บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Thanachart Capital (TCAP TB) หุ้นปันผลเด่น
ถือ รับปันผลแจ่ม ชอบ KKP มากกว่า
แม้ว่า TCAP จะใช้เงินสดในมือเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TTB (ถือ, TP 1.45 บาท) และ THANI (ไม่มีคำแนะนำ) ในปี 2564 แต่แต่เราเชื่อว่า TCAP จะยังคงจ่ายเงินปันผลที่ 3 บาท/หุ้นสำหรับ ปี 2565-66 จากที่มีเงินสดคงเหลือสูงถึง 2.5 พัน ลบ. (24 บาท/หุ้น) คงแนะนำ HOLD และเพิ่ม TP เป็น 45 บาท จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และสัดส่วนการถือหุ้นที่สูงขึ้นในบริษัทโฮลดิ้ง เราชอบ KKP (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 80 บาท) มากกว่า TCAP เนื่องจาก KKP มีแนวโน้มสินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น พร้อม NPL Coverage สูง
ตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ 2 เท่าเป็น 4 พัน ลบ.ในปี 65 ผ่าน Tplus
ผู้บริหารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 14 พันลบ. ภายในสิ้นปี 65 (เทียบกับ 2 พันลบ. ในปี 64) และคาดผลตอบแทนสินเชื่อ 12% สำหรับธนชาตพลัส (Tplus) ซึ่งเน้นให้สินเชื่อที่มีหลักประกันแก่ SMEs ทั้งนี้ สินเชื่อของ TCAP เติบโต 10% YoY และ 3% QoQ ในไตรมาส 4/64 จากการให้สินเชื่อของ THANI และ Tplus ในแง่บวก TCAP ได้เปลี่ยนจากการลงทุนในตัวเงินคงคลังที่ให้ผลตอบแทน (ลดลง 40% YoY ในปี 64) เป็นการลงทุนในบริษัทร่วม เพิ่มขึ้น 10% YoY) โดยการเพิ่มการลงทุนใน TTB เพื่อเพิ่ม ROE ในระยะยาว
TCAP คาดว่าการดำเนินงานหลักจะฟื้นตัว
CEO คาดว่าการดำเนินงานของบริษัทโฮลดิ้งจะดีขึ้นในปี 65 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผู้บริหารเผยว่า THANI ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่ 2.64 หมื่น ลบ. (+13% YoY) และพอร์ตสินเชื่อ 5 หมื่น ลบ. (+4% YoY) ในปี 65 โดยได้แรงหนุนจากความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ธนชาตประกันภัย (TNI) ตั้งเป้าเบี้ยประกัน 1 หมื่น ลบ. โดยมุ่งเพิ่มยอดขายผ่านลูกค้า TTB ในปีนี้ โดย TNI เน้นการประกันภัยรถยนต์และไม่มีประกันโควิด
เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TTB และ THANI เพื่อเพิ่ม ROE
TCAP เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน THANI จาก 58.9% ในปี 63 เป็น 60.2% ในปี 64 นอกจากนี้ TCAP ยังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TTB จาก 20.1% ในปี 63 เป็น 23.3% ในปี 64 TCAP สามารถเพิ่มสัดส่วนใน TTB ได้ถึง 24.99% ซึ่งเป็นระดับที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทวางแผนที่จะค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนใน THANI ให้เป็น 65% เราคาดว่าสัดส่วนการถือหุ้นใน THANI และ TTB ที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่ม ROE ของ TCAP ในระยะยาว