บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action

BUY

TP upside (downside) 45%

Close Mar 01, 2022 Price (THB) 19.30

12M Target (THB) 28.00

Previous Target (THB) –

What’s new?

  • IMH ประกาศแผนสร้าง รพ. ใหม่ขนาด 600 เตียง ที่แบริ่ง โดยใช้เงินที่ได้จากการ spin off IPO รพ. ประชาพัฒน์
  • FA คาดโครงการ IMH แบริ่ง ให้ IRR ที่ 18.82% และรายได้ปีแรกราว 2.2 พันล้านบาท แนวโน้ม 1Q65 จะยังเติบโตดีใกล้เคียง 4Q64 จาก COVID-19 โอไมครอน ภาพรวมปี 65 คาดกำไรยังเติบโต 8%
  • มีแผนยกระดับ IMH Central Lab เป็นผู้นำศูนย์ตรวจครบวงจร พร้อมแผน spin off

Our View

  • เรามีมุมมองเป็นบวกในระยะยาวต่อแผนในการสร้าง รพ.แห่งใหม่ ซึ่งจะช่วยขยายฐานกำไร และอัพเกรด IMH เป็นกลุ่ม รพ. ขนาดใหญ่
  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นถือว่ายังถูกมาก มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 28.00 บาท ยังไม่รวม รพ.ใหม่ ซื้อขายที่ P/E ปี 2565 เพียง 9.2x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 27.4x

INTERMEDICAL CARE AND LAB สยายปีก สร้าง รพ.ใหม่ อัพเกรดเป็น รพ.ขนาดใหญ่

เตรียมสร้าง รพ.ใหม่ 600 เตียง บนทำเลทอง ระดมทุนผ่าน IPO ประชาพัฒน์ จากการประชุม Analyst Meeting เมื่อวานนี้ บริษัทชี้แจงประเด็นการลงทุนสร้าง รพ.ใหม่ ผ่านการลงทุนบริษัทลูก ประชาพัฒน์ (ซึ่ง IMH ถือหุ้น 99.99% ) โดยแผนในการระดมทุน รพ.ประชาพัฒน์จะ spin off เข้าตลาดหุ้นในปลายปี 2565 โดยวัตถุประสงค์ในการ IPO เข้าตลาด เพื่อจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนสร้าง รพ. ใหม่ “IMH แบริ่ง” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 600 เตียง สถานที่ตั้งที่แบริ่ง บางนา บนเนื้อที่ 12 ไร่ สร้าง 4 อาคาร แหล่งเงินลงทุนไม่เกิน 5.5 พันล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินจาก IPO ราว 4.4 พันล้านบาท และเงินกู้อีก 1.1 พันล้านบาท โดยโครงการจะสร้างเสร็จในปี 2568 ทางที่ปรึกษาทางการเงินประเมิน Payback Period 7.49 ปี และ IRR 18.82% เรามีมุมมองเป็นบวกต่อดีลดังกล่าว ดังนี้

1. แผนในการ spin off รพ.ประชาพัฒน์ เข้า IPO ในปีนี้ จะเพิ่ม Value ให้บริษัท ซึ่งปัจจุบัน IMH มี ขนาด Market Cap ที่ราว 4.1 พันล้านบาท ขณะที่คาด ประชาพัฒน์จะมี Market Cap ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

2. ทำเลที่ตั้งที่ดี และการแข่งขันไม่ได้สูงมาก “IMH แบริ่ง” ตั้งอยู่ในเขตบางนา อยู่ติดกับรถไฟฟ้าแบริ่ง เดินทางสะดวก อยู่ใกล้กับไบเทค บางนา และ Bangkok Mall (ห้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งจะเปิดในปี 2566) โดยมีประชากรในเขตบางนาราว 2.3 ล้านคน คู่แข่งในเขตรัศมีมี รพ. ไทยนครินท์ (ขนาด 190 เตียง) และ รพ.ศิครินทร์ (ขนาด 355 เตียง เฉพาะที่บางนา) ซึ่งเรามองว่าการแข่งขันไม่น่ารุนแรงมาก

3. การรับกลุ่มลูกค้าทั้งเงินสด ประกันสังคม และลูกค้าบัตรทอง โดยคาดว่าด้วยขนาดของ รพ.ขนาดใหญ่ของ IMH  และทำเลที่ดีจะดึงดูดให้คนมาใช้บริการ ซึ่งหากอิงจากเป้าหมายของบริษัทคาดว่าจำนวนลูกค้าเงินสดราว 3 พันคนต่อวัน และลูกค้าประกันสังคมเตรียมยื่นขอ 3 แสนราย โดยในปีแรกคาดผู้ประกันตนราว 5 หมื่นราย โดยตั้งเป้ารายได้ในปีแรกที่เปิดดำเนินการในปี 2568 ราว 2.2 พันล้านบาท สัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าเงินสดราว 90% และประกันสังคมราว 10%

4. เป็นการอัพเกรดจาก รพ. ขนาดเล็ก เป็น รพ. ขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมประชาพัฒน์มีจำนวนเตียง 100 เตียง ส่วนตัว IMH เดิมธุรกิจหลักเป็นศูนย์ตรวจสุขภาพมีเตียงเพียง 3 เตียง การได้เตียงเพิ่มเป็น 600 เตียง ทำให้บริษัทกลายเป็น รพ. แบบ stand alone ที่มีขนาดใหญ่สุดในเขตกรุงเทพใต้และสมุทรปราการ

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นถูกเกินไป

เรามีมุมมองเป็นบวกต่อดีลในการสร้างโรงพยาบาล ที่จะอัพเกรดให้ IMH เป็น รพ. ขนาดใหญ่ และขยายฐานรายได้ให้บริษัท โดยมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ของเรายังไม่รวม รพ.ใหม่ ที่ 28.00 บาท ซึ่งวิธี DCF ที่ WACC 9.1% ถือว่ายังถูกกว่ากลุ่ม โดยมี EVEBITDA เพียง 7.1% เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม โรงพยาบาลที่ 20.1x ขณะที่ P/E ปี 2555 เพียง 9.1% เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 27.4x

Upside Risk ต่อประมาณการ หากอิงสมมติฐานตามที่ที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทประเมิน คาดว่าฐานรายได้ของกลุ่มบริษัทหลังเปิด รพ.ใหม่ จะปรับเพิ่มขึ้นในปี 2568 ราว 2.2 พันล้าน จากฐานรายได้ปัจจุบันที่ 1 พันล้านบาท ขณะที่เราไปเทียบกับหุ้น รพ.ที่มีรายได้จากประกันสังคม อาทิ SKR CHG LPH VIBHA RJH เทรด P/E ปี 2565 เฉลี่ยที่ 24.5x แต่หากเราประมาณแบบอนุรักษ์นิยม โดยอิง P/E ที่ 20x ราคาควรปรับขึ้นเป็น 42.70 บาท

- Advertisement -