บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
SCG Packaging (SCGP) ราคาลงมากไป สวนกับแนวโน้มเติบโต
Company Update
ประเด็นการลงทุน
หลังราคาหุ้นร่วง 11% จากจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว (63.5 บาท) หุ้น SCGP ซื้อขายที่ PEG ปีนี้ที่ 0.73 เท่า โดยมีอัพไซด์ 32% จากราคาเป้าหมายเราที่ 75 บาท, (WACC 8%, L-T Terminal growth 3.2%) ขณะที่ราคาถ่านหินพุ่งแรงตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งกระฉูดในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความกังวลว่า SCGP จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ทำให้มาร์จิ้นลดลง แต่เราไม่กังวลในประเด็นนี้มากนัก เนื่องจากต้นทุนถ่านหินคิดเป็น 5% ของต้นทุนรวม นอกจากนี้ เราเห็นการเคลื่อนไหวของราคาทั้งในผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบซึ่งสามารถส่งต่อไปยังผู้บริโภคได้ ขณะเดียวกัน เรามองว่าบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตในระยะยาวได้ ทั้งในแง่การดำเนินงานและเงินทุน เราคงแนะนำซื้อลงทุน
ต้นทุนถ่านหินเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนเพียง 5% ของต้นทุนการผลิต
หลายปีที่ผ่านมา SCGP เติบโตขึ้นอย่างมาก จากรายได้ 7 หมื่น ลบ. ในปี 2558 สู่ระดับมากกว่า 1.45 แสน ลบ. ในปี 2564 และได้เปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษที่ใช้ถ่านหินในกระบวนการผลิตมานาน ปัจจุบันถ่านหินคิดเป็น 5% ของต้นทุนการผลิต โดยราคาถ่านหินนิวคาสเซิลพุ่งขึ้น 60% (ค่าอ้างอิงสำหรับค่าความร้อน 6500/7500 กิโลแคลอรี่) เป็น 440 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดย ณ สิ้น ม.ค. 65 ผู้บริหารเผยว่า SCGP มีถ่านหินคิดเป็น 75% ของความต้องการในปี 2565 ที่สำคัญกว่านั้นคือบริษัทใช้ถ่านหินกาลิมันตัน (ICI 4 – ค่าความร้อน 4200/4500 kcal) ที่มีราคาต่ำกว่าถ่านหินจากนิวคาสเซิลมาก โดย ณ สิ้นเดือน ก.พ. เกรดถ่านหินนี้มีราคา 87 เหรียญสหรัฐ/ตัน และเพิ่มขึ้น 17% เป็น 120 เหรียญสหรัฐ/ตันในวันที่ 2 มีนาคม
ยังได้เปรียบในแง่ราคาสินค้าและปัจจัยการผลิต
ราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ (Testliner) งวดมค.-กพ.65 เพิ่มขึ้น 3% เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาเศษกระดาษ (AOCC) ลดลง 1.8% ส่งผลให้ส่วนต่าง (Spread) เพิ่มขึ้น 8% QoQ, ส่งผลบวกต่อกำไร โดยอัตราส่วนของเศษกระดาษนำเข้าประมาณ 40%-45% และเศษกระดาษในประเทศ 55%-60% ตลอดจนองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ HVA และโซลูชัน ขณะที่สถานการณ์โควิดเริ่มบรรเทาลง การเก็บเศษกระดาษที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาลดลงและลดลงมากในประเทศ
กลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจนควรค่าแก่พรีเมียม
ก่อนที่ความขัดแย้งในรัสเซีย-ยูเครนจะเกิด ภาวะเศรษฐกิจโลกก็ผันผวนเนื่องจากราคาพลังงานที่สูง และความต้องการที่เพิ่มขึ้น จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งเกิน 100 เหรียญ สหรัฐ/บาร์เรล และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น มีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนสูง บริษัทที่มีกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจนน่าจำได้พรีเมียม หลังจากประสบความสำเร็จในการขยายกำลังการผลิต และ M&P ทาง SCGP ได้จัดสรรเงินลงทุนอีก 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ เพื่อขยายกำลังการผลิตและเข้าซื้อกิจการ
