บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์:
Srisawad Corporation Plc. บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ผลประกอบการน่าจะกลับมาดีขึ้นปีนี้
- ปี 64 กำไรโตน้อย เพราะได้รับผลกระทบโควิด แต่รายได้ค่าธรรมเนียมประกันยังโตดีมาก
- ปี 65 ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20%-30% กำไรโต 15-20% คุม NPL 3-5%
- กำลังเจรจากับธนาคารจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ คาดช่วยหนุนรายได้และกำไรปีนี้
- SAWAD ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความสามารถในการทํากำไรสูง เชื่อปีนี้น่าจะกลับมาเติบโตได้ดีขึ้น + มี ปันผล 3.1% + ราคาที่ปรับลงมามาก เป็นโอกาสเข้า “ซื้อลงทุน”
ประเด็นการลงทุน
- ปี 64 กําไรโตน้อย เพราะได้รับผลกระทบโควิด ทั้งนี้ กำไรปี 64 โตไม่มากเพียง 15% YoY แม้รายได้ประกัน จะยังเติบโตได้ดีมาก แต่กำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการกลับรายการสำรองมาเป็นรายได้ (ผลจากพอร์ตสินเชื่อของ บ.ย่อยอย่าง BFIT ที่ลดลง) และกำไรจากการขาย บ.ย่อย อย่างเงินสดทันใจเข้ามาด้วย โดยผู้บริหารให้เหตุผลว่ากำไรที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะได้รับผลกระทบโควิด-19 ขณะที่การขายบเงินสดทันใจให้ GSB 50% ทำให้เปลี่ยนจากบ.ย่อย เป็นบ.ร่วม ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อลดลงจากปีก่อนหน้าด้วย อย่างไรก็ดี SAWAD ยังมี Net Profit Margin สูงถึง 50% และมี ROE ราว 21.5% ล่าสุดประกาศป้นผลงวดปี 64 @1.80บ. คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.1%
- ปี 65 ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20%-30% กำไรโต 15-20% สำหรับปี 55 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 20-30% โดยมีกลยุทธ์เน้นการกระจายแหล่งรายได้ลดความเสี่ยง โดยมีรายได้ดอกเบี้ยจากพอร์ตสินเชื่อที่หลากหลาย ทั้งสินเชื่อ Car for cash, Land for Cash, สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังเน้นรุกรายได้ค่าธรรมเนียมประกัน ทั้งนี้ปีนี้จะเน้นสินเชื่อที่มี High Yield อย่างสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมี Yield ราว 35%-45% เข้ามาเติมพอร์ตในปีนี้ และยังหันมาเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีเงินเดือนสูงที่มีคุณภาพที่ดีด้วย และใช้กลยุทธ์การขายผ่าน Telesales และ Direct Sales Team ทางด้านรายได้ค่าธรรมเนียม ประกันที่ยังโตได้ดีปีก่อน ปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ราว 1 พันลบ. สำหรับการตั้งสำรอง credit cost ปีนี้คงตั้งไม่มากนัก ตั้งตามการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่รุกขยายมากขึ้นเท่านั้น ขณะที่พอใจกับระดับ Coverage ratio ที่ 59% คุม NPL ให้อยู่ 3-5% จาก 3.7% สิ้นปี 64 ทั้งนี้ตั้งเป้ากำไรโต 15-20% แม้รุกขยายพอร์ตโตสูงถึง 20-30% เป็นเพราะว่าเพิ่งเน้นพอร์ต High Yield ปีนี้ และยังรับรู้กำไรไม่เต็มที่ ทำให้กำไรอาจเพิ่มในระดับที่ต่ำกว่าการเพิ่มของพอร์ตสินเชื่อ
- กำลังเจรจากับธนาคารจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ เดิม SAWAD จัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ SWP ร่วมกับ NOBLE ล่าสุดจากกฎเกณฑ์ของธปท.ที่เปลี่ยนแปลงไป SAWAD เห็นโอกาสจึงซื้อหุ้นบริษัทบริหารสินทรัพย์ ดังกล่าวกลับจาก NOBLE โดย SAWAD อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารในการร่วมจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์คาด จะจบในเร็วๆ นี้
- ประเมินกําไรปี 65 คาดกําไรโต 9% YoY, ปี 66 โต 20% YoY รับรู้พอร์ต High Yield เต็มปี เราประเมินกำไรปี 65 ใหม่ ภายใต้สมมติฐานสินเชื่อโต 25% Credit cost ที่ 0.5% คาดกำไรสุทธิปีนี้โตราว 9% YoY มองรายได้ดอกเบี้ยจากพอร์ต High Yield น่าจะส่งผลเต็มปีในปี 66 และทำให้กำไรโตก้าวกระโดดราว 20% ในปี 66
คําแนะนํา
- แนะนํา “ซื้อ” เราปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 71.50 บ. (อิง 3.3XPBV22F) สะท้อนการปรับ Long term ROE ลง แต่ยังเชื่อว่า SAWAD ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง คาดว่าปีนี้ผลประกอบการน่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้นเป็นลำดับ ราคาที่ปรับลงมามากก่อนหน้าเป็นโอกาสเข้า “ซื้อลงทุน”
ปัจจัยเสี่ยง
ผลกระทบโควิด-19 ยืดเยื้อ + เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า คุณภาพสินทรัพย์ถดถอยมากกว่าคาด รวมถึงมาตรการใหม่ๆ ของธปท. ที่อาจส่งผลกระทบทางลบ