Daily Strategy

1,580 แนวรับที่แจ้งเมื่อวาน ทำงานได้ดีเน้นกลยุทธ์กลับมาตั้งรับ

สหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและแก๊สธรรมชาติจากรัสเซียเพื่อเป็นการตอบโต้ ที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าบุกโจมตียูเครน ส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับตัวขึ้น 3.9% ด้านตลาดหุ้น Dow Jones ปรับฐานราว 0.56% ทองคำ +2.37% หลักๆ นักลงทุนยังกังวลกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การประกาศคว่ำบาตรรัสเซียจากสหรัฐถือว่าส่งผลกระทบต่อรัสเซียค่อนข้างจำกัด เพราะรัสเซียส่งออกน้ำมันไปยังสหรัฐเพียง 3% ของปริมาณส่งออกน้ำมันทั้งหมด ด้านสหรัฐเองก็เชื่อว่าไม่มีปัญหาด้านการขาดแคลนพลังงาน เพราะปัจจุบันสหรัฐเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับแรกของโลกโดยที่ควรจับตาใกล้ชิด คือ EU ปัจจุบัน EU พึ่งพิงน้ำมันและแก๊สธรรมชาติจากรัสเซียค่อนข้างสูง รัสเซียส่งออกน้ำมันไปยัง EU 60% ของปริมาณส่งออกทั้งหมด ส่วนประเทศไทยไม่มีผลกระทบทางตรง กรณีสหรัฐคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย แต่จะโดนผลกระทบทางอ้อมผ่านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะสูงขึ้น สร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและต้นทุนบริษัท รวมถึงต้นทุนการใช้ชีวิตประจาวันของประชาชนจะสูงขึ้น เป็นแรงกดดันต่อประมาณการเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับฐานจากจุดสูงสุดลงมาที่จุดต่ำสุดวานนี้ (1,580) ลงมาแล้วถึง 7.6% ทดสอบแนวรับสำคัญของเรา จึงมองว่าตลาดเองก็ Price In ประเด็นนี้ไปพอสมควรแล้ว และระดับ Earnings Yield Gap ก็กลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีย้อนหลัง บ่งชี้ถึงความน่าสนใจลงทุนระยะกลางขึ้นไป หากสถานการณ์ไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ คาดหวังว่าบริเวณ 1,580 จะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งได้ คาด SET วันนี้แกว่งบวก 1620-1627

อุตสาหกรรมที่แนะนำยังเป็น Domestic ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค เพราะเราได้สืบค้นข้อมูลพบว่า กลุ่มเกี่ยวข้องกับการอุปโภค บริโภค สามารถผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นส่งผ่านไปยังผู้บริโภคได้ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL DOHOME HMPRO GLOBAL) เครื่องดื่ม (CBG TACC) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ร้านอาหาร (M) ดังนั้น ในภาวะที่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นก็เชื่อว่าบริษัทเหล่านี้มีความสามารถเพียงพอในการส่งผ่านต้นทุนออกไป ขณะเดียวกันบางอุตสาหกรรม อาทิ สื่อสาร (ADVANC) ก็เป็นหุ้นที่รับผลกระทบจำกัดจากความไม่สงบยูเครน – รัสเซีย กลยุทธ์ การลงทุนหากเมื่อวานใครสะสมไปแล้วแนะถือต่อ แต่หากยังไม่สะสมแนะหาจังหวะสะสมในหุ้นที่กล่าวไปข้างต้น

COM7 (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 92.5 บาท) เพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” และเพิ่มมูลค่าพื้นฐานขึ้น 34% เป็น 92.50 บาท อิง 34.5xPE’22E หรือคิดเป็น +0.25SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี คาดกำไรโตแข็งแกร่งในปี 2022 ที่ +23% หนุนจากยอดขาย iPhone 14 ที่แข็งแกร่ง จากอัตราการเข้าถึงอุปกรณ์ 5G มากขึ้น

BJC (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 40 บาท) คาดผลประกอบการจะค่อยๆดีขึ้นในปี 2022 จากจุดต่ำสุดในปี 2021 หนุนจาก 1) ผลประกอบการ BigC ที่ดีขึ้น 2) ยอดขายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ทั้งในไทยและเวียดนาม 3) รายได้ค่าเช่าฟื้นตัวจากการให้ส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง

- Advertisement -