power Buy, Index Living Mall, BigC, True) เพื่อขยายตลาดให้สามารถรองรับการเติบโตสำหรับฐานรายได้ที่ใหญ่ขึ้นมากได้ เราปรับประมาณการ 2022-2023 ขึ้นเป็น +22 Y-Y และ +33% Y-Y ตามลำดับ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 88 บาท แนะนำ “ถือ”

(-) HANA การประชุมวานนี้โทนค่อนไปทางลบ แม้แนวโน้มคำสั่งซื้อยังดูทรงตัวดี และมีแนวโน้มปรับขึ้นราคาสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ประเด็นลบใหม่คืออาจรับรู้ผลขาดทุนจากโรงงาน SiC (PMS) ในปีนี้มากกว่าคาด รวมถึงต้องติดตามสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่หากยืดเยื้อจะกระทบ Raw Material Shortage เราจึงปรับลดกำไรปกติปี 2022 ลงเป็น -6% Y-Y และ กลับมา +15% Y-Y ในปี 2023 และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 61 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ”

(+) RBF คาดกำไร 1Q22 กลับมาฟื้นตัว Q-Q, Y-Y หลังเริ่มทยอยปรับราคากับลูกค้าและมีการล็อกราคาวัตถุล่วงหน้าถึงกลางปี 2022 แต่หากสงครามรัสเซียยูเครนยังยืดเยื้อ อาจทำให้ราคาแป้งสาลีสูงต่อเนื่อง และแรงกดดันด้านต้นทุนจะมากขึ้นใน 2H22 ภาพรวมรายได้ธุรกิจอาหารคาดยังโตได้ 10%-15% Y-Y แต่มี Downside ของธุรกิจกัญชง ทั้งการปลูกที่ล่าช้ากว่าแผน รวมถึงความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ปลายน้ำในช่วง 2Q22-3Q22 ขณะที่ราคาสารสกัดปรับลงเร็วกว่าคาด เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2022 ลงเป็น +107% Y-Y ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 18 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 597.65 จุด หรือ 1.76% ปิดที่ 33,294.95 จุด จากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน และติดตามนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรส

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน และความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครนหลังยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

(0) ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากรัสเซียบุกโจมตียูเครน และชาติมหาอำนาจคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่ติดตามออสเตรเลียเปิดเผย GDP 4Q21 ในเช้านี้

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 7.69 ดอลลาร์ หรือ 8% ปิดที่ 103.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับรัสเซียโจมตียูเครน รวมถึงสหรัฐและชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลกระทบต่อภาวะอุปทาน น้ำมัน ขณะที่ติดตามการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส และ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 43.1 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 1,943.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงการปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,042.38 / +13.36

- Advertisement -