สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง ลบต่ำสุดราว -56 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ปัจจัยกดดันมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาสินค้า Commodity หลาย ประเภทปรับตัวสูง โดยเฉพาะน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสินค้าหลายๆอย่าง ทำให้กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หุ้นขนาดใหญ่ท่ียืนในแดนบวกมีเพียง PTTEP และ BANPU ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,626.70 จุด -45.02 จุด -2.69% มูลค่าการซื้อขาย 127,806 ลบ. ต่างชาติ-2,293.61 ลบ. TFEX -27,641 สัญญา ตราสารหน้ี -10,345.44 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งข้ึน 3.72 ดอลลาร์ +3.2% ปิดที่ 119.40 ดอลลาร์/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีหลังมีรายงานว่าสหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปกำลังพิจารณาระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อตอบโต้รัสเซียท่ีใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน

+ จีนพร้อมประสานความร่วมมือกับประชาคมโลก ในกรณีที่จำเป็นต้องมีคนกลางในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง ระหว่างรัสเซียและยูเครน

+ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และช้ินส่วนท่ีสำคัญของโลก

+ ก.พาณิชย์คาดปี 2565 สินค้าสำหรับผู้สูงอายุเติบโต 19% ส่งออกนำรายได้เข้าประเทศประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท รถเข็น ฟันปลอม เครื่องช่วยฟัง เก้าอี้นั่งสุขา อนาคตสดใส

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 18,943 ราย ATK 19,622 ราย มีผู้เสียชีวิต 69 ราย รักษาหาย 25,005 ราย

ปัจจัยลบ

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 797.42 จุด -2.37% กังวลว่าการพุ่งข้ึนของราคาน้ำมันจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

– IMF ประกาศเตือนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตยูเครนว่าความขัดแย้งในยูเครนทำให้ราคาพลังงานและธัญพืชพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังมีผู้อพยพกว่า 1 ล้านคนไหลเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และทำให้ชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรท่ีรุนแรงที่สุดต่อรัสเซีย

– ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า สภาฯ กำลังศึกษาการออกกฎหมายห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่สภาคองเกรสมีแผนที่จะออกกฎหมายให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์น้ี เพื่อตอบโต้รัสเซียกรณีใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน

– เงินรูเบิลอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังมีปริมาณการซื้อขายนอกประเทศเบาบาง ขณะท่ีตลาดหลักทรัพย์ ในประเทศปิดการซื้อขายไปอย่างน้อยจนถึงวันพุธนี้

– สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลของสหพันธรัฐรัสเซียอนุมัติรายช่ือประเทศซึ่งมีการกระทำที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย บริษัทของรัสเซีย และประชาชนรัสเซีย

– ตัวเลขเงินเฟ้อในไทยมีแนวโน้มพุ่งแรงต่อเนื่องในเดือนมี.ค.ตาม ราคาน่ำมันท่ีพุ่งแรง หลังเกิดสถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน กดดันต้นทุนพลังงานและการดำเนินงานของบจ.ในช่วงไตรมาสแรกปีน้ี คาดจะเห็นนักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการปีน้ี

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ปรับตัวลงต่อตามทิศทางตลาดโลก โดยมีความวิตกกังวลจากการพุ่งข้ึนของราคาน้ำมันจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น ประกอบกับมีความเสี่ยงท่ีรัสเซียจะผิดนัดชำระหน้ี หลังโดนคว่ำบาตร มองกรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1,615-1,640

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
  • มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
  • กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และ กากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มข้ึน CPF GFPT ASIAN

หุ้นรายงานพิเศษ

SMD ซื้อ ราคาเหมาะสม 20.80

  • ผู้บริหารต้ังเป้ารายได้ปี 65 เติบโต 13%YoY สู่ 1.8 พันลบ. โดยได้แรงหนุนจากงบประมาณของภาครัฐอนุมัติงบราว 5 พันลบ.เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วย COVID- 19 การขายชุดตรวจ ATK ที่เร่งตัวขึ้นใน 1Q65 และการขายเครื่องกระตุกหัวใจ (AED) ให้แก่ ตึกที่สูงกว่า 8 ชั้น ขณะท่ีคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีข้ึนจาก 4Q64 ท่ี 28.5% เนื่องจากเกิดการประหยัดจากขนาดในการ ส่ังซื้อ ATK เพิ่มข้ึนช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น
  • ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q64 เนื่องจากใน 1Q65 ต้นทุนชุดตรวจ ATK ลดลงจากคำสั่งซื้อปริมาณเพิ่มข้ึน อีกท้ังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ช่วยหนุนยอดขายของชุดตรวจ ATK ให้เติบโต (4Q64 ยอดขาย 90 ลบ.) อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ารายได้และกำไรปี 65 จะลดลงเหลือ 1.44 พันลบ. และ 290 ลบ.หดตัว 10% และ 9% ตามลำดับ เนื่องจากเราใช้หลักระมัดระวังว่าคำส่ังซื้อครุภัณฑ์จะลดลงเมื่อการแพร่ระบาด COVID-19 สามารถควบคุมได้

page4image802378880

หุ้นมีข่าว

(+) TTA (Bloomberg Consensus 12.70 บาท) มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตกว่าปีก่อน ประเมินค่าขนส่งเฉลี่ยทั้งปี 25,000-30,000 เหรียญสหรัฐต่อลำต่อวัน พร้อมโชว์คำสั่งซื้อธุรกิจ Offshore ล่าสุดอยู่ที่ 292 ล้านเหรียญสหรัฐ รับรู้ปีนี้ 65% ทุ่ม 1,500 ล้านบาท แตกไลน์ 3 ธุรกิจ “ตั้งสายการบิน-เรือ ขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวฯ-รื้อถอนสิ่งติดตั้งในกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม” เล็งตั้งบริษัท แอร์ไลน์แบบเช่าเหมาลำ คาดอีก 9 เดือนเริ่มให้บริการได้ (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

(+) SAWAD (Bloomberg Consensus 72.00 บาท)แกรนด์โอเพนนิ่ง “ศรีสวัสดิ์ เดอะพาวเวอร์” ผนึกพันธมิตรยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าช้ันนำทั่วประเทศ ลุยตลาดสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้คอนเซ็ปต์ “Buy Now Pay Later” ซื้อก่อนจ่ายทีหลังเจาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ และผู้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก ตั้งเป้า 5 ปีพอร์ตเครื่องใช้ไฟฟ้าแตะ 10,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg Consensus 8.50 บาท) ยันสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่กระทบ เหตุไม่มียอดขายไปยังประเทศดังกล่าว แย้มผลงานไตรมาส 1/2565 ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งปีคาด เติบโต 50-70% เล็งปิดดีลอีคอมเมิร์ซเร็วๆ นี้ 1 ดีล หนุนโอกาสต่อยอดเติบโต ฟากโบรกมองผลงานปี 2565 โดดเด่น ส่วนแบ่ง Plant & Bean คาดจะพลิกมีกำไรลงทุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมกับ B เป็นอัพไซด์ ราคาเป้าหมาย 9.25 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MINT (Bloomberg Consensus 38.75 บาท) ตั้งเป้าปี 2565 ผลประกอบการพลิกกลับมามีกำไร จาก 3 ธุรกิจหลักฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมต้ังงบลงทุน 6.4 พันล้านบาท ใช้ก่อสร้างโรงแรมที่ดำเนินการอยู่ เล็งออกหุ้นกู้วงเงิน 7 พันล้านบาท รีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่จะครบอายุ มองสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ไม่กระทบ ฟากโบรกมองปี 2565 ธุรกิจฟื้นตัวเกิดอัพไซด์ คาดกำไรกลับมาท่ี 2.5 พันล้านบาท โรงแรมฟื้นยุโรปยกเลิกมาตรการคุมโควิด ประเมินราคาเป้าหมาย 43 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 8 มี.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์
  • สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
  • 16-17 มี.ค.ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลัง และรองผู้ว่าการธนาคารกลางเอเปค
  • 18 มี.ค.ประชุมศบค.ชุดใหญ่ พิจารณามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
  • 30 มี.ค.ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2565
  • 31 มี.ค.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 18 พ.ค.ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งท่ี 3/2565

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 8 มี.ค. อียูรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 4Q64 (ประมาณการครั้งสุดท้าย)

สหรัฐรายงานดุลการค้าเดือนม.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.

  • 9 มี.ค. จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.พ. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.

สหรัฐรายงานสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐสหรัฐ (EIA)

  • 10 มี.ค. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.

  • 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED

 

- Advertisement -