บล.ทรีนีตี้:

โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ– IMH

กําไร 4Q64 ตามคาด พร้อมเติบโตจากการสร้างโรงพยาบาล 600 เตียง

  • รายงานกำไรสุทธิใน 4Q64 ที่ 139 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 159 ล้านบาท เป็นการปรับตัวลดลง 32% QoQ แต่ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 7.2 ล้านบาทใน 4Q63
  • รายงานกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 423 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 17 ล้านบาทในปี 2563 โดยมีรายได้รวมที่ 943 ล้านบาท เติบโต 296% YoY
  • ลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ขนาด 600 เตียง รองรับผู้ป่วยเงินสดเป็นหลัก และโควต้าผู้ประกันตน 3 แสนราย
  • ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.90 บาท ส่งผลให้มี Dividend Yield ที่ 4% ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 30.30 บาท โดยวิธี DCF อิงค่า WACC ที่ 11.20 %

4Q64 Earnings Review

  • IMH รายงานกำไรสุทธิใน 4Q64 ที่ 139 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 159 ล้านบาท เป็นการปรับตัวลดลง 32% QoQ แต่ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 7.2 ล้านบาทใน 4063
  • รายงานรายได้รวมใน 4Q64 ที่ 304 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 20% QoQ แต่สูงขึ้น 254% YoY โดยที่มีรายได้จากกลุ่มโรงพยาบาลที่ 201.7 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 30% QoQ เนื่องมาจากฐานที่สูงใน 3Q64 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 สูง ในขณะที่ 4Q64 มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ส่งผลให้มีรายได้จากการรับตรวจเชื้อที่ลดลง
  • รายงานรายได้รวมปี 2564 ที่ 943 ล้านบาท เติบโต 296% YoY และกำไรสุทธิที่ 423 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์เล็กน้อยที่ 442 ล้านบาท แต่สามารถพลิกเป็นกำไรหลังจากที่บันทึกขาดทุนสุทธิที่ 17 ล้านบาทในปี 2563

ประกาศสร้างโรงพยาบาลขนาด 600 เตียง เสริมทัพรายได้

ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 ที่ 458 ล้านบาท โดยที่ใน 1Q65 มีการระบาดของสายพันธุ์ Omicron ที่รุนแรง ส่งผลให้คาดว่ากำไรใน 1Q65 จะมีการเติบโตทั้ง QoQ และ YoY พร้อมทั้งประกาศลงทุนสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ขนาด 600 เตียง ติดสถานีแบริ่ง เป็นโรงพยาบาลที่รองรับคนไข้เงินสดเป็นหลัก และมีสัดส่วนของรายได้จากกลุ่มประกันสังคมที่ 10% โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ประกันตนที่ 3.0 แสนราย และในปีแรกที่เปิดดำเนินการ คาดว่าจะมีจำนวนผู้ประกันตนที่ 50,000 ราย และจะเริ่มให้บริการในปี 2558 งบการลงทุนอยู่ที่ราว 5 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการ Spin Off กลุ่มโรงพยาบาลในช่วง 2H65 โดย IMH จะยังคงถือหุ้นของกลุ่มโรงพยาบาลที่ 70-75%

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 30.30 บาท

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 30.30 บาท ด้วยวิธี DCF อิง WACC ที่ 11.2% และคาดการณ์ของเรายังไม่ได้รวม Upside ที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าลงทุนโรงพยาบาลแห่งใหม่เพิ่ม และการ Spin Off ธุรกิจโรงพยาบาลในอนาคต เราจึงเลือก IMH เป็น Top Pick ของกลุ่ม และ IMH ประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 0.90 บาท ส่งผลให้มี Dividend Yield ที่ 4%

- Advertisement -