บล.พาย:

EGCO: หุ้นราคาถูกบวกกับภาพที่สดใสในปี 2022

ให้น้ำหนักเป็นบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 220.0 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 9.8%, TG 1%) อิง 11.0xPE’22E แนะนำสะสมเพิ่ม เพราะหุ้นมีราคาไม่แพง บวกกับมีภาพรวมที่สดใสในปี 2022

  • คาดกำไรปกติ 1Q22 จะปรับดีขึ้น YoY และ QoQ จากการรับรู้กำไรการลงทุนใน Linden และ APEX ในสหรัฐฯ (2Q-4Q21) ขณะที่คาดว่ายอดขายไฟฟ้าที่สูงขึ้นจากปัจจัยตามฤดูกาลจะช่วยชดเชยผลกระทบต่ออัตรากำไรที่เกิดขึ้นจากต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้นได้
  • บริษัทยังคงแผนการด้านงบลงทุนที่ 3.0 หมื่นล้านบาทสำหรับปี 2022 โดยมีเป้าหมายเป็นโครงการพลังงาน ทดแทนแห่งใหม่ คาดบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามาในพอร์ตอีกราว 1,000MW ในปี 2022 หรือโตขึ้น 15% จากพอร์ตปัจจุบันที่ 6.0GW
  • ปัจจุบันหุ้นมีมูลค่าซื้อขายที่ถูกในระดับ PBV เท่า หรือคิดเป็นส่วนลด 50% ต่อค่าเฉลี่ยของกลุ่มในประเทศ โดยเล็งเห็นว่าสัดส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สูงเมื่อเทียบกับพอร์ตโดยรวม (25%) คือปัจจัยฉุดผลการดำเนินงานบริษัท  ทั้งยังให้ภาพลักษณ์ด้าน ESG ที่ไม่ดีนักในสายตาของนักลงทุน
  • แต่คาดว่าปัจจัยด้านการขยายพอร์ตพลังงานทดแทนในช่วงหลัง (23% ในขณะนี้) และคาดการณ์ผลตอบแทนเงินปันผลที่ดีที่ 3.9% ในปี 2022-23 จะช่วยหนุนให้หุ้นมีมูลค่าสูงขึ้นได้

คาดกำไรปรับดีขึ้นใน 1Q22

  • คาดกำไรปกติ 1Q22 จะปรับดีขึ้น YoY และ QoQ จากการรับรู้กำไรการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า Linden Cogeneration ในสหรัฐฯ (เพิ่มเข้ามาใน 2Q21) และ Apex Clean Energy Holdings, LLC ในสหรัฐฯ (4Q21) ขณะที่คาดว่ายอดขายไฟฟ้าที่สูงขึ้นจากปัจจัยตามฤดูกาลจะช่วยชดเชยผลกระทบต่ออัตรากำไรที่เกิดขึ้นจากต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้นได้
  • คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมปี 2022 คาดกำไรปกติจะมีการเติบโตในกรอบแคบจาก 1) การรับรู้กำไรเต็มปี จากการลงทุนใน Linden และ Apex และ 2) การเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการใหม่ เช่น ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค (TPN) ภายใน 1Q22 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NT1PC ขนาด 161MWe ในลาวภายใน 2Q22

จัดสรรงบลงทุน 3.0 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 2022

  • บริษัทยังคงแผนการด้านงบลงทุนที่ 3.0 หมื่นล้านบาทสำหรับปี 2022 เพื่อขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าโดยมีเป้าหมายเป็นโครงการพลังงานทดแทน ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตในการดำเนินงานอยู่ 5.6GWe และอีก 303MWe ที่จะ COD ในปี 2022-23 (ไม่รวมโครงการ Apex)
  • มีมุมมองเชิงบวกต่อกลยุทธ์การขยายกิจการของบริษัท ด้วยการลงทุนในโครงการที่มีการดำเนินงานอยู่แล้ว  เพราะจะช่วยให้รับรู้กำไรได้ทันที โดยงบลงทุนที่กำหนดไว้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตเข้าพอร์ตอีก +1.0GWe คิดเป็นกำลังการผลิตที่โตขึ้น 15%
  • ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่งด้วยเงินสด 2.0 หมื่นล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อเงินทุน (D/E ratio) ที่ 1.1 เท่า จึงประเมินว่าการขยายกำลังการผลิตดังกล่าวจะลุล่วงได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุน
  • ปัจจุบันหุ้นมีมูลค่าซื้อขายที่ถูกในระดับ PBV 0.8 เท่า หรือคิดเป็นส่วนลด 50% ต่อค่าเฉลี่ยของกลุ่มในประเทศ โดยเล็งเห็นว่าสัดส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สูงเมื่อเทียบกับพอร์ตโดยรวม (25%) คือปัจจัยฉุดผลการดำเนินงานบริษัท ทั้งยังให้ภาพลักษณ์ด้าน ESG ที่ไม่ดีนักในสายตาของนักลงทุน แต่คาดว่าปัจจัยด้านการขยายพอร์ตพลังงานทดแทนในช่วงหลัง (23% ในขณะนี้) และคาดการณ์ผลตอบแทนเงินปันผลที่ดีที่ 3.9% ในปี 2022-23 จะช่วยหนุนให้หุ้นมีมูลค่าสูงขึ้นได้

สรุปผลประกอบการ

  • กำไรสุทธิ 4Q21 ลดลงเหลือ 935 ล้านบาท (-48% YoY, -13% QoQ) หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท (+97% YoY, -33% QoQ)
  • ผลประกอบการสอดคล้องกับคาดการณ์ โดยกำไรปกติทั้งปี ขณะที่กำไร 2Q21 เพิ่มเป็น 1.02 หมื่นล้านบาท (+17% YoY) สุทธิลดลงเหลือ 4.1 พันล้านบาท (-53% YoY) สืบเนื่องจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้จากเงินบาทที่อ่อนค่าลง
  • กำไรที่โต YoY ใน 4Q21 เป็นผลจากยอดขายไฟฟ้าของ KEGCO, Paju ES และ Quezon ที่สูงขึ้น และการรับรู้กำไรที่เข้าซื้อไปใน 2Q21-4Q21 จาก Linden และ Apex (USA) ที่เข้าซื้อ
  • ยอดขายไฟฟ้าที่ลดลงในโครงการ SBPL, NTPC และ BLCP เป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน และปริมาณน้ำที่ในโครงการ XPCL ทำให้กำไรลดลง QoQ
  • คาดกำไรปกติ 1Q22 ปรับดีขึ้นจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากโครงการ Linden Topco และ Apex (USA) ที่เข้าซื้อไปเมื่อ 2Q21-4Q21 และยอดขายไฟฟ้าที่ปรับดีขึ้นจาก SBPL, GPG และ BLCP หลังซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ

Revenue breakdown

EGCO เป็นบริษัทโฮลดิ้ง โดยแหล่งรายได้หลักของบริษัท คือ เงินปันผลจากบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้าในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทมีกำลังการผลิตที่ 5.6GWe จากการดำเนินงานทั้งทางตรงและทางอ้อม จากหลากหลายแหล่งที่รวมถึงถ่านหิน ก๊าซ co-generation พลังงานน้ำ พลังแสงอาทิตย์ลม และความร้อนใต้พิภพ

ในปี 2021 ยอดขายไฟฟ้าและบริการคิดเป็น 92% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่รายได้ค่าเช่าจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) คิดเป็น 8% ของรายได้ทั้งหมด

35% ของกำไรการดำเนินงานมาจากโครงการในประเทศอีก 65% มาจากโครงการในต่างประเทศ หากแบ่งตามประเภทเชื้อเพลิงส่วนแบ่งกำไรการดำเนินงานจะมาจากแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิมที่ 58% พลังงานทดแทนที่ 34% และอื่นๆ 8%

- Advertisement -