บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +43.5%

Close Mar 01, 2022 Price (THB) 6.20

12M Target (THB) 8.90

Previous Target (THB) 8.30

What’s new?

  • กำไรปกติ 4Q64 อยู่ที่ 157 ล้านบาท ฟื้นตัว 15% QoQ ถือเป็นการฟื้นแบบ QoQ ครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส
  • ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ดัชนีเรือขนส่งน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 98% ในรอบ 4 วันทําการที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเช่าเรือ VLCC เพิ่มขึ้น 12% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

Our View

  • เราปรับปรุงประมาณการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคาดกำไรปกติปี 2565 ที่ 1,108 ล้านบาท โต 43% YoY จากค่าเช่าเรือ FSU และ VLCC ที่กลับมาทรงตัวในระดับสูง และการฟื้นตัวของเรือขนส่งน้ำมันในประเทศ
  • ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2565 เพียง 14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 20 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

PRIMA MARINE กำไรปกติ 4Q64 ฟื้นตัว เรือ VLCC มาถูกจังหวะ

กำไรปกติ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ ครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส

PRM รายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 169 ล้านบาท ลดลง -60% ที่ QoQ และ -59% YoY เพราะไม่มีกำไรจากการ ขายเรือ FSU เหมือนที่เกิดขึ้นใน 2Q-3Q64 ซึ่งไม่ใช่รายการที่เป็น Core Operation ถ้าหักออก กำไรปกติที่ 157 ล้านบาท จะโต 15% QoQ แต่ยังลดลง -62% YoY จากฐานที่สูงในปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเรือเก็บ น้ำมันกลางทะเล (FSU) รุ่งโรจน์ ค่าเช่าเรือเพิ่มขึ้น 40-50% จากปี 2562 และให้บริการเต็ม Capacity ที่ 7 ลำ แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ 5 ลำ อย่างไรก็ตาม กำไรปกติที่ฟื้นตัว QoQ ครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ถือเป็นสัญญาณที่ดีในภาวะที่ธุรกิจเรือ FSU (30% ของรายได้รวม) อยู่ในช่วงขาลง และเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านในการรวมกิจการกับบริษัท ทรูธ มาริไทม์ จำกัด (ไทยออยล์มารีนเดิม) โดยธุรกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน คือ เรือขนส่งน้ำมันในประเทศ (46% ของรายได้รวม) ซึ่งถูกกระทบจาก COVID-19 มา 2 ปี และเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ (10% ของรายได้รวม) ที่ให้บริการเรือ Aframax 1 และ VLCC 1 ลำ รวมถึงเรือ Offshore เพื่อสนับสนุนงานสำรวจปิโตรเลียม (8% ของรายได้รวม) กำไรปกติปี 2564 อยู่ที่ 776 ล้านบาท -47% YoY ประกาศจ่ายปันผล 0.18 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 2.9% ขึ้น XD วันที่ 6 พ.ค. 2565

ผลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน หนุนค่าเช่าเรือเร่งตัวขึ้นมาก

อ้างอิงจาก The Wall Street Journal เมื่อ 28 ก.พ. 2565 ได้สำรวจดัชนีค่าระวางเรือขนส่งน้ำมัน Baltic Dirty Tanker – BDTI พบว่าอยู่ที่ 1,147 จุด พุ่งขึ้น 416 จุด หรือ 36% ในวันเดียว ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจาก Baltic Exchange พบว่า BDTI อยู่ที่ระดับ 1,449 จุด เพิ่มขึ้นอีก 26% ใน 2 วันทำการที่ผ่านมา และแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ส่วนค่าเช่าเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ VLCC ล่าสุดอยู่ที่ $43,000/วัน จาก $25,000/วันในกลางเดือน ก.พ. 2565 สาเหตุเป็นเพราะความต้องการสำรองน้ำมันจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่รัสเซียเร่งตัวขึ้นมาก  ทำให้เกิดการแย่งเรือขนส่งน้ำมันและจัดเก็บน้ำมันกลางทะเล ซึ่งถ้าสถานการณ์ยังยืดเยื้อต่อไป เราคาดว่าค่าเช่าเรือจะทรงตัวในระดับสูงจนถึง 3Q65 ก่อนเข้าฤดูหนาว เพราะอุปทานเรือขนส่งน้ำมันกำลังตึงตัว โดย Teekay Tanker ระบุว่าคำสั่งต่อเรือใหม่ปีนี้คิดเป็นเพียง 7% ของกองเรือทั้งหมด ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2539 และคาดการณ์อุปทานเรือปีนี้จะเพิ่มเพียง 2% YoY ต่ำกว่าคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกของ IEA และ EIA ที่ระดับ 3% YoY โครงสร้างตลาดเรือขนส่งน้ำมัน ณ ปัจจุบัน จึงถือว่าเอื้อต่อการฟื้นตัวของ PRM ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นอย่างมาก

ราคาปัจจุบันไม่มี Downside ในเชิง Valuation คาดกำไร 1Q65 ฟื้นแบบ V-Shape

เราได้ปรับปรุงประมาณการปี 2565-2566 ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคาดกำไรปกติปี 2565 ที่ 1,108 ล้านบาท โต 43% YoY จาก 1) ค่าเช่าเรือ FSU และ VLCC สัดส่วนรายได้รวมกันประมาณ 40% กลับมาทรงตัวในระดับสูงใกล้เคียงปี 2563 ซึ่ง PRM จะรับเรือ VLCC เพิ่มอีก 1 ลำในเดือน เม.ย. 2565 2) เรือขนส่งน้ำมันในประเทศกลับมาฟื้นตัวจากการเดินทางที่เพิ่มขึ้น และโอกาสการให้บริการเรือขนาดเล็กกับ SPRC 3) ความต้องการเรือ offshore ฟื้นตัวตามแผนสำรวจน้ำมันของ PTTEP ขณะที่กำไรปกติปี 2566 คาดที่ 1,277 ล้านบาท โต 15% YoY จากการรับรู้รายได้ของ ทรูธ มาริไทม์ ที่ให้บริการกับ TOP เต็มปี ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2565 เพียง 14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 20 เท่า แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเหมาะสมปี 2565 อิง PE Multiplier ที่ 20 เท่า ได้เท่ากับ 8.90 บาท

ความเสี่ยง ความผันผวนของราคาน้ำมัน สัญญาเรือ FSU ที่เป็นแบบระยะสั้น การหยุดซ่อมเรือนอกแผน

- Advertisement -