Our View? “ไม่ไหวก็พักใหม่”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,685 / 1,675 แนวต้านที่บริเวณ 1,700 / 1,707 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ กังวลผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐ-ชาติพันธมิตร คาดจะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจยุโรป-โลก รวมทั้งหนุนทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น กระตุ้นเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การหารือกันระหว่าง ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กับ ปธน.เอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ยังไม่มีความคืบหน้าเชิงบวก โดยรัสเซียยังต้องการให้ยูเครนมีสถานะเป็นประเทศที่เป็นกลาง-ปลอดทหาร ขณะที่การใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครนจะต้องประสบความสำเร็จ คาดยัง เป็นปัจจัยให้สถานการณ์ดังกล่าวยื้อเยื้อได้ต่อ

อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวคาดจะส่งผลให้ตลาดเริ่มปรับลดการขึ้นดอกเบี้ย หรือใช้มาตรการทางการเงินที่ตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในระยะถัดไป รวมทั้งการส่งสัญญาณการเปิดกว้างในการปรับใช้นโยบายทางการเงินต่างๆ ของ FED โดยอาศัยข้อมูลที่ได้รับ คาดจะส่งผลให้กระแสเงินทุนส่วนเกินในตลาดจะลดลงช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า ซึ่งคาดจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนทิศทางสินทรัพย์เสี่ยงพื้นตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน เม.ย. เมื่อคืนนี้ผันผวนอยู่ในระดับสูง ปิดที่ระดับ 107.67 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.93 ดอลลาร์ (-2.65%) แม้ยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย แต่แนวโน้มการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านช่วยชะลอกําลังการปรับตัวขึ้นแรงของราคาน้ำมันไว้ได้บ้าง หลังผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) จะเดินทางเยือนอิหร่านสุดสัปดาห์นี้ รวมทั้ง รมว.น้ำมันอิหร่าน ออกมาเปิดเผยพร้อมส่งออกน้ำมันเต็มกําลังการผลิตภายใน 1-2 เดือน

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง จากคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังสามารถฟื้นตัวขึ้นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่ม BIG Cap. ปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ทั้งนี้เรายังคงชอบหุ้นใน

1.) กลุ่มค้าปลีก (MAKRO, CPALL, BJC, CRC, HMPRO, GLOBAL) ที่ยังมีความน่าสนใจในเชิง Valuation ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ

2.) กลุ่ม AMC (BAM, CHAYO และ JMT) ที่คาดแนวโน้มการ JV กับธนาคารพาณิชย์คาดจะหนุนทิศทางผลกำไรในปีนี้เติบโตโดดเด่น

3.) กลุ่มขนส่ง (BTS และ BEM) คาดผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้หลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปแล้ว คาดผู้โดยสารรถไฟฟ้าเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

4.) กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม (AOT, AWC, CENTEL, ERW, MINT และ SPA) คาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากการที่เมื่อวานนี้ ศบค. เปิดเผย จีนเตรียมปรับนโยบายใช้มาตรการ Living with Covid คาดจะเป็นความหวังเชิงบวกนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเร็วกว่าที่ตลาดคาด

ธีมการลงทุน “Selective Play

หุ้นแนะนําวันนี้ “SPA” เก็งกำไร

แนวรับ 7.05 / 6.95 Target 7.50 / 8.00 Stop <6.85

- Advertisement -