บล.ทรีนีตี้:
ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ – LEO
แนวโน้มค่าระวางเรือกลับมาขึ้นในฤดูส่งออก เม.ย. นี้ คาดมีโอกาสกำไร 1Q22 จะ All Time High ต่อ ราคาหุ้นยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
- เรายังคงแนะนำ ซื้อ และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 19.50 บาท จากปรับ ESP ปี 2022 ขึ้น และปรับ PER กลับมาใช้ที่ค่าเฉลี่ยที่ 25 เท่า ปัจจุบันราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ย –1SD
- ผู้บริหารยังมีมุมมองเชิงบวกต่อค่าระวางเรือ ซึ่งจะเริ่มกลับเข้าสู่ฤดูกาลส่งออกอีกครั้งในเดือน เม.ย. นี้ จะทำให้ค่าระวางเรือปรับเพิ่มขึ้น
- ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโต 30-35% โดย Sea และ Air Freight เติบโต 20-25% และ 10-15% จากการทำ M&A
- วางแผนที่จะเพิ่มการขนส่งทางอากาศ (China Post) เพิ่มขึ้นในปี 2022 อีก 25-30% จากความต้องการส่งออกสินค้าเกษตร
- เราปรับประมาณการกำไรปี 2022-23 ขึ้น 18%-27% เป็น 250 และ 283 ล้านบาท +25%YoY และ +13% YoY ตามลำดับ จากสมมติฐานการเติบโตของปริมาณขนส่งที่ในปี 2021 ที่มากกว่าคาด
Company Update
แนวโน้มค่าระวางเรือจะเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย.
ผู้บริหารยังมีมุมมองเชิงบวกต่อค่าระวางเรือ ถึงแม้ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. จะเห็นค่าระวางเรือ Shanghai Containerized Freight Index จะปรับตัวลดลงบ้างก็ตาม แต่เป็นปกติของ seasonal ที่จะอ่อนตัวในช่วงต้นปี หลังจากที่มีการขนส่งค่อนข้างมากในช่วงปลายปี และคาดว่าจะเห็นค่าระวางเรือปรับเพิ่มขึ้นได้อีกครั้งในช่วงฤดูส่งออกในเดือน เม.ย. นี้
ตั้งเป้าเติบโต 30-35%
ทั้งนี้ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโต 30-35% โดย Sea และ Air Freight เติบโต 20-25% และ 10-15% จากการทำ M&A สำหรับ Sea Freight แม้ค่าระวางเรืออยู่ในระดับสูง แต่บริษัทยังคงสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยพันธมิตรสายเดินเรือที่บริษัทมีอยู่ และสามารถตอบโจทย์ขนส่งของลูกค้าได้เป็นอย่างที่ทำให้บริษัทมีลูกค้าเพิ่มมาเป็น 1,400 ราย จาก 1,200 ราย และ Air Freight วางแผนที่จะเพิ่มการขนส่งทางอากาศ (China Post) เพิ่มขึ้นในปี 2022 อีก 25-30% จากความต้องการส่งออกสินค้าเกษตร
ปรับประมาณการปี 2022-23 ขึ้น 18%-27% เป็น 250 และ 283 ล้านบาท
เราปรับประมาณการกำไรปี 2022-23 ขึ้น 18%-27% เป็น 250 และ 283 ล้านบาท +25%YoY และ +13% YoY ตามลำดับ จากสมมติฐานการเติบโตของปริมาณขนส่งที่ในปี 2021 ที่มากกว่าคาด และแนวโน้มในปี 2022-23 ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง 15-20% YoY
ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเล็กน้อยเป็น 19.50 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 19.50 บาท จากปรับ ESP ปี 2022 ขึ้น และปรับ PER กลับมาใช้ที่ค่าเฉลี่ยที่ 25 เท่า จากเดิม Avg+2SD ที่ 29 เท่า ด้วยแนวโน้มผลกำไรจะกลับมาเติบโตในระดับปกติ 15-20% จากปี 2021 ที่กำไรเติบโตกว่า 250%
ความเสี่ยง ความเสี่ยงการระบาด COVID-19, ความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าระวาง